สาวๆ ที่กำลังลุ้นหรือวางแผนว่าจะมีเบบี๋ตัวน้อย อาการช่วงหนึ่งสัปดาห์แรกหลังการปฏิสนธิถือเป็นช่วงที่ทั้งน่าตื่นเต้นและลุ้นสุดๆ ว่าเจ้าตัวเล็กจะแวะมาอยู่ด้วยหรือเปล่านะ? ร่างกายเราที่จริงๆแล้วสุดยอดมากๆก็อาจจะมีการส่งสัญญาณเบาๆ ในช่วงเริ่มตั้งครรภ์ได้ แม้ยังไม่ทันรู้ตัว มาเช็คกันหน่อยดีกว่าค่ะว่ามีอาการไหนบ้างที่น่าจับตามอง
การปฏิสนธิและจุดเริ่มต้นของการตั้งครรภ์
ก่อนจะไปพูดถึงอาการต่างๆ อยากชวนสาวๆเข้าใจกระบวนการตั้งครรภ์สักนิดค่ะ เมื่อมีการปฏิสนธิระหว่างสเปิร์มและไข่ ตัวอ่อนเล็กๆ ก็จะค่อยๆ เดินทางมาฝังตัวที่บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งจริงๆ แล้วนับไปแล้วอาจใช้เวลาเกินหนึ่งสัปดาห์ด้วยซ้ำ ทำให้ในทางการแพทย์แล้ว สัปดาห์แรกแห่งการตั้งครรภ์จริงๆ มักนับจากวันแรกของรอบเดือนครั้งสุดท้ายนะคะ
สัญญาณบอกเหตุ: อาการเบื้องต้นช่วงสัปดาห์แรก
ถึงร่างกายจะกำลังวุ่นๆ อยู่กับการเตรียมพร้อมต้อนรับเจ้าตัวน้อย แต่อาจจะส่งสัญญาณบางอย่างที่เราพอจะสังเกตได้ มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง:
- เลือดออกน้อย ๆ หรือเลือด “ฝังตัว” บางคนอาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยสีน้ำตาลเข้มหรือชมพูจางๆ ซึ่งเป็นเลือดที่ออกเล็กน้อยเมื่อตัวอ่อนฝังตัวลงที่ผนังมดลูก แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนท้องทุกคนนะ
- ปวดท้องหน่วงๆ คล้ายปวดประจำเดือนมา อาจรู้สึกปวดตื้อๆ คล้ายๆ จะมีประจำเดือน แต่จะจางกว่าค่ะ
- เต้านมเปลี่ยนแปลง บวม คัดตึง นี่เป็นสัญญาณคลาสสิคเลย เพราะมีการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน เตรียมพร้อมสำหรับผลิตน้ำนมในอนาคต ทำให้รู้สึกว่าเต้านมบวม แน่น หรือเจ็บๆ หน่วงๆ ได้
- ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ใครๆก็บอกว่าท้องแล้วปัสสาวะบ่อย จริงๆ ในช่วงแรกอาจมีการขับปัสสาวะมากกว่าเดิมเล็กน้อยค่ะ
- รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเพลีย ง่วงเหงาหาวนอน แถมยังเหนื่อยง่ายผิดปกติ
- อารมณ์แปรปรวน รู้สึกเหวี่ยงง่าย หรืออาจจะมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ
เมื่อไหร่ที่ควรตรวจการตั้งครรภ์
ถ้าประจำเดือนขาดไปสักระยะแล้ว นั่นแหละสัญญาณชัดเจนว่าควรตรวจตั้งครรภ์แล้วนะ หรือถ้าใจร้อนรอช่วงปกติของรอบเดือนไม่ได้ ลองซื้อชุดตรวจตั้งครรภ์จากร้านขายยามาตรวจได้หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ (และอาจเกิดการปฏิสนธิได้) ไปแล้วประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ค่ะ จะตรวจช่วงกลางดึกๆ หรือนับตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าแล้วฉี่ครั้งแรกเลยก็ได้ จะให้ผลแม่นยำสูง
ความแตกต่างระหว่างอาการก่อนมีประจำเดือนและอาการตั้งครรภ์
หลายอาการเหมือนกันเด๊ะใช่ไหมล่ะคะ? ก็เป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะสาเหตุหลักก็เกิดจากฮอร์โมนตัวเดียวกันทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการปวดท้องน้อย เต้านมคัดตึง อารมณ์แปรปรวน แต่ถ้าท้อง จะมีอาการคลื่นไส้ เหนื่อยเพลีย หรืออาการเฉพาะอย่างเลือดออกตอนฝังตัวที่มักเห็นชัดในช่วงตั้งครรภ์มากกว่า
อาการแบบไหนควรรีบไปพบหมอ
- มีเลือดไหลออกมามากกว่าแค่จางๆ
- ปวดท้องมาก มีอาการหนาวสั่น หรือเวียนหัวจะเป็นลม
- มีอาการแพ้ท้องมากจนทานอะไรไม่ได้เลย น้ำหนักลดเร็ว
การดูแลตัวเองเมื่อสงสัยว่าท้อง
ถ้าเราสงสัยว่าจะมีเบบี๋น้อยมาอยู่ด้วยแล้วล่ะก็
- ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเน้นผักผลไม้ อาหารที่ปรุงสุกสะอาด
- พักผ่อนเยอะๆ พยายามออกกำลังกายเบาๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง
- เลี่ยงคาเฟอีน แอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรืออะไรที่เป็นอันตรายทั้งต่อตัวเองและเจ้าตัวเล็ก
- ทานโฟลิกแอซิดเพื่อเตรียมความพร้อม
สรุป
การจับสัญญาณจากร่างกายเป็นความสามารถพิเศษของผู้หญิงเลยจริงๆ นะคะ อาการในช่วงแรกๆอาจชวนสับสนอยู่สักหน่อย แต่ถ้ามีความรู้ที่ถูกต้อง รู้ทันรอบประจำเดือนของตัวเอง ก็จะเป็นประโยชน์มากๆสำหรับการตรวจตั้งครรภ์ให้ไว เพื่อที่เราจะได้ดูแลทั้งตัวเองและเจ้าตัวเล็กน้อยให้แข็งแรงที่สุดตั้งแต่ในท้องยังไงล่ะคะ
ขอให้สาวๆคนไหนที่อยากมีเบบี๋ สมหวังทุกคนนะคะ ส่วนใครยังไม่อยากมีตอนนี้ ก็อย่าลืมป้องกันด้วยนะคะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
- ทํานายฝันว่าตัวเองท้องมีลูก เห็นคนท้อง พร้อมเลขเด็ดแม่น ๆ
- ไอเดียตั้งชื่อเล่นลูกสาว-ลูกชาย น่ารักเก๋ ๆ ความหมายดี
- 50 คำอวยพรวันเกิดลูกสาว สุดซึ้ง กลั่นกรองจากใจ
- 80 แคปชั่นโพสต์รูปลูกชาย ลูกสาว ลูกคือทุกอย่าง!