ทุกปี มีการถูกแมวกัดประมาณ 400,000 ครั้งในสหรัฐอเมริกาโดยสัตว์กัดคิดเป็นประมาณร้อยละ 1 ของการเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินทั้งหมด ใครจะคิดว่ารอยข่วนหรือกัดเล็กๆ จากแมวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่? ในความเป็นจริงแล้ว แผลแมวกัดถือเป็นความเสี่ยงสูงและต้องการการรักษาทันที เพราะเขี้ยวแมวแหลมคมจึงสร้างบาดแผลลึกที่เสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียสูงมาก หากปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามเป็นปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพ
ทำไมแผลแมวกัดถึงน่ากังวล?
- เขี้ยวแหลมคม ก่อแผลลึก: เขี้ยวแมวที่เล็กและแหลมสามารถเจาะเนื้อเยื่อได้ลึก ส่งผลให้เกิดบาดแผลเจาะที่รักษายากและเสี่ยงการปนเปื้อนสูง
- แบคทีเรียอันตราย: ภายในปากของแมวมักมีแบคทีเรีย Pasteurella multocida ที่นำไปสู่ภาวะติดเชื้อที่มือได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง
- ตำแหน่งบาดแผล: แมวมักกัดหรือข่วนบริเวณมือ ซึ่งมีเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อจำนวนมาก หากติดเชื้อสามารถกระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของมือได้ง่าย
โดนแมวกัด? ปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธี
หากคุณถูกแมวกัด ให้ปฏิบัติดังนี้:
- ทำความสะอาดแผลอย่างพิถีพิถัน: ล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที
- ปรึกษาแพทย์: แม้คิดว่าล้างแผลดีแล้วก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแผลลึกหรือกว้าง แพทย์จะพิจารณาจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
เมื่อไหร่ต้องพบแพทย์ด่วน
รีบไปห้องฉุกเฉินหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้หลังจากถูกแมวกัด:
- บาดแผลแดง บวม หรือเจ็บมาก
- มีไข้
อย่าลืมตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนของแมวด้วย เพราะแมวบางตัวอาจเป็นพาหะเชื้อพิษสุนัขบ้า หากไม่ทราบประวัติของแมวหลังโดนกัด คุณอาจต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า นอกจากนี้ บาดแผลจากแมวอาจทำให้เกิดโรคแมวข่วนได้เช่นกัน
สรุป
อย่าชะล่าใจกับแผลจากการถูกแมวกัดหรือข่วน การรีบทำความสะอาดบาดแผลและไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนที่อาจรุนแรง ป้องกันไว้ดีกว่ามานั่งเสียใจในภายหลังนะคะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
- 10 ขนมแมวเลีย อร่อยถูกใจน้องเหมียว ดีต่อสุขภาพ
- ทํานายฝันเห็นแมว ความหมายดี ๆ พร้อมเลขเด็ด!
- 100 แคปชั่นแมว & ทาสแมว น่ารักตลก ๆ กวน ๆ
- 90 แคปชั่นแมว ขี้อ้อน น่ารัก ครบ ทาสแมวใจละลาย!