รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] หุบเขารัก | Ransom Canyon (2025) เมื่อความรักและความโง่เขลามาบรรจบกัน

บางครั้งการดูซีรีส์ก็เหมือนกับการเดินทางบนถนนที่ไม่รู้จบ คุณอาจพบจุดที่ทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่กำลังดูนั้นคุ้มค่ากับเวลาหรือไม่ สำหรับ Ransom Canyon (2025) จุดนั้นมาถึงตั้งแต่ตอนจบของ Episode 1 เมื่อ Quinn O’Grady (Minka Kelly) เปิดใจบอกความรู้สึกจริงๆ ของเธอให้ Staten Kirkland (Josh Duhamel) ฟัง แต่แทนที่เรื่องจะพัฒนาอย่างน่าตื่นเต้น Staten กลับเลือกทำตัวเป็นตัวละครน่ารำคาญที่พูดไม่เป็นเรื่องเมื่อถึงเวลาที่ควรพูด

ความสัมพันธ์ระหว่าง Quinn และ Staten นั้นชัดเจนเกินไป ดูผิวเผิน และขาดความลึกซึ้ง แต่ปัญหาของ Ransom Canyon ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ตัวละครเกือบทุกคนในเรื่องต่างตัดสินใจแบบ “โง่ๆ” เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไป แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยกันอย่างมีเหตุผล

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อกับซีรีส์ที่ใช้ “ความไม่สื่อสาร” เป็นเครื่องมือสร้างดราม่า Ransom Canyon อาจทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดตั้งแต่แรกเห็น เพราะที่นี่ ดราม่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงเพราะตัวละคร “ไม่ยอมคุยกัน”

หุบเขารัก | Ransom Canyon (2025)

รีวิวและเรื่องย่อ Ransom Canyon (หุบเขารัก)

Ransom Canyon ถูกขับเคลื่อนด้วยสิ่งที่เรียกว่า “Idiot Plot” หรือพล็อตที่อาศัยความโง่เขลาของตัวละครเป็นหลัก หาก Staten แค่บอก Quinn ว่าเขารักเธอตั้งแต่แรก หรือถ้า Lauren (Lizzy Greene) บอก Lucas (Garrett Wareing) เกี่ยวกับข้อตกลงกับพ่อของเธอตั้งแต่ต้น เรื่องทั้งหมดก็คงจบลงโดยไม่ต้องมีดราม่ามากมาย

แต่ไม่ใช่แค่เรื่องความรักเท่านั้น แม้แต่การตัดสินใจเรื่องธุรกิจอย่างการจัดการที่ดินของ Staten ก็ดูขาดเหตุผล หากเขาคุยกับ Davis Collins (Eoin Macken) ตั้งแต่แรก ปัญหาหลายอย่างก็อาจไม่เกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า “ทำไมตัวละครเหล่านี้ไม่คุยกันให้จบๆ ไปเลย?”

Advertisement

ซีรีส์เรื่องนี้พยายามจับหลายเส้นเรื่องพร้อมกัน ทั้งความรักของ Quinn-Staten-Davis ปัญหาครอบครัวของ Lauren และการแข่งขัน Rodeo ของ Yancy (Jack Schumacher) แต่กลับทำได้ไม่ดีเลย เพราะเมื่อโฟกัสไปที่เรื่องหนึ่ง ผู้ชมก็ลืมอีกเรื่องหนึ่งไปอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างเช่น ตอนที่เรื่องพูดถึง “การต่อสู้กับบริษัทใหญ่” เราก็ลืมไปแล้วว่า Lauren ต้องการหนีจากสภาพแวดล้อมของเธอ หรือตอนที่ Yancy ปรากฏตัวในบ้านของ Cap Fuller (James Brolin) และในฉากถัดไปก็อยู่ที่บาร์คุยกับ Ellie (Marianly Tejada) โดยไม่มีความรับผิดชอบว่าเขาเดินทางไปยังไง ทำให้รู้สึกเหมือนตัวละครถูก “ย้ายฉากแบบลอยๆ”

ซีรีส์เรื่องนี้พยายามสร้างความตื่นเต้นผ่าน “อุบัติเหตุรถยนต์” และ “ความสัมพันธ์สามเส้า” แต่กลับทำได้ไม่น่าสนใจ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนผู้ชมไม่ทันได้รู้สึกอะไร ส่วนความสัมพันธ์ของตัวละครหลักก็วนเวียนอยู่กับการ “เลิกแล้วกลับมาคืนดี” จนน่าเบื่อ

แม้แต่ตัวละครอย่าง Reid (Andrew Liner) ที่มีความทุกข์ซ่อนอยู่ ก็ไม่ถูกนำเสนอออกมาได้ดีพอ เพราะ Ransom Canyon เลือกโฟกัสที่ความสัมพันธ์ผิวเผินมากกว่าการขุดลึกจิตใจตัวละคร

หากคุณกำลังมองหาซีรีส์รักโรแมนติกที่สมจริงและมีชั้นเชิง Ransom Canyon อาจไม่ใช่คำตอบ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยตัวละครที่ตัดสินใจแบบไม่มีเหตุผล ดราม่าที่ถูกยืดเยื้อด้วยความไม่สื่อสาร และการเล่าเรื่องที่ขาดสมดุล

แต่ถ้าคุณชอบซีรีส์ที่เน้นความสัมพันธ์แบบผิวเผินและไม่ซีเรียสกับความน่าเชื่อถือของเรื่อง Ransom Canyon อาจยังพอให้ความบันเทิงบ้าง แม้จะไม่มากนัก

คุณคิดว่า Ransom Canyon น่าดูหรือไม่? แชร์ความเห็นของคุณด้านล่าง!

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: หุบเขารัก
  • ประเภท: ดราม่า, โรแมนติก, คาวบอยสมัยใหม่
  • วันที่ออกอากาศ: 17 เมษายน 2025
  • นักแสดงนำ: Josh Duhamel, Minka Kelly, Eoin Macken, Lizzy Greene, James Brolin
  • ผู้กำกับ: Amanda Marsalis, Meera Menon, Michael Offer
  • จำนวนตอน/ความยาว: 10 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 6.5/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

Advertisement
กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button