![[รีวิว-เรื่องย่อ] โปรเจกต์ยูเอฟโอ | Project UFO (2025) เรื่องเล่าบันเทิงหรือเสียดสีสังคม?](https://www.nanitalk.com/wp-content/uploads/2025/04/Review-Project-UFO-2025.webp)
ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์แนวคอมเมดี้ไซ-ไฟที่เต็มไปด้วยมุกตลกแบบรัวๆ Project UFO (2025) อาจไม่ตอบโจทย์คุณเท่าไร เพราะซีรีส์เรื่องนี้เลือกเดินเส้นทางที่แตกต่างมันขมับไปด้วยอารมณ์ขันแบบแห้งๆ และภาพลักษณ์ที่ออกแนว “แปลกแต่จริง” แทนที่จะเป็นความเฮฮาแบบทั่วไป
แต่สิ่งที่ทำให้ Project UFO น่าสนใจคือการหยิบยกเรื่องจริงอย่างกรณีลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาวที่เมืองเอมิลซิน (Emilcin) ในปี 1978 มาเล่าใหม่ด้วยมุมมองที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันแบบเสียดสี ผู้สร้างอย่าง Kasper Bajon ไม่เพียงแต่นำเสนอเรื่องยูเอฟโอ แต่ยังสอดแทรกการเมืองยุค PRL (โปแลนด์ยุคคอมมิวนิสต์) และบทบาทของสื่อที่บิดเบือนความจริง
แล้วซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่? คำตอบอาจไม่ชัดเจน เพราะแม้จะมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและการแสดงที่เปี่ยมพลัง แต่โครงเรื่องกลับขาดความคมชัดและความลึกซึ้งที่ควรมี

รีวิวและเรื่องย่อ Project UFO (โปรเจกต์ยูเอฟโอ)
Project UFO ดัดแปลงจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับ Jan Wolski ชาวนาโปแลนด์ที่อ้างว่าถูกมนุษย์ต่างดาวสีเขียวลักพาตัวขณะขับรถม้าในปี 1978 Bajon เลือกเปลี่ยนชื่อตัวละครและสถานที่ แต่ยังคงแก่นเรื่องไว้อย่างครบถ้วน
แต่สิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องมนุษย์ต่างดาวธรรมดาคือการเชื่อมโยงกับบริบททางการเมืองของโปแลนด์ยุค 70s-80s ซึ่งเต็มไปด้วยความวุ่นวายจากขบวนการโซลิดาริตี้ (Solidarity) และกฎอัยการศึก ซีรีส์ฉายให้เห็นว่าในขณะที่สังคมกำลังเผชิญวิกฤต ผู้คนและสื่อกลับหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเหนือธรรมชาติแทนที่จะสนใจปัญหาใกล้ตัว
หนึ่งในประเด็นหลักของ Project UFO คือการวิพากษ์บทบาทของสื่อ Jan Polgar (รับบทโดย Piotr Adamczyk) พิธีกรรายการ Close Encounters ต้องแข่งขันกับ Zbigniew Sokolik (Mateusz Kościukiewicz) นักวิจัยยูเอฟโอที่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวอาศัยในเบอร์มิวดาไทรแองเกิล
การแข่งขันระหว่างสองตัวละครนี้สะท้อนให้เห็นว่า “เรตติ้ง” และ “ความน่าตื่นเต้น” กลายเป็นสิ่งสำคัญกว่าความจริง Bajon พยายามใช้เรื่องนี้เพื่อเสียดสีสังคม แต่การเล่าเรื่องกลับขาดความหนักแน่นพอที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนใจ
แม้ Project UFO จะมีสไตล์การถ่ายทำที่โดดเด่นและฉากแปลกตา (เช่น ฉากเซ็กซ์ที่ถ่ายด้วยมุมกล้องแบบเหวี่ยงไปมา) แต่เนื้อเรื่องกลับขาดความเชื่อมโยง Bajon ไม่สามารถดึงอารมณ์ขันหรือความตื่นเต้นจากประเด็นที่เขาตั้งคำถามได้อย่างเต็มที่
ผลลัพธ์คือซีรีส์ที่ดู “แปลกตา” แต่ไม่สามารถดึงผู้ชมให้จดจ่อได้ตลอดรอดฝั่ง
แม้บทบาทของตัวละครหญิงจะไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างลึกซึ้ง แต่การแสดงของ Maja Ostaszewska (Wera Wierusz), Julia Kijowska และ Marianna Zydek ก็ทำให้ซีรีส์มีชีวิตชีวา Ostaszewska เปล่งพลังความเซ็กซี่ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ในขณะที่ Kijowska และ Zydek ก็เล่นได้อย่างเต็มที่แม้บทจะบาง
หากไม่มีนักแสดงกลุ่มนี้ Project UFO อาจกลายเป็นซีรีส์ที่แห้งแล้งและไร้ชีวิตชีวา
Project UFO เป็นซีรีส์ที่ลองทำอะไรแตกต่างมันไม่ใช่คอมเมดี้เต็มตัว ไม่ใช่ไซ-ไฟเข้มข้น และไม่ใช่การเมืองเสียดสีที่หนักหน่วง แต่เป็นการผสมผสานที่อาจเข้ากันไม่ค่อยดีนัก
หากคุณชอบงานที่แปลกตาและเต็มไปด้วยสไตล์วิสัยทัศน์ อาจลองดูสักครั้ง แต่ถ้าคุณต้องการเนื้อเรื่องที่หนักแน่นและคมชัด อาจต้องมองหาซีรีส์อื่น
คุณคิดว่า Project UFO น่าสนใจแค่ไหน? แชร์ความเห็นของคุณด้านล่าง หรือถ้าชอบบทวิเคราะห์แบบนี้ กดไลค์และแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน!
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: โปรเจกต์ยูเอฟโอ
- ประเภท: ดราม่า, ไซไฟ, การเมือง
- วันที่ออกอากาศ: 16 เมษายน 2025
- นักแสดงนำ: Piotr Adamczyk, Mateusz Kościukiewicz, Maja Ostaszewska, Julia Kijowska
- ผู้กำกับ: Kasper Bajon
- จำนวนตอน/ความยาว: 4 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 5.6/10
- ช่องทางการดู: Netflix