รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] Bad Influence: The Dark Side of Kidfluencing (2025)

โลกออนไลน์คือพื้นที่ที่ใครๆ ก็มองว่าเป็นโอกาสทองสำหรับเด็กยุคใหม่ โดยเฉพาะเหล่า “เด็กอินฟลูเอนเซอร์” ที่ดูเหมือนจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ทั้งชื่อเสียง ความสนุกสนาน และรายได้มหาศาล แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่สดใสนั้น กลับซ่อนความจริงอันโหดร้ายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน สารคดี Bad Influence: The Dark Side of Kidfluencing (2025) ถือเป็นกระจกสะท้อนสังคมที่ทำให้เราต้องหันกลับมามองว่า แท้จริงแล้ว เด็กเหล่านี้กำลังถูกเอาเปรียบหรือไม่?

หนึ่งในกรณีศึกษาที่โดดเด่นคือ Piper Rockelle เด็กสาวที่เคยโด่งดังจากคลิปวิดีโอสนุกๆ แต่ภายหลังกลับถูกฟ้องร้องและเปิดโปงถึงการถูกควบคุมโดยแม่และทีมงานอย่างไม่เหมาะสม สารคดีชิ้นนี้ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นความโหดร้ายของวงการนี้ แต่ยังชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ของกฎหมายที่ไม่มีใครปกป้องเด็กเหล่านี้อย่างจริงจัง

แล้วอะไรคือความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่? ทำไมเด็กๆ จำนวนมากจึงตกเป็นเหยื่อของระบบนี้โดยไม่รู้ตัว? สารคดีเรื่องนี้จะพาคุณไปพบกับความจริงที่อาจทำให้คุณต้องทบทวนอีกครั้งว่า การสนับสนุนคอนเทนต์เด็กอินฟลูเอนเซอร์นั้น กำลังส่งเสริมความสุขของพวกเขา หรือทำร้ายพวกเขาโดยไม่รู้ตัว?

Bad Influence: The Dark Side of Kidfluencing (ด้านมืดของอินฟลูเอนเซอร์เด็ก)

รีวิวและเรื่องย่อ Bad Influence: The Dark Side of Kidfluencing (ด้านมืดของอินฟลูเอนเซอร์เด็ก)

Piper Rockelle คือหนึ่งในเด็กอินฟลูเอนเซอร์ที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้ ด้วยยอดผู้ติดตามหลายล้านคนและคอนเทนต์ที่ดูสนุกสนาน แต่เบื้องหลังนั้น เธอกำลังเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล สารคดีเปิดเผยว่า แท้จริงแล้ว Piper ถูกควบคุมโดยแม่ของเธอ Tiffany Smith ซึ่งผลักดันให้เธอสร้างคอนเทนต์ที่เกินวัย เพื่อดึงดูดยอดวิวและรายได้

สิ่งที่ช็อกผู้ชมคือการที่ Tiffany บังคับให้ Piper และกลุ่มเพื่อน (หรือที่เรียกว่า “Squad”) สร้างสถานการณ์ที่ดูเกินจริง บางครั้งถึงขั้นอันตรายหรือไม่เหมาะสมกับวัย โดยอ้างว่าเป็นเพียง “ความบันเทิง” แต่ในความเป็นจริง มันคือการเอาเปรียบจิตใจของเด็กที่ยังไม่พร้อมรับผลกระทบจากโลกออนไลน์

บทความที่เกี่ยวข้อง
Advertisement

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่สารคดีเน้นย้ำคือ ความล้มเหลวของกฎหมาย ในการปกป้องเด็กอินฟลูเอนเซอร์ ปัจจุบัน ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่ควบคุมการทำงานของเด็กเหล่านี้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ปกครองหรือแม้แต่เอเจนซีสามารถแสวงหาประโยชน์จากเด็กได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา กฎหมายคุ้มครองเด็กนักแสดง (Coogan Law) ระบุว่าต้องมีการกันเงินส่วนหนึ่งไว้ให้เด็ก แต่กฎหมายนี้ไม่ครอบคลุมถึงเด็กอินฟลูเอนเซอร์ ทำให้เด็กหลายคนถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างรายได้โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม

นอกจากแรงกดดันจากผู้ปกครองแล้ว สารคดียังเปิดเผยถึง อันตรายจากผู้ชมบางกลุ่ม ที่แฝงตัวอยู่ในคอมเมนต์และข้อความส่วนตัว ข้อมูลทางสถิติชี้ว่า วิดีโอของเด็กอินฟลูเอนเซอร์มักถูกแชร์ในกลุ่มผู้ที่มีความสนใจในทางที่ผิด ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่แทบไม่มีระบบการกรองหรือป้องกัน

แม้แพลตฟอร์มอย่าง YouTube หรือ TikTok จะมีนโยบายต่อต้านการคุกคามเด็ก แต่ในทางปฏิบัติ การรายงานและบล็อกผู้ใช้งานเหล่านี้ยังทำได้ไม่รวดเร็วพอ ทำให้เด็กๆ ต้องเผชิญกับความเสี่ยงทุกวันโดยไม่มีใครปกป้อง

“Bad Influence: The Dark Side of Kidfluencing” ไม่ใช่แค่สารคดีที่เปิดโปงความจริง แต่คือเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเด็กๆ ที่กำลังตกเป็นเหยื่อของระบบนี้ ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง แพลตฟอร์ม หรือรัฐบาล ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ชมที่เคยสนับสนุนคอนเทนต์เด็กอินฟลูเอนเซอร์ ลองถามตัวเองอีกครั้งว่า นี่คือสิ่งที่เด็กๆ ต้องการจริงๆ หรือไม่? แชร์สารคดีนี้เพื่อสร้างความตระหนักรู้ หรือร่วมแสดงความคิดเห็นว่าคุณคิดอย่างไรกับประเด็นนี้

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ด้านมืดของอินฟลูเอนเซอร์เด็ก
  • ประเภท: สารคดี
  • วันที่ออกอากาศ: 9 เมษายน 2025
  • นักแสดงนำ: ไพเพอร์ ร็อคเคลล์, ทิฟฟานี สมิธ, อดีตสมาชิก The Squad
  • ผู้กำกับ: คีฟ เดวิดสัน, เจนนา โรเชอร์
  • จำนวนตอน: 3 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 6.8/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

Advertisement
กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button