รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] ทนายซีไอเอ | The Recruit ซีซั่น 2 (2025)

เคยไหมที่คุณเริ่มต้นทำอะไรเร็วเกินไป แล้วรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะล้ม? The Recruit ก็เป็นแบบนั้น มันอยู่ตรงกลางระหว่างการตระหนักว่ามีอะไรเกิดขึ้น กับช่วงเวลาที่คุณกำลังจะล้มลง มันคือความวุ่นวายที่ถูกขับเคลื่อนด้วยโมเมนตัมของตัวเอง นี่ไม่ใช่การวิจารณ์นะ ซีซั่นแรกของเรื่องนี้คือหนังสายลับที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และใช้เสน่ห์ของ Noah Centineo เป็นเชื้อเพลิงหลัก ส่วนซีซั่น 2 ก็ยังเป็นแบบนั้น แต่มีเอพพิโสดน้อยลงและแอคชันมากขึ้น ซึ่งก็ไม่น่าเสียดายเท่าไหร่

The Recruit ไม่ได้มีอะไรใหม่เลย แม้ว่ามันจะดูน่าสนใจ มันเล่าเรื่องเกี่ยวกับทนายความของ CIA (ใช่แล้ว ทนายความ!) ที่มีความคิดแบบฮีโร่ และทำให้เขาตกอยู่ในวงโคจรของแผนการทางการเมืองที่เต็มไปด้วยการหักหลัง แต่สิ่งที่ตลกที่สุดคือ Owen Hendricks (รับบทโดย Noah Centineo) ไม่เคยได้ทำงานทนายความเลยสักครั้ง เขามักจะแนะนำตัวเองว่าเป็นทนายความ แต่คนก็ไม่เชื่อ เพราะเขาทำงานให้ CIA และนั่นคือทั้งหมดที่ใครๆ ต้องรู้

ความต้องการของ Owen ที่จะพิสูจน์ให้คนเห็นว่าเขาเป็นทนายความที่เก่งและฉลาด ทำให้ทุกสถานการณ์ที่เขาตกอยู่ในนั้นแย่ลง ซึ่งเป็นเรื่องจริงในซีซั่นแรก และยิ่งจริงมากขึ้นในซีซั่น 2 ที่ Owen ยังคงถูกมองว่าเป็นตัวปัญหา ทำให้เขาถูกกักอยู่ในออฟฟิศเล็กๆ และต้องเผชิญกับการสอบสวนเรื่องการต่อต้านสายลับ ไม่มีใครอยากคุยกับเขาจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ Max Meladze อดีตสายลับรัสเซียที่ Owen เคยมีความสัมพันธ์ด้วย

ทนายซีไอเอ | The Recruit ซีซั่น 2 (2025)

รีวิวและเรื่องย่อ The Recruit (ทนายซีไอเอ) ซีซั่น 2

ความพยายามของ Owen ที่จะกลับมาเป็นที่ยอมรับใน CIA และหลีกเลี่ยงความเบื่อหน่าย ทำให้เขาตกอยู่ในแผนการสมคบคิดอีกครั้ง เมื่อเขาได้รับจดหมายขู่กรรโชก (graymail) ที่ส่งถึงอดีตผู้ใช้งานออฟฟิศของเขา ซึ่งเปิดเผยว่ามีสายลับจาก National Intelligence Service ของเกาหลีใต้ที่พร้อมจะเปิดโปงความลับของ CIA หากพวกเขาไม่ช่วยเหลือภรรยาของเขาที่ถูกจับตัวไปโดยทหารรัสเซีย ด้วยอาชีพที่เกือบจะพังทลาย Owen จึงถูกส่งไปที่โซลเพื่อสำรวจสถานการณ์ และแน่นอนว่ามันแย่กว่าที่ใครๆ คิด

Owen มีความเชื่อมโยงส่วนตัวกับเกาหลีใต้ เพราะพ่อของเขาเคยประจำการที่นั่นก่อนจะเสียชีวิต เขาพูดภาษาเกาหลีได้ ชอบอาหารเกาหลี และยังมีคนที่เขาอาจจะยังมีความรู้สึกอยู่ แต่เขาก็ไม่มีเวลาสำหรับความรักมากนัก เพราะระหว่างที่เขาพยายามช่วย Jang Kyun (รับบทโดย Teo Yoo) สายลับเกาหลีผู้เก่งกาจ แต่เต็มไปด้วยความลึกลับ ในการช่วยเหลือภรรยาของเขา Owen ยังต้องหลบหนีการสอบสวนภายใน CIA จัดการกับ Nichka (รับบทโดย Maddie Hasson) ลูกสาวของ Max ที่กลายเป็นทรัพยากรใหม่ของเขา และพยายามปรับความเข้าใจกับ Dawn Gilbane (รับบทโดย Angel Parker) เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่เสียชื่อเสียงไปแล้ว รวมถึงซ่อมแซมความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ตึงเครียดกับ Hannah (รับบทโดย Fivel Stewart)

Advertisement

The Recruit ซีซั่น 2 มีเพียง 6 เอพพิโสด เทียบกับซีซั่นแรกที่มี 8 เอพพิโสด แต่เนื้อเรื่องไม่ได้ลดความซับซ้อนลงเลย ผลที่ได้คือการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและเข้มข้นขึ้น โดยเรื่องราวสลับไปมาระหว่างตัวละครและสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีความหลากหลายมากขึ้นเนื่องจากความสำเร็จของซีซั่นแรก การย้ายฉากหลักไปที่เกาหลีใต้และการนำนักแสดงเกาหลีที่มีความสามารถมาร่วมแสดง ทำให้ซีซั่นนี้มีความรู้สึกที่แตกต่างออกไป และเป็นการโปรโมตแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่เต็มไปด้วยซีรีส์เกาหลี แต่ก็ยังมีฉากในมอริเชียส กาตาร์ รัสเซีย และที่อื่นๆ เพื่อเพิ่มสีสัน

แต่แก่นหลักของเรื่องยังคงเหมือนเดิม Noah Centineo ยังคงเป็นตัวละครหลักที่มีเสน่ห์ เขาดูเหมือนจะไม่พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ แต่ก็สามารถผ่านมันไปได้เสมอ โดยเดินบนเส้นบางๆ ระหว่างความเป็นอัจฉริยะกับคนโง่ ระหว่างการเป็นเหยื่อกับฮีโร่ ประวัติศาสตร์ส่วนตัวของเขาในเกาหลีใต้และบาดแผลทางจิตใจจากซีซั่นแรก (ที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ในเรื่อง) ทำให้เขามีมิติทางอารมณ์มากขึ้น แม้ว่าสคริปต์จะไม่ให้พื้นที่เขาได้เจาะลึกมากนัก

The Recruit ซีซั่น 2 คือความบันเทิงที่เต็มไปด้วยแอคชันและความตื่นเต้น แม้ว่ามันจะไม่ได้พยายามเป็นเรื่องจริงจังหรือใหม่สด แต่เสน่ห์ของ Noah Centineo และบทที่เต็มไปด้วยมุกตลกยังคงทำให้เรื่องนี้น่าติดตาม สำหรับแฟนๆ ซีซั่นแรก คุณจะพบสิ่งที่คุณชอบในซีซั่นนี้ แต่ถ้าคุณไม่ชอบความไม่จริงจังและความซ้ำๆ ของซีรีส์นี้ คุณอาจจะไม่เปลี่ยนใจ

Owen Hendricks กลับมาอีกครั้งในซีซัน 2 ของ “The Recruit” ซึ่งเขายังคงต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ในโลกของการสืบราชการลับ หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีซันแรก เขาเดินทางไปยังเกาหลีใต้เพื่อร่วมมือกับ Jang Kyun เจ้าหน้าที่ข่าวกรองชาวเกาหลี ในภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตรายและการต่อสู้ที่เข้มข้น Owen ต้องจัดการกับความซับซ้อนของการเมือง CIA และความกดดันจากภารกิจที่ต้องเสี่ยงชีวิต

ในซีซันนี้ Owen พบว่าตนเองต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย รวมถึงการลักพาตัวและการเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกัน ขณะเดียวกันเขายังต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองในฐานะเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถ แม้จะมีอุปสรรคมากมายรอบตัว เรื่องราวนำเสนอความตึงเครียดและการพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ชมติดตามไปกับการผจญภัยของ Owen ในโลกของการสืบราชการลับ

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ทนายซีไอเอ
  • ประเภท: แอคชั่น, ระทึกขวัญ, ดราม่า
  • วันที่ออกอากาศ: 30 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: Noah Centineo, Teo Yoo
  • จำนวนตอน/ความยาว: 6 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.4/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

[รีวิว] ทนายซีไอเอ | The Recruit ซีซั่น 2 (2025)

บท - 8
การแสดง - 8
โปรดักชัน - 7.5
ความบันเทิง - 8.5
ความคุ้มค่าในการรับชม - 8

8

ในซีซันนี้ Owen พบว่าตนเองต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย รวมถึงการลักพาตัวและการเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกัน ขณะเดียวกันเขายังต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองในฐานะเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถ แม้จะมีอุปสรรคมากมายรอบตัว เรื่องราวนำเสนอความตึงเครียดและการพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ชมติดตามไปกับการผจญภัยของ Owen ในโลกของการสืบราชการลับ

User Rating: Be the first one !

Advertisement

กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button