รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว-เรื่องย่อ] Dune: Prophecy (2024) พรีเควลสู่ Dune

Dune: Prophecy (2024) ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ ของจักรวาล Dune ด้วยการย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ของ Denis Villeneuve และนิยายต้นฉบับของ Frank Herbert กว่า 10,000 ปี ซีรีส์นี้พาผู้ชมไปรู้จักกับการกำเนิดของ Bene Gesserit และความซับซ้อนของการชิงอำนาจในจักรวรรดิที่เชื่อมโยงกับคำทำนายลึกลับ

เรื่องราวเริ่มต้นที่ Valya Harkonnen (Emily Watson) ซึ่งเป็นผู้เล่าประวัติศาสตร์ครอบครัว Harkonnen ที่ถูกขับไล่ไปยังพื้นที่ห่างไกลหลังสงครามกับเครื่องจักรแห่งความคิด เธอได้เข้าร่วมกลุ่มสตรีที่ใช้พลังพิเศษในการฝึกฝนเพื่อกลายเป็น Truthsayers ผู้เชี่ยวชาญในการแยกแยะความจริงจากการโกหก ภายใต้การนำของ Raquella Berto-Anirul (Cathy Tyson) ผู้ซึ่งมีอุดมการณ์ที่จะใช้ความสามารถเหล่านี้ควบคุมผู้นำในจักรวรรดิ

ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่สำรวจพัฒนาการของ Bene Gesserit แต่ยังเจาะลึกความขัดแย้งในสังคมจักรวรรดิ ความเชื่อในคำทำนาย และการเมืองที่สลับซับซ้อน การผสมผสานระหว่างความลึกลับและดราม่าทำให้ซีรีส์นี้น่าสนใจทั้งสำหรับแฟนเดิมและผู้ชมหน้าใหม่

Dune: Prophecy (2024)

รีวิวและเรื่องย่อ Dune: Prophecy

Dune: Prophecy เปิดเผยเรื่องราวการก่อตั้ง Bene Gesserit ซึ่งเป็นกลุ่มสตรีที่มีบทบาทสำคัญในจักรวาล Dune โดยมี Valya Harkonnen เป็นศูนย์กลางของเรื่อง เธอได้รับคำสั่งเสียจาก Raquella ผู้เป็นอาจารย์ให้ปกป้องคำทำนายที่ Raquella เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการมาของทรราช

Advertisement

เรื่องราวการฝึกฝน Truthsayers ของ Valya และการใช้พลังพิเศษในจักรวรรดิ ทำให้ผู้ชมได้เห็นการต่อสู้ทั้งภายในและภายนอกของกลุ่ม Bene Gesserit ซึ่งมีความขัดแย้งระหว่างผู้ที่เชื่อในคำทำนายและผู้ที่ไม่เห็นด้วย

ซีรีส์ยังเน้นการเมืองที่ซับซ้อนในจักรวรรดิ โดยเฉพาะการจัดการแต่งงานระหว่าง Princess Ynez และทายาทของ Duke Richese ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของ Valya ที่ต้องการวางสมาชิก Bene Gesserit ไว้บนบัลลังก์

ในอีกด้านหนึ่ง Emperor Javicco Corrino ต้องรับมือกับการกบฏในจักรวรรดิ รวมถึงการเจรจาข้อตกลงทางการค้าและการแต่งงาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สะท้อนการเมืองในโลกไซไฟอย่างลึกซึ้ง

แม้ซีรีส์จะนำเสนอเรื่องราวที่หลากหลายและมีรายละเอียด แต่ตอนแรกกลับเต็มไปด้วยบทสนทนาที่อัดแน่นจนทำให้ผู้ชมอาจสับสนในทิศทางของเรื่อง อย่างไรก็ตาม การเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ Valya ช่วยสร้างความน่าสนใจและเชื่อมโยงกับแฟรนไชส์ Dune ได้อย่างดี

Dune: Prophecy โดดเด่นด้วยการแสดงที่น่าประทับใจของ Emily Watson ในบท Valya และการออกแบบฉากที่สวยงามสมจริง แต่ซีรีส์ยังต้องการการพัฒนาในด้านการเล่าเรื่องที่กระชับและเน้นจุดสำคัญให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Dune: Prophecy (2024) เป็นซีรีส์ที่น่าติดตามสำหรับแฟน ๆ ของจักรวาล Dune และผู้ที่สนใจในเรื่องราวไซไฟที่เน้นบทบาทของสตรีในอำนาจ แม้จะมีข้อสังเกตในด้านความซับซ้อนของเนื้อหา แต่การเล่าเรื่องที่ลุ่มลึกและการเชื่อมโยงกับตำนานเดิมก็ทำให้ซีรีส์นี้คุ้มค่าแก่การรับชม

  • ประเภท: ไซไฟ, ดราม่า, การผจญภัย
  • วันที่ออกอากาศ: 17 พฤศจิกายน 2024
  • นักแสดงนำ: Emily Watson, Olivia Williams
  • ผู้กำกับ: Anna Foerster
  • จำนวนตอน/ความยาว: 6 ตอน
  • เรตติ้ง IMDb: 7.6/10
  • ช่องทางการดู: HBO Max

Advertisement

กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button