รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

[รีวิว] Elite ซีซั่น 8 จุดจบของซีรีส์วัยรุ่นสุดฮอตแห่งสเปน

Elite เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการมีอะไรมากเกินไปนั้นไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ในช่วงสองสามซีซั่นแรก ซีรีส์สเปนเรื่องนี้ของ Netflix ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ด้านเนื้อหาระดับนานาชาติของผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม Elite มีความเซ็กซี่ มีพลัง น่าสนใจ และดึงดูดผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม แต่แล้วมันก็ค่อยๆ เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งซีซั่นที่ 8 ซึ่งเป็นซีซั่นสุดท้ายนี้ ดูเหมือนจะเป็นการปิดฉากอย่างไม่สวยงามนัก ราวกับว่าใครบางคนแอบย่องเข้าไปในห้องนอนของแฟรนไชส์นี้ขณะที่มันหลับใหล แล้วเอาหมอนกดลงบนใบหน้าเพื่อจบชีวิตมันอย่างเงียบๆ

Advertisement

ถึงแม้จะฟังดูโหดร้าย แต่หลายคนอาจรู้สึกโล่งใจที่ซีรีส์นี้จบลงเสียที Elite เป็นรายการที่ล่วงเลยวันหมดอายุมานานแล้ว และซีซั่นสุดท้ายนี้ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ ให้น่าตื่นเต้นอีกต่อไป เรื่องราวยังคงวนเวียนอยู่กับนักเรียนกลุ่มคนรวยและคนจนในโรงเรียนชื่อดัง Las Encinas เช่นเคย มีการฆาตกรรมที่ไม่ค่อยน่าสนใจเป็นแกนหลักของเรื่อง และการตัดสินใจที่น่าสงสัยของตัวละครที่ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากันอย่างอันตราย

Elite ดำเนินเรื่องแบบเดิมๆ มาเป็นเวลานานจนไม่มีความแปลกใหม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว ประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นถูกนำเสนอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนน่าเบื่อ ทุกปัญหาสังคมและการเมืองที่เกี่ยวข้องกับวัยรุ่นถูกสำรวจอย่างละเอียดจนครบถ้วน และนักเรียนครึ่งหนึ่งของโรงเรียนก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว ตัวละครใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาดูเหมือนจะมาสายเกินไปที่จะสร้างผลกระทบอะไรได้มาก ส่วนตัวละครเก่าๆ ก็ถูกดึงกลับมาเพื่อสร้างความรู้สึกคิดถึง แต่ไม่ได้มีบทบาทสำคัญต่อเนื้อเรื่องอย่างชัดเจน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์โดยรวมทำให้รู้สึกว่างเปล่า นี่คือซีรีส์ที่กำลังจะตายอย่างช้าๆ มาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยชัดเจนเท่ากับในซีซั่นสุดท้ายนี้

Elite เคยโดดเด่นด้วยตัวละครที่น่าสนใจ แต่หลังจากผ่านมาหลายซีซั่น แม้แต่จุดแข็งนี้ก็กลายเป็นปัญหา การต้องเปลี่ยนนักแสดงหลักหลังจากสามซีซั่นแรกเป็นสิ่งที่ซีรีส์นี้ไม่เคยฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ และหลังจากผ่านกระบวนการนี้มาหลายครั้ง ตอนนี้เราก็มาถึงจุดที่ไม่มีเรื่องราวใหม่ๆ ให้เล่ากับตัวละครใหม่ และไม่มีเหตุผลที่จะดึงตัวละครเก่ากลับมาอีก

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ซีรีส์นี้ก็ยังพยายาม ซึ่งอาจจะแย่กว่าการไม่ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ Nadia ถูกดึงกลับมาโดยแทบไม่มีเหตุผลอะไรเลย และแม้แต่นักแสดงจากซีซั่น 7 ก็ดูเหมือนจะไม่จำเป็นหลังจากที่เรื่องราวส่วนตัวของพวกเขาจบลงไปแล้ว ตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่สำหรับดราม่าในซีซั่นนี้คือพี่น้อง Emilia และ Héctor Krawietz แต่ก็ยากที่จะจินตนาการว่าพวกเขาจะโดดเด่นอย่างไรในบรรดาศิษย์เก่า Las Encinas ที่มีมากมายเหลือเกิน

สิ่งเดียวที่ทำให้ Elite ซีซั่น 8 แตกต่างออกไปคือการที่มันมีภารกิจในการจบซีรีส์นี้อย่างถาวร และต้องยอมรับว่ามันก็ทำสำเร็จ แม้จะมีความยากลำบากบ้างก็ตาม แก่นเรื่องการฆาตกรรมในครั้งนี้ค่อนข้างคาดเดาได้ง่าย ทำให้การพลิกผันต่างๆ ดูเหมือนถูกบังคับใส่เข้ามา และคุณก็แทบจะนั่งรอดูว่ามันจะจบลงอย่างไรและตัวละครจะลงเอยที่ไหนหลังจากตอนจบเท่านั้น

คำถามที่สำคัญคือ มีใครสนใจจริงๆ หรือ? สำหรับคนส่วนใหญ่ ซีซั่นนี้อาจเป็นเพียงอุปสรรคสุดท้าย เป็นแปดตอนสุดท้ายที่ต้องนั่งดูให้จบเพื่อที่จะได้พูดได้ว่าคุณดู Elite จบแล้ว ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม ซีซั่น 8 ไม่ได้ทำให้เวลาที่คุณเสียไปกับการดูซีซั่นที่ผ่านๆ มามีคุณค่าขึ้นมา แต่อย่างน้อยมันก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นการจบเรื่อง

แต่มันก็เป็นการจบที่ห่างไกลจากสิ่งที่ซีรีส์นี้เคยเป็นมากเสียจนไม่มีเสน่ห์สำหรับแฟนๆ ที่ติดตามมานาน มันเป็นเพียงสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสัญญาการสตรีมมิ่งและเพื่อให้ผู้ชมได้รับการปิดฉากที่สมบูรณ์เท่านั้น หวังว่าหลังจากที่เราผ่านเรื่องราวทั้งหมดนี้มาด้วยกัน เราจะสามารถก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่าและยิ่งใหญ่กว่านี้ได้

Elite ซีซั่น 8 เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับวงการโทรทัศน์และการสตรีมมิ่ง มันแสดงให้เห็นว่าแม้แต่ซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงก็สามารถตกต่ำลงได้หากไม่มีการพัฒนาและปรับตัว การที่ Elite สามารถครองใจผู้ชมได้ในช่วงแรกนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเป็นผลมาจากการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเรื่องราวที่น่าติดตาม ตัวละครที่มีมิติ และการนำเสนอประเด็นทางสังคมที่ร่วมสมัย

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสดใหม่ของแนวคิดเหล่านี้ก็เริ่มจางหายไป การพยายามรักษาความนิยมด้วยการเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อหาและการนำเสนอฉากที่ช็อกมากขึ้นกลับกลายเป็นดาบสองคม แทนที่จะดึงดูดผู้ชม มันกลับทำให้หลายคนรู้สึกว่าซีรีส์นี้กำลังพยายามเกินไปและขาดความจริงใจ

การเปลี่ยนแปลงนักแสดงหลักหลังจากสามซีซั่นแรกเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Elite เริ่มสูญเสียเสน่ห์ ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากเรื่องราวของตัวละครเดิมได้จบลงแต่การแนะนำตัวละครใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้ชมไม่มีเวลาเพียงพอที่จะสร้างความผูกพันกับพวกเขา ส่งผลให้เรื่องราวในซีซั่นหลังๆ ขาดพลังทางอารมณ์ที่เคยเป็นจุดแข็งของซีรีส์นี้

นอกจากนี้ การที่ Elite พยายามนำเสนอประเด็นทางสังคมที่หลากหลายในทุกๆ ซีซั่นก็เป็นดาบสองคมเช่นกัน ในขณะที่ความตั้งใจนี้น่าชื่นชม แต่การเร่งนำเสนอประเด็นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องทำให้การสำรวจแต่ละหัวข้อขาดความลึกซึ้ง บางครั้งดูเหมือนเป็นการแตะผิวเผินเพียงเพื่อติ๊กถูกในรายการประเด็นร่วมสมัยมากกว่าจะเป็นการวิเคราะห์อย่างจริงจัง

ซีซั่น 8 ซึ่งเป็นซีซั่นสุดท้ายนี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทั้งหมดที่สั่งสมมาตลอดหลายปี การฆาตกรรมที่เป็นแกนหลักของเรื่องดูจืดชืดและคาดเดาได้ง่าย ไม่มีความตื่นเต้นหรือการพลิกผันที่น่าประหลาดใจเหมือนในซีซั่นแรกๆ ตัวละครใหม่อย่าง Emilia และ Héctor Krawietz ถูกแนะนำเข้ามาแต่ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ พวกเขาดูเหมือนเป็นเพียงตัวแทนของคาแรกเตอร์ที่เราเคยเห็นมาแล้วในซีซั่นก่อนๆ มากกว่าจะเป็นบุคคลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

การพยายามดึงตัวละครเก่าอย่าง Nadia กลับมาก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แทนที่จะเป็นการเติมเต็มช่องว่างในเรื่องราว การปรากฏตัวของเธอกลับดูเหมือนเป็นความพยายามที่จะเรียกความสนใจจากแฟนๆ รุ่นแรกมากกว่า ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มักจะใช้ในซีรีส์ที่กำลังจะจบลงแต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก

ประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นซึ่งเคยเป็นหัวใจสำคัญของ Elite ก็ถูกนำเสนอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนขาดความสดใหม่ ในขณะที่ซีซั่นแรกๆ สามารถสำรวจความขัดแย้งระหว่างนักเรียนจากครอบครัวร่ำรวยและครอบครัวที่มีฐานะปานกลางได้อย่างน่าสนใจ ซีซั่นหลังๆ กลับดูเหมือนกำลังเดินวนอยู่กับที่ ไม่มีมุมมองใหม่ๆ ที่จะนำเสนอเกี่ยวกับปัญหานี้

การที่ตัวละครหลักถูกฆ่าตายไปทีละคนในแต่ละซีซั่นก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง แม้ว่าการสูญเสียตัวละครสำคัญจะสร้างความตื่นเต้นและดราม่าได้ในตอนแรก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกชาชินและไม่สะเทือนอารมณ์เท่าที่ควร นอกจากนี้ยังทำให้โรงเรียน Las Encinas ดูเหมือนเป็นสถานที่อันตรายเกินจริงจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครอยากส่งลูกหลานมาเรียนที่นี่

ในแง่ของการสร้าง Elite ซีซั่น 8 ยังคงรักษามาตรฐานการผลิตระดับสูงไว้ได้ ภาพที่สวยงาม การแสดงที่น่าประทับใจของนักแสดงรุ่นใหม่ และเพลงประกอบที่เข้ากับบรรยากาศของเรื่อง ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าทีมงานเบื้องหลังยังคงทุ่มเทกับโปรเจกต์นี้อย่างเต็มที่ แต่น่าเสียดายที่คุณภาพของบทและโครงเรื่องไม่ได้พัฒนาไปพร้อมกับด้านเทคนิค

การที่ Elite ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงซีซั่นที่ 8 อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความนิยมของมันในช่วงแรก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของคำกล่าวที่ว่า “จงออกจากเวทีตอนที่คุณยังอยู่ในจุดสูงสุด” หากซีรีส์นี้จบลงหลังจากสามหรือสี่ซีซั่นแรก มันอาจจะได้รับการจดจำว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์วัยรุ่นที่ดีที่สุดของทศวรรษ แต่การยืดเยื้อจนถึงซีซั่นที่ 8 ทำให้มันกลายเป็นตัวอย่างของซีรีส์ที่อยู่นานเกินไปจนสูญเสียเสน่ห์ที่เคยมี

อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่า Elite มีบทบาทสำคัญในการเปิดทางให้กับซีรีส์ภาษาสเปนและซีรีส์นานาชาติอื่นๆ บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ความสำเร็จของมันในช่วงแรกแสดงให้เห็นว่าผู้ชมทั่วโลกพร้อมที่จะเปิดรับเนื้อหาที่ไม่ได้ผลิตในภาษาอังกฤษ หากมีคุณภาพและเรื่องราวที่น่าสนใจ นี่เป็นก้าวสำคัญในการสร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมในวงการบันเทิงระดับโลก

นอกจากนี้ Elite ยังเป็นซีรีส์ที่กล้านำเสนอประเด็นละเอียดอ่อนเกี่ยวกับวัยรุ่น เช่น เพศสภาพ เพศวิถี การใช้สารเสพติด และความรุนแรง ในแง่มุมที่ตรงไปตรงมาและไม่ตัดสิน แม้ว่าในซีซั่นหลังๆ การนำเสนอเหล่านี้อาจจะดูเกินจริงหรือถูกทำซ้ำจนน่าเบื่อ แต่ในช่วงแรก มันเป็นลมหายใจใหม่สำหรับซีรีส์วัยรุ่นที่มักจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา

การจบลงของ Elite อาจจะทำให้แฟนๆ รู้สึกผิดหวัง แต่มันก็เปิดโอกาสให้ Netflix และผู้สร้างซีรีส์รายอื่นๆ ได้เรียนรู้จากทั้งความสำเร็จและข้อผิดพลาดของมัน บทเรียนสำคัญที่ได้รับคือการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเรื่องราวให้น่าสนใจอยู่เสมอและการรู้จักจบในเวลาที่เหมาะสม การเปลี่ยนแปลงตัวละครหลักควรทำอย่างระมัดระวังและมีเหตุผลรองรับที่ชัดเจน ไม่ใช่เพียงเพื่อยืดอายุซีรีส์ให้ยาวนานขึ้น

สำหรับผู้ชมที่ติดตาม Elite มาตั้งแต่ต้น ซีซั่นสุดท้ายนี้อาจเป็นเพียงการปิดฉากที่จำเป็นมากกว่าจะเป็นการจบที่น่าจดจำ แต่มันก็ให้โอกาสในการมองย้อนกลับไปและชื่นชมช่วงเวลาที่ดีที่สุดของซีรีส์นี้ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่เราเคยหลงรัก เรื่องราวที่ทำให้เราต้องลุ้นระทึก และประเด็นสังคมที่ทำให้เราต้องครุ่นคิด ทั้งหมดนี้คือมรดกที่ Elite ทิ้งไว้ให้กับวงการซีรีส์วัยรุ่น

ในขณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มรู้จัก Elite ในซีซั่นหลังๆ อาจจะรู้สึกสงสัยว่าทำไมซีรีส์นี้ถึงได้รับความนิยมมากในช่วงแรก นี่อาจเป็นแรงจูงใจให้พวกเขาย้อนกลับไปดูซีซั่นแรกๆ เพื่อเข้าใจว่าทำไม Elite ถึงได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมในช่วงเวลาหนึ่ง

สำหรับ Netflix และทีมผู้สร้าง การจบของ Elite เป็นโอกาสในการมองหาโปรเจกต์ใหม่ที่จะสานต่อความสำเร็จของซีรีส์นี้ โดยนำบทเรียนที่ได้รับมาปรับใช้ พวกเขาอาจจะมองหาแนวคิดใหม่ๆ ที่สดและท้าทาย หรืออาจจะพัฒนาสปินออฟที่เจาะลึกลงไปในชีวิตของตัวละครที่เป็นที่ชื่นชอบจาก Elite แต่นำเสนอในมุมมองที่แตกต่างออกไป

ในท้ายที่สุด Elite ซีซั่น 8 อาจจะไม่ใช่การจบที่สมบูรณ์แบบสำหรับซีรีส์ที่เคยยิ่งใหญ่ แต่มันก็เป็นการปิดฉากที่จำเป็น มันเตือนใจเราว่าแม้แต่ซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดก็มีวันที่ต้องจบลง และบางครั้งการจบในเวลา

  • ประเภท: ดราม่า, ระทึกขวัญ, LGBTQ+
  • วันที่เข้าฉาย: 26 กรกฎาคม 2024
  • นักแสดงนำ: Mina El Hammani, Omar Ayuso, Valentina Zenere, André Lamoglia
  • ผู้กำกับ: Carlos Montero, Jaime Vaca, Darío Madrona
  • จำนวนตอน: 8 ตอน
  • ช่องทางการรับชม: Netflix

Advertisement

Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button