รีวิวซีรีส์ฝรั่ง

รีวิว All the Light We Cannot See – Limited Series (2023)

All the Light We Cannot See เป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์จำกัดความยาว 4 ตอนที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันโดย Anthony Doerr ซึ่งได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ซีรีส์นี้กำกับโดย Shawn Levy และเขียนบทโดย Steven Knight นำแสดงโดย Aria Mia Loberti, Louis Hofmann, Mark Ruffalo, Hugh Laurie, Lars Eidinger และ Marion Bailey

Advertisement

All the Light We Cannot See เป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์จำกัดความยาว 4 ตอนที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันโดย Anthony Doerr ซึ่งได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ซีรีส์นี้กำกับโดย Shawn Levy และเขียนบทโดย Steven Knight นำแสดงโดย Aria Mia Loberti, Louis Hofmann, Mark Ruffalo, Hugh Laurie, Lars Eidinger และ Marion Bailey

เรื่องย่อ All the Light We Cannot See

All the Light We Cannot See เล่าเรื่องราวของ Marie-Laure LeBlanc เด็กหญิงชาวฝรั่งเศสตาบอดและ Daniel LeBlanc พ่อของเธอ ซึ่งหลบหนีจากปารีสที่ถูกเยอรมันยึดครองพร้อมกับเพชรในตำนานเพื่อไม่ให้เพชรนั้นตกไปอยู่ในมือของพวกนาซี พวกเขาถูกตามล่าโดยเจ้าหน้าที่เกสตาโปผู้โหดเหี้ยมซึ่งต้องการครอบครองเพชรนั้นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาเอง Marie-Laure และ Daniel จึงลี้ภัยไปที่ St. Malo ซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่กับลุงผู้สันโดษซึ่งออกอากาศวิทยุใต้ดินเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต่อต้าน

ในขณะเดียวกัน Werner Pfennig เด็กหนุ่มอัจฉริยะชาวเยอรมันก็ถูกเกณฑ์ทหารเข้าสู่กองทัพนาซีเพื่อตามล่ากระจายเสียงเถื่อน เวอร์เนอร์หลงใหลในวิทยุตั้งแต่เด็กและมีความสามารถพิเศษในการซ่อมแซมและสร้างวิทยุ เขาได้ค้นพบความเชื่อมโยงอันลึกลับกับ Marie-Laure ผ่านทางเครื่องรับวิทยุ และพัฒนาความเคารพและศรัทธาในตัวเธอ

Advertisement

All the Light We Cannot See เป็นเรื่องราวที่ซาบซึ้งและทรงพลังเกี่ยวกับความหวัง ความรัก และความสามารถของมนุษย์ในการรักษาความเป็นมนุษย์แม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด

การแสดง

นักแสดงใน All the Light We Cannot See ต่างแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม Aria Mia Loberti สร้างความประทับใจในฐานะ Marie-Laure เด็กหญิงตาบอดที่มองเห็นโลกด้วยสัมผัสอื่นๆ ของเธอ Louis Hofmann ก็โดดเด่นเช่นกันในบท Werner Pfennig เด็กหนุ่มอัจฉริยะที่ถูกเกณฑ์ทหารเข้าสู่กองทัพนาซี Mark Ruffalo และ Hugh Laurie ก็แสดงได้อย่างดีเยี่ยมในบท Daniel LeBlanc และ Etienne LeBlanc ตามลำดับ

โปรดักชัน

All the Light We Cannot See ได้รับการผลิตอย่างสวยงามและพิถีพิถัน ฉากในเรื่องถ่ายทำในสถานที่จริงในฝรั่งเศสและเยอรมนี ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่สมจริงและน่าหลงใหล ซีรีส์นี้ยังมีภาพยนตร์และดนตรีที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

สรุป

All the Light We Cannot See เป็นซีรีส์ที่ยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน เป็นเรื่องราวที่ซาบซึ้งและทรงพลังเกี่ยวกับความหวัง ความรัก และความสามารถของมนุษย์ในการรักษาความเป็นมนุษย์แม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด นักแสดงทุกคนแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม การผลิตก็ทำได้อย่างสวยงามและพิถีพิถัน ฉันขอแนะนำซีรีส์นี้ให้กับทุกคนที่ชื่นชอบซีรีส์ดราม่าประวัติศาสตร์ และซีรีส์ที่มีเรื่องราวซาบซึ้งกินใจ

รีวิว All the Light We Cannot See

0

หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ยอดเยี่ยมที่จะทำให้คุณร้องไห้ หัวเราะ และคิดลึกๆ All the Light We Cannot See เป็นซีรีส์ที่เหมาะสำหรับคุณ อย่าพลาดที่จะรับชมซีรีส์นี้ทาง Netflix ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2023 เป็นต้นไป

User Rating: Be the first one !

Advertisement

Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button