Beckham (2023) สารคดี Netflix ที่จะพาคุณไปสำรวจชีวิตและอาชีพของตำนานนักฟุตบอลระดับโลก เดวิด เบคแฮม ผ่านมุมมองของตัวเขาเอง เพื่อนร่วมทีม สื่อมวลชน และบุคคลใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รู้จักกับเบคแฮมในแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อน
Beckham เป็นสารคดีเล่าชีวิตของ David Beckham ซุปเปอร์สตาร์ลูกหนังระดับโลก ชายผู้เป็นทั้งนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ รวมถึงเป็นไอคอนด้านแฟชั่นและวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
สารคดีเรื่องนี้ได้รวบรวมบทสัมภาษณ์จากคนใกล้ชิดของ Beckham มากมาย อาทิ Victoria Beckham ภรรยาของเขา, Alex Ferguson อดีตผู้จัดการทีม Manchester United, Gary Neville อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ Beckham ตั้งแต่สมัยเด็กที่เขาเริ่มเล่นฟุตบอล จนถึงเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลระดับโลก และการใช้ชีวิตหลังวางเกือก
เนื้อหา
Beckham เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอาชีพกับ Tottenham Hotspur ก่อนที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ Manchester United ในปี 1993 ภายใต้การคุมทีมของ Alex Ferguson Beckham ได้พัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่สำคัญที่สุดของทีม เขาช่วยให้ Manchester United คว้าแชมป์ Premier League 6 สมัย, FA Cup 2 สมัย, UEFA Champions League 1 สมัย และ FIFA Club World Cup 1 สมัย
นอกจากนั้น Beckham ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติอังกฤษ โดยลงเล่นรับใช้ประเทศชาติไปถึง 115 นัด และทำประตูได้ 59 ประตู เขาเป็นผู้เล่นชาวอังกฤษคนแรกที่ลงเล่นใน Champions League 100 นัด และเป็นผู้เล่นชาวอังกฤษที่ทำประตูได้มากที่สุดในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
หลังจากย้ายออกจาก Manchester United Beckham ก็ได้ไปค้าแข้งกับ Real Madrid, LA Galaxy, Paris Saint-Germain และ AC Milan ก่อนที่จะประกาศวางเกือกในปี 2013
การแสดง
Beckham เป็นสารคดีที่เล่าเรื่องราวชีวิตของ David Beckham อย่างครอบคลุมและน่าสนใจ โดยได้รวบรวมบทสัมภาษณ์จากคนใกล้ชิดของเขามากมาย ซึ่งช่วยให้คนดูได้รู้จัก Beckham มากขึ้น ทั้งในฐานะนักฟุตบอลและคนในครอบครัว
นักแสดงที่มารับบทเป็น Beckham ในสารคดีเรื่องนี้คือ David Beckham ตัวจริง ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของทีมงานผู้สร้าง เพราะไม่มีใครที่จะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของ Beckham ได้ดีเท่ากับตัวเขาเอง
งานภาพและงานกำกับ
Beckham เป็นสารคดีที่ถ่ายทำได้อย่างสวยงาม โดยใช้เทคนิคการถ่ายภาพและการตัดต่อที่ทันสมัย ทำให้ภาพยนตร์ดูน่าสนใจและไม่น่าเบื่อ
นอกจากนั้น ทีมงานผู้สร้างยังได้เลือกใช้เพลงประกอบภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับเนื้อหาของสารคดี ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมให้มากยิ่งขึ้น