ถ้าคุณกำลังมองหาหนังระทึกขวัญที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความไม่แน่นอน “Flight Risk” (2025) อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณคิดถึง แต่อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ เพราะหนังเรื่องนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวัง เรื่องราวของนักฆ่าที่ปลอมตัวเป็นนักบินและความพยายามของเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามเอาชีวิตรอดบนเครื่องบินเล็ก ๆ ฟังดูน่าสนใจ แต่การดำเนินเรื่องกลับทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนติดอยู่ในอากาศที่ไร้ทิศทาง
เมล กิบสัน ผู้กำกับชื่อดังที่เคยคว้ารางวัลออสการ์ กลับมาพร้อมกับหนังระทึกขวัญที่เต็มไปด้วยแนวคิดแปลกใหม่ แต่ดูเหมือนว่าความพยายามครั้งนี้จะไม่ค่อยสัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร ด้วยบทหนังที่บางเบาและบทสนทนาที่ดูไม่สมจริง “Flight Risk” จึงกลายเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงได้เพียงบางส่วน และอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ายังมีอะไรขาดหายไป
แล้วทำไมหนังเรื่องนี้ถึงยังน่าดู? คำตอบอาจอยู่ที่การแสดงของมาร์ก วาห์ลเบิร์ก ที่เต็มไปด้วยพลังและความบ้าคลั่ง แต่เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน “Flight Risk” ก็ยังเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่อาจไม่คุ้มค่ากับเวลาของคุณ
รีวิวและเรื่องย่อ Flight Risk (นรกยึดไฟลต์)
Flight Risk เริ่มต้นด้วยแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง: นักฆ่าที่ปลอมตัวเป็นนักบินพยายามสังหารผู้โดยสารบนเครื่องบิน ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่รัฐและพยานในคดีสำคัญ แนวคิดนี้ฟังดูน่าสนใจและเหมาะสำหรับหนังระทึกขวัญที่เน้นความตื่นเต้น แต่ปัญหาคือบทหนังของ Jared Rosenberg กลับไม่สามารถดึงศักยภาพของแนวคิดนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่
บทสนทนาในหนังหลายครั้งดูไม่สมจริงและขาดความลึกซึ้ง โดยเฉพาะบทของ Michelle Dockery ในบทบาท Madelyn เจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามควบคุมสถานการณ์ และ Topher Grace ในบทบาท Winston พยานที่เต็มไปด้วยมุกตลกแบบฉาบฉวย ซึ่งบางครั้งก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าหนังกำลังเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น
มาร์ก วาห์ลเบิร์ก ในบทบาท Daryl Booth นักฆ่าที่ปลอมตัวเป็นนักบิน เป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ เขาแสดงออกถึงความบ้าคลั่งและความไร้เหตุผลได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะฉากที่เขาเริ่มเสียการควบคุมและเผยให้เห็นด้านมืดของตัวละคร อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือเขามีเวลาอยู่บนจอไม่มากพอที่จะสร้างความประทับใจได้อย่างเต็มที่
ในขณะที่ Michelle Dockery และ Topher Grace พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่การขาดเคมีระหว่างตัวละครทั้งสองทำให้ฉากหลายตอนดูไม่สมจริงและขาดความตื่นเต้น
เมล กิบสัน พยายามสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและน่าตื่นเต้นด้วยการถ่ายทำในพื้นที่จำกัดอย่างเครื่องบินเล็ก ๆ ซึ่งบางครั้งก็ได้ผล แต่บางครั้งก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดและสับสน โดยเฉพาะในฉากสุดท้ายที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ไม่สมจริงและดูเหมือนหลุดมาจากการ์ตูน
“Flight Risk” มีช่วงเวลาที่สนุกและตื่นเต้น โดยเฉพาะเมื่อมาร์ก วาห์ลเบิร์ก อยู่บนจอ แต่โดยรวมแล้วหนังยังไม่สามารถดึงความสนใจของผู้ชมได้ตลอดทั้งเรื่อง ด้วยบทหนังที่บางเบาและการดำเนินเรื่องที่ขาดความคมชัด
“Flight Risk” เป็นหนังที่เต็มไปด้วยแนวคิดที่น่าสนใจแต่ยังไม่สามารถดึงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยบทหนังที่บางเบาและการดำเนินเรื่องที่ขาดความตื่นเต้น หนังเรื่องนี้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มองหาความบันเทิงแบบเต็มอิ่ม อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นแฟนของมาร์ก วาห์ลเบิร์ก หรือเมล กิบสัน คุณอาจจะยังสนุกกับบางส่วนของหนังเรื่องนี้
- ชื่อเรื่องในภาษาไทย: นรกยึดไฟลต์
- ประเภท: แอ็คชั่น, ระทึกขวัญ
- วันที่ออกอากาศ: 23 มกราคม 2025
- นักแสดงนำ: Michelle Dockery, Mark Wahlberg, Topher Grace
- ผู้กำกับ: Mel Gibson
- จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 31 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 5.5/10
- ช่องทางการดู: โรงหนัง
[รีวิว] นรกยึดไฟลต์ | Flight Risk (2025)
บทหนัง - 6
การแสดง - 7.5
โปรดักชัน - 6.5
ความบันเทิง - 6
ความคุ้มค่าในการรับชม - 5.5
6.3
หนังนำเสนอความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในสถานที่จำกัด โดยเน้นการแสดงของนักแสดงหลักสามคน ซึ่งได้แก่ Michelle Dockery, Mark Wahlberg และ Topher Grace ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่คับขันและต้องทำงานร่วมกันเพื่อเอาชีวิตรอด แม้ว่าจะมีการวิจารณ์ในเรื่องของบทสนทนาที่ไม่ค่อยน่าประทับใจ แต่การดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและความตึงเครียดก็ยังคงทำให้ผู้ชมติดตามได้อย่างต่อเนื่อง