ในช่วงฤดูกาลรางวัลที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก มักจะมีการปล่อยภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเดียวซ้ำซาก แต่ “Carry-On” จาก Netflix กลับมาเป็นทางเลือกที่สดชื่นด้วยความเรียบง่ายที่ลงตัว เมื่อไม่นานมานี้ ฮอลลีวู้ดเคยผลิตหนังแอ็คชั่นที่มีฉากเดียวกันอย่างต่อเนื่อง เช่น “Die Hard on a Plane” หรือ “Die Hard on a Bus” ซึ่งบางครั้งกลายเป็นความบันเทิงที่ให้ความรู้สึกผิด แต่ก็มีหนังแอ็คชั่นที่สร้างอย่างดีอย่าง “Air Force One” หรือ “Speed” ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ
“Carry-On” ไม่ได้พยายามเทียบเคียงกับหนังระดับนั้น แต่ด้วยความเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน กลับทำให้รู้สึกถึงยุคทองของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่ไม่ถูกบดบังด้วยตำนานหรือมิติเวิร์ส ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความสนุกที่แท้จริง แม้บางครั้งจะยืดเยื้อและมีความตลกเกินไป แต่สำหรับผู้ชมส่วนใหญ่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับความบันเทิงที่แท้จริง โดยเฉพาะในปีที่ไม่มีหนังฮอลิเดย์ที่น่าสนใจ “Carry-On” อาจเป็นหนังคริสต์มาสที่ดีที่สุดในปีนี้
รีวิวและเรื่องย่อ Carry-On (สัมภาระอันตราย)
“Carry-On” นำแสดงโดย Taron Egerton รับบทเป็นอีธาน โคเพ็ก นักตรวจสอบความปลอดภัย TSA ที่กลายเป็นตัวละครสำคัญในแผนการก่อการร้าย หลังจากที่เราได้รู้จักกับนางเอก นอร่า (Sofie Carson) และพบว่าเธอทั้งสองกำลังจะมีลูก นอร่าและอีธานต้องเผชิญหน้ากับวันเดินทางที่สำคัญในคืนคริสต์มาส
ในงานของเขาที่จุดตรวจความปลอดภัยที่แออัด อีธานได้รับหูฟังและข้อความจากคนแปลกหน้าที่สั่งให้เขาผ่านกระเป๋าของผู้โดยสารโดยไม่ก่อให้เกิดความสงสัย หากเขาปฏิบัติตามคำสั่ง ผู้หญิงของเขาจะรอดชีวิต แต่เขาก็รู้ว่าการทำเช่นนั้นจะหมายถึงการเสียชีวิตของผู้โดยสารหลายร้อยคน
บทภาพยนตร์โดย T.J. Fixman มุ่งเน้นไปที่แนวคิดที่ชาญฉลาด ทำให้ “Carry-On” โดดเด่นเหนือความบกพร่องบางประการ เป็นสถานการณ์คลาสสิกของ “คุณจะทำอย่างไร” ซึ่งคล้ายกับปัญหารถรางในปรัชญา ถามว่าคุณจะทำอะไรถ้าต้องเลือกช่วยชีวิตคนใกล้ชิด แต่ต้องเสียชีวิตคนอื่นๆ อีกหลายร้อยคน?
Jaume Collet-Serra ผู้กำกับที่เคยสร้างหนังแอ็คชั่นที่มีความเข้มข้น เช่น “Run All Night” และ “The Commuter” กลับมาทำหนังที่ไม่ซับซ้อนและมีจังหวะการดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว แม้บางครั้งอาจมีความยาวและความตลกที่มากเกินไป แต่การแสดงของ Jason Bateman ในบทวายร้ายทำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยชุดเสื้อคลุมสีดำและหมวก เขาทำให้บทบาทวายร้ายนี้น่าจดจำและน่ากลัว
การแสดงของ Logan Marshall-Green, Theo Rossi, Dean Norris, และ Danielle Deadwyler ก็เสริมให้ภาพยนตร์นี้มีความหลากหลายและน่าสนใจ Deadwyler ในบทนักวิเคราะห์ที่เริ่มเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ ทำได้ดีในการสร้างความเข้มข้น แม้บางครั้งอาจท้าทายตรรกะ แต่ก็เพิ่มความตื่นเต้นให้กับเนื้อเรื่อง
“Carry-On” เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่น่าติดตามในปี 2024 ด้วยการนำเสนอแนวคิดที่ชาญฉลาดและการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากทีมงานที่มีประสบการณ์ แม้จะมีบางจุดที่อาจยืดเยื้อหรือมีความตลกเกินไป แต่โดยรวมแล้วเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงที่แท้จริงและน่าจดจำ
หากคุณเป็นแฟนของหนังแอ็คชั่นที่มีเนื้อเรื่องที่เรียบง่ายแต่มีความเข้มข้น “Carry-On” อาจเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดในช่วงเทศกาลนี้ แบ่งปันความคิดของคุณเกี่ยวกับหนังนี้ในคอมเมนต์ และอย่าลืมแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ ของคุณที่ชื่นชอบหนังแอ็คชั่นกันด้วยนะครับ!
“Carry-On” เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่เล่าเรื่องราวของอีธาน โคเปก เจ้าหน้าที่ TSA ที่สนามบินลอสแอนเจลิส ในคืนคริสต์มาสอีฟ เขาถูกแบล็กเมล์โดยนักเดินทางลึกลับ บังคับให้เขาปล่อยให้สัมภาระอันตรายผ่านการตรวจสอบขึ้นเครื่อง เพื่อปกป้องคนที่เขารัก อีธานต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย และพยายามหาทางหยุดยั้งแผนการร้ายนี้
- ประเภท: ระทึกขวัญ, แอคชั่น
- วันที่ออกอากาศ: 13 ธันวาคม 2024
- นักแสดงนำ: ทารอน เอเกอร์ตัน, เจสัน เบทแมน, โซเฟีย คาร์สัน, แดเนียล เดดไวเลอร์
- ผู้กำกับ: เฆาเม โกเยต-เซร์รา
- ความยาว: 1 ชั่วโมง 59 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 6.9/10
- ช่องทางการดู: Netflix