Freedom (2024) ผลงานกำกับโดย Mélanie Laurent ผู้สร้างหนังที่มีเอกลักษณ์และสไตล์เฉพาะตัว โดยเรื่องนี้เธอถ่ายทอดชีวประวัติที่ไม่เป็นทางการของ Bruno Sulak โจรปล้นผู้กล้าหาญแห่งฝรั่งเศสในยุค 80 ผ่านสายตาอันละเอียดอ่อนแต่หนักแน่น ความตื่นเต้นของการปล้นที่ Bruno ทำร่วมกับแก๊งของเขาถูกเล่าผ่านมุมมองที่ละมุนละไมแต่ทรงพลัง ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการปล้นและการหลบหนี แต่มากกว่านั้นคือการไล่ตามเสรีภาพในแบบของตัวเอง
ในบทบาทของ Bruno คือ Lucas Bravo ที่แสดงความหล่อเนี้ยบในบทบาทโจรผู้สุภาพและมีกฎเกณฑ์ที่ตัวเองตั้งขึ้น ไม่ใช้ความรุนแรงและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ เขาร่วมกับพรรคพวกปล้นร้านค้าและร้านเครื่องเพชรอย่างมีแบบแผน โดยที่ไม่มีใครได้รับอันตรายใด ๆ บทบาทของเขากับ Annie ที่แสดงโดย Lea Luce Busato และ Drago ที่แสดงโดย Steve Tientcheu เพิ่มสีสันให้กับการปล้นที่มีอารมณ์หลากหลาย ทั้งตื่นเต้น น่าหลงใหล และเต็มไปด้วยเสน่ห์
รีวิวและเรื่องย่อ จอมโจรใจเสรี (Freedom)
เรื่องราวเริ่มต้นจากการปล้นที่วางแผนไว้อย่างดี Bruno เข้าสู่ร้านค้าเพื่อขอให้พนักงานมอบเงินให้เขาอย่างสุภาพ ขณะที่ Drago เข้าไปดูแลผู้จัดการในห้องเก็บเงิน ส่วน Annie นั่งเตรียมสตาร์ทรถเพื่อเตรียมตัวหนี ทั้งทีมทำงานอย่างเป็นระบบและมีความสุภาพ จนแทบจะไม่มีใครรู้สึกถึงอันตราย Bruno สามารถทำให้ทุกคนใจเย็นลงได้ด้วยท่าทีที่นุ่มนวลและความสุภาพของเขา การวางแผนแต่ละครั้งเป็นการท้าทายความสามารถของตำรวจที่นำโดย Georges Moreas (แสดงโดย Yvan Attal) ที่ต้องวิ่งไล่ตามพวกเขาอย่างลำบากใจ
นอกเหนือจากการปล้นแล้ว หนังยังเผยถึงความสัมพันธ์ของ Bruno กับ Annie ซึ่งเต็มไปด้วยความรักและเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ทั้งคู่มีเคมีที่เข้ากันได้ดี เป็นความสัมพันธ์ที่หวานและเย้ายวน และในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของเขากับ Drago ก็พัฒนาขึ้นเป็นเพื่อนสนิทที่ทำงานร่วมกันอย่างรู้ใจกัน ด้วยความเป็นมืออาชีพและความไว้วางใจที่มีต่อกัน ความสัมพันธ์เหล่านี้ทำให้เรื่องราวมีมิติที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
สำหรับ Georges Moreas และ Bruno ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มจากการไล่ล่าและแข่งกับความเก่งของกันและกัน แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปก็กลายเป็นความเคารพในฝีมือของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นมุมมองที่แปลกใหม่สำหรับเรื่องราวการไล่ล่าระหว่าง “ผู้ดี” กับ “โจร” ที่ต่างกันในแนวคิดแต่ก็มีความเข้าใจกัน
การปล้นแต่ละครั้งของ Bruno ไม่เพียงแค่เป็นการหยิบเงินหรือเครื่องเพชรจากร้านค้า แต่เป็นการวางแผนที่มีศิลปะ มักจะมีการขโมยเล็กน้อยในรูปแบบที่น่ารัก เช่น การหยิบอมยิ้มให้ตัวเอง หลังจากการปล้นแต่ละครั้ง ทีมงานจะรวมตัวกันที่วิลล่าสุดหรูเพื่อวางแผนและฉลองชัยชนะ บรรยากาศเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสนุกและความเป็นกันเองในหมู่เพื่อนร่วมทีม
แต่การเดินทางของเขาก็ต้องพบกับอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดึงความยุ่งยากเข้ามา หรือการจับกุมของตำรวจที่ Bruno ต้องพยายามหนีออกจากคุกไปเพื่อทำสิ่งที่เขารัก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยเสรีภาพที่เขาหวงแหน
จุดเด่นของหนังคือแนวคิดที่ว่า เสรีภาพเป็นสิ่งที่อยู่ในใจ แม้ว่าเขาจะถูกจับกุมแต่ Bruno เชื่อว่าเขายังคงมีเสรีภาพมากกว่าตำรวจที่ทำตามกรอบกฎเกณฑ์ที่กำหนดมา แนวคิดนี้ทำให้ Bruno กลายเป็นตัวละครที่น่าสนใจ เขามีความเป็นนักปรัชญาที่มองโลกในแบบของตัวเอง เสรีภาพที่เขาเชื่อไม่ใช่แค่การไม่มีกรงขัง แต่เป็นการใช้ชีวิตตามความฝันและทักษะที่เขามี
หนังไม่ได้มุ่งเน้นให้เรารู้สึกว่าการปล้นคือสิ่งที่ดี แต่ Laurent ได้เลือกถ่ายทอดมุมมองที่เปิดกว้างเกี่ยวกับเสรีภาพและสิ่งที่เราควรตามหาในชีวิต
Mélanie Laurent สร้างผลงานที่มีภาพและการตัดต่อที่สวยงาม โดยมักจะใช้เทคนิคการเล่าเรื่องผ่านมอนทาจที่สื่อถึงความสนุกและความมีชีวิตชีวาได้อย่างดีเยี่ยม ภาพที่ใช้ในหนังนั้นดูสมจริงและน่าหลงใหล ซึ่งเสริมให้กับบรรยากาศของเรื่องราวได้อย่างลงตัว
แม้ว่าเนื้อเรื่องบางส่วนอาจจะไม่ได้อธิบายลึกถึงแรงจูงใจหรือความเป็นฮีโร่ในแบบที่ทำให้ Bruno กลายเป็นที่รัก แต่ Laurent ยังคงทำให้เราเห็นถึงด้านที่ดีและเสน่ห์ของเขา ซึ่งเธอไม่พยายามตัดสินว่าการกระทำของเขาถูกหรือผิด แต่เน้นให้เราเห็นเสรีภาพในแบบที่เขาต้องการ
Freedom ไม่ใช่แค่หนังแนวปล้นธรรมดา ๆ แต่เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดความหมายของเสรีภาพผ่านตัวละครที่ซับซ้อนและมีเสน่ห์ นอกจากการเล่าเรื่องของการปล้นที่น่าตื่นเต้นแล้ว หนังยังทำให้เราหวนคิดถึงเสรีภาพในแบบของเราเอง ไม่ว่ามันจะอยู่ในรูปแบบใด หรือเกิดจากการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ Freedom ของ Bruno แสดงถึงความเป็นอิสระที่เขาสร้างขึ้นด้วยตัวเอง
- ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, โรแมนติก
- วันที่ออกอากาศ: 2024
- นักแสดงนำ: Lucas Bravo, Léa Luce Busato
- ผู้กำกับ: Mélanie Laurent
- จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 50 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 5.8/10
- ช่องทางการดู: Prime Video