สัปดาห์นี้กับหนังระทึกขวัญเรื่องใหม่ “Don’t Move” ที่เพิ่งลง Netflix เล่าเรื่องราวที่น่าขนลุกและเข้มข้นของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกจับขังไว้และฉีดสารพิษจนไม่สามารถขยับตัวได้ เรื่องราวถูกกำกับโดยสองผู้กำกับมากฝีมือ Brian Netto และ Adam Schindler ภายใต้การสนับสนุนของโปรดิวเซอร์ชื่อดัง Sam Raimi ที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าจับตามองมากยิ่งขึ้น
นักแสดงนำในเรื่องคือ Kelsey Asbille รับบทเป็น Iris ผู้เคราะห์ร้าย และ Finn Wittrock รับบทเป็น Richard ผู้ลักพาตัวเธอ หนังเรื่องนี้สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกดดัน และความหวาดกลัวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการแสดงที่มีเสน่ห์และน่าติดตาม
รีวิวและเรื่องย่อ Don’t Move (อย่าขยับ)
Iris (Kelsey Asbille) ยังคงจมอยู่กับความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกชายวัยเตาะแตะของเธอ เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นที่หน้าผาสูงในป่าที่สวยงามในแคลิฟอร์เนีย ได้ทำให้เธอไม่อาจลืมมันได้ เธอกลับมายืนที่เดิมอีกครั้ง มองไปยังอนุสรณ์เล็กๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงลูกชายของเธอ และครุ่นคิดว่าจะทำตามเส้นทางเดียวกันดีหรือไม่ แต่แล้ว Richard (Finn Wittrock) ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเข้ามาอย่างสุภาพ และดูเหมือนจะรู้ว่าต้องพูดอะไรถึงจะช่วยให้ Iris ก้าวข้ามความเจ็บปวดนี้ไปได้ แต่สุดท้ายเขากลับเผยธาตุแท้ที่น่ากลัว เมื่อใช้วิธีการล่อลวงให้เธอติดกับและจับเธอไปไว้ในรถของเขา
Richard บอกกับ Iris ว่าเขาได้ฉีดยาพิษที่ทำให้เธอไม่สามารถขยับได้ภายใน 20 นาที ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เธอตกอยู่ในภาวะที่น่าสะพรึงกลัวเพราะแม้จะไม่สามารถขยับได้ แต่เธอยังมีสติที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อยๆ ดำเนินไปตามเวลาที่ Richard ตั้งใจ
ก่อนที่เธอจะถูกจับ Iris ได้หยิบมีดพกเล็กๆ ที่บ้านติดตัวมาด้วย แม้ว่าดูเหมือนจะไม่สำคัญอะไร แต่มันกลับกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เธอสามารถตัดสายรัดและทำให้รถของ Richard เกิดอุบัติเหตุ จนเธอสามารถหนีออกมาได้ แต่ยากที่เธอจะหนีได้พ้นเมื่อพิษเริ่มทำงาน และ Richard ยังคงตามล่าเธออย่างไม่เร่งรีบ เพราะเขารู้ดีว่าเธอจะหนีไปไหนไม่ได้
ถ้าคุณสามารถมองข้ามความจงใจที่มากเกินไปในบทและความไม่สมจริงบางจุด เช่น การใช้มีดพกที่ทำให้เรื่องดูเหมือนง่ายดายเกินไป คุณจะพบว่าหนังเรื่องนี้สร้างความตึงเครียดและระทึกใจได้ดีพอสมควร ด้วยการเล่าเรื่องแบบ “เล่นกับอารมณ์ผู้ชม” สไตล์ Hitchcock ที่ผู้กำกับทั้งสองนำมาใช้ในแบบของตัวเอง การเล่าเรื่องที่มีพิษลามเข้าร่างกายของ Iris ค่อยๆ ทำให้เธออ่อนแอลงเป็นเครื่องมือที่สร้างความตึงเครียด และขยายช่วงเวลานั้นให้ยาวนานยิ่งขึ้น ผู้ชมจะรู้สึกกดดันและลุ้นตามไปทุกวินาทีเหมือนกำลังเดินอยู่ในป่ามืดที่ไม่รู้จะเจออะไรข้างหน้า
แม้ว่าบางจุดของหนังจะดูเหนือจริง และบางครั้งก็ทำให้ผู้ชมอดตั้งคำถามไม่ได้ แต่วิธีการเล่าเรื่องที่กระชับและมีจังหวะชัดเจนกลับช่วยให้เราติดตามไปจนถึงจุดไคลแม็กซ์ได้ หนังยังพยายามจะเล่นกับประเด็นของความเปราะบางทางอารมณ์ของมนุษย์และการรับมือกับความสูญเสีย แต่ก็ไม่ได้เจาะลึกถึงขนาดที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละครได้เต็มที่ สิ่งที่หนังทำได้ดีคือลำดับการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ สร้างความกดดันให้ผู้ชมต้องลุ้นไปกับตัวละคร จนกระทั่งถึงจุดจบ
โดยรวมแล้ว “Don’t Move” อาจไม่ได้เป็นหนังที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นหนังที่มีจังหวะและวิธีการเล่าเรื่องที่ชวนลุ้นและตื่นเต้นพอที่จะทำให้ผู้ชมติดตามไปจนจบ และยังมีความลึกลับที่ทำให้เราต้องลุ้นไปกับชะตากรรมของ Iris ว่าเธอจะสามารถเอาชีวิตรอดได้หรือไม่
แม้ว่า “Don’t Move” จะไม่ใช่หนังระทึกขวัญที่เข้มข้นหรือสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่ใช้จังหวะในการสร้างความกดดันที่ดีทำให้หนังดูสนุกและลุ้นไปกับการต่อสู้ของตัวละคร Iris ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายและยากจะเอาตัวรอดได้ ตัวละครของ Richard เองก็เป็นตัวร้ายที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ทำให้เรารู้สึกเกลียดและขยะแขยงไปกับการกระทำของเขาได้อย่างชัดเจน ถ้าคุณกำลังมองหาหนังระทึกขวัญที่ดูสนุกและไม่ซับซ้อนเกินไป “Don’t Move” คงจะเป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด
- ประเภท: ระทึกขวัญ, สยองขวัญ
- วันที่ออกอากาศ: 25 ตุลาคม 2024
- นักแสดงนำ: Kelsey Asbille, Finn Wittrock
- ผู้กำกับ: Adam Schindler, Brian Netto
- จำนวนตอน/ความยาว: 1 ชั่วโมง 32 นาที
- เรตติ้ง IMDb: 5.9/10
- ช่องทางการดู: Netflix