[รีวิว] Borderlands | บอร์เดอร์แลนดส์ (2024)

ในโลกของเกม Borderlands ที่สร้างโดย Gearbox Software และ 2K Games ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครที่ผสมผสานระหว่างการสำรวจ การทำงานเป็นทีม และการค้นหาอาวุธใหม่ ๆ ที่จะใช้ต่อสู้กับศัตรูมากมาย เกมนี้มีโครงสร้างที่ดึงดูดใจ ทำให้ผู้เล่นสามารถใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมงในการสำรวจโลกที่มีตัวละครที่น่าจดจำ เช่น Claptrap, Mad Moxxi, Tiny Tina และ Handsome Jack โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนดาวเคราะห์ Pandora ที่มีสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดและศัตรูที่มีลักษณะคล้ายกับผู้คลั่งไคล้ในภาพยนตร์ “Mad Max: Fury Road”

แม้ว่าจะมีความซ้ำซากในเกมที่เน้นการเก็บของ (loot farming) แต่ Borderlands ก็มีเสน่ห์ที่ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ด้วยการออกแบบที่สร้างสรรค์และการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันที่มีเอกลักษณ์ ทำให้เกมนี้มีความสนุกสนานและน่าติดตามอย่างยิ่ง การผจญภัยในโลกของ Borderlands จึงไม่ใช่แค่การยิงปืนและต่อสู้กับศัตรูเท่านั้น แต่ยังเป็นการค้นพบเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกมีส่วนร่วม

อย่างไรก็ตาม ความกังวลที่เกิดขึ้นหลังจากการชมภาพยนตร์ “Borderlands” ที่กำกับโดย Eli Roth คือการที่ภาพยนตร์นี้อาจทำให้ชื่อเสียงของแฟรนไชส์ที่มีคุณค่าตกต่ำลงไป ภาพยนตร์นี้ไม่สามารถถ่ายทอดความสำเร็จและเสน่ห์ของเกมออกมาได้อย่างครบถ้วน ทำให้ผู้ชมรู้สึกผิดหวังอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงตัวละครที่มีชื่อเสียงและโลกที่เต็มไปด้วยสีสันที่เกมได้สร้างขึ้น

วิเคราะห์ภาพยนตร์ Borderlands

Cate Blanchett รับบทเป็น Lilith นักล่าเงินรางวัลที่มีชื่อเสียงจากเกม ในภาพยนตร์นี้ Lilith ถูกจ้างให้ไปตามหาลูกสาวของ Atlas ที่ถูกลักพาตัวไป โดยมีการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความท้าทาย แต่การดำเนินเรื่องกลับไม่สามารถสร้างความน่าสนใจได้เท่าที่ควร สคริปต์ที่เขียนโดย Roth และ Joe Crombie ขาดความลึกซึ้งและความน่าจดจำของตัวละคร ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าตัวละครเหล่านี้ไม่มีความเป็นเอกลักษณ์หรือเสน่ห์ที่ควรจะมี

ในขณะที่ Lilith กลับมาที่ดาว Pandora เธอได้พบกับ Claptrap หุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวตลก แต่ความตลกในภาพยนตร์นี้กลับไม่สามารถสร้างเสียงหัวเราะได้จริง ๆ มีเพียงการพูดคุยที่ยืดยาวและไม่มีสาระสำคัญ ทำให้แฟน ๆ ของเกมรู้สึกผิดหวังกับการนำเสนอของตัวละครที่พวกเขารัก

การต่อสู้ในภาพยนตร์นี้ยังขาดความน่าตื่นเต้นและความชัดเจนในการดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะในฉากแอ็คชั่นที่ดูเหมือนจะไม่มีการวางแผนที่ดี ทำให้ผู้ชมไม่สามารถเข้าใจหรือรู้สึกตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ การสร้างสรรค์ที่น่าจดจำในฉากแอ็คชั่นกลายเป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากภาพยนตร์นี้

สรุป

การนำ Borderlands มาสร้างเป็นภาพยนตร์ถือเป็นความพยายามที่น่าสนใจ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของแฟน ๆ ได้ ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่ขาดความน่าสนใจในการดำเนินเรื่อง แต่ยังทำให้แฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงต้องเผชิญกับความเสื่อมเสีย การสร้างสรรค์ที่น่าจดจำในเกมกลับถูกทำลายลงในภาพยนตร์ที่ไม่สามารถถ่ายทอดความสนุกสนานและเสน่ห์ของโลก Borderlands ได้อย่างแท้จริง

การนำเสนอที่น่าผิดหวังนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า Borderlands ควรจะเป็นเกมที่ควรค่าแก่การเล่นมากกว่าการรับชมในรูปแบบภาพยนตร์ และหวังว่าในอนาคตจะมีการสร้างสรรค์ที่ดีกว่าเพื่อให้แฟรนไชส์นี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง