แฟนหนังแอ็คชั่นสายดุดันเตรียมล้างตารอให้พร้อม เพราะ Monkey Man ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของนักแสดงมากฝีมืออย่าง Dev Patel (Slumdog Millionaire, The Green Knight) คือลูกผสมที่ลงตัวระหว่างความสะใจแบบ John Wick และกลิ่นอายความดิบแบบหนังอินเดีย หาก The Raid เวอร์ชั่นบอลลีวูดผสมเข้ากับองค์ประกอบการล้างแค้นฟังดูน่าสนใจ นี่คือหนังที่คุณต้องดู
Monkey Man มาแปลกตั้งแต่พล็อตเรื่องแล้ว หนังไม่ได้พาเราไปสำรวจตำนานหนุมาน แต่นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มที่ออกจากคุก และก้าวเข้าสู่โลกอาชญากรรมของมุมไบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้แค้นสังคมที่พรากทุกอย่างไปจากเขา การเดินทางของเขาสร้างความปั่นป่วนไปทั่วทั้งวงการมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล จนลามไปถึงการขุดคุ้ยความจริงบางอย่างที่ถูกซ่อนเอาไว้
หลายคนน่าจะประหลาดใจที่ Dev Patel (เดฟ พาเทล) กำกับ ‘หนังแบบนี้’ ออกมา แต่บอกเลยว่าเขาทำได้ดีเกินคาด! Patel ผสมผสานฉากแอ็คชั่นดิบๆ กับองค์ประกอบทางจิตวิญญาณและประเด็นเรื่องชนชั้นทางสังคมได้อย่างน่าสนใจ
เนื้อเรื่องย่อ Monkey Man (2024)
Monkey Man (2024) แทบไม่มีช่วงเวลาให้คุณได้หายใจ ฉากแอ็คชั่นเปิดมาตั้งแต่นาทีแรก และเดินหน้าแบบไม่ยั้ง แม้หนังจะเน้นความมันส์เป็นหลัก แต่ปมด้านความเหลื่อมล้ำ การคอร์รัปชั่น และความบิดเบี้ยวในสังคมก็ยังมีน้ำหนักและถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจน หนังอาจไม่ได้มีพล็อตซับซ้อน แต่สิ่งที่ดึงดูดเราคือความคลั่ง ความดุดัน และการล้างแค้นของพระเอกที่เราอินกับความเจ็บปวดของเขาได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม แม้จังหวะของหนังจะถือว่าเร็ว แต่ช่วงกลางเรื่องอาจมีสะดุดเล็กน้อย มีการพยายามสอดแทรกการฝึกฝน ที่แอบยืดยาดไปหน่อยเมื่อเทียบกับส่วนที่เหลือ แต่หนังก็ดึงอารมณ์กลับมาได้ด้วยความเข้มข้นระดับพีคในองก์สุดท้าย
การแสดง
Dev Patel ไม่ได้แค่กำกับ แต่เขารับบทนำด้วย และพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเป็นนักแสดงคุณภาพ Patel ถ่ายทอดด้านมืดของตัวละครได้อย่างดิบเถื่อน มีฉากแอ็คชั่นหลายซีนที่เขาเล่นเอง นอกจากนี้ นักแสดงอินเดียคนอื่นๆ ในเรื่องก็มีเคมีที่เข้ากัน ช่วยขับเน้นบรรยากาศของโลกอาชญากรรมในมุมไบได้ดีมาก
ที่น่าจับตาคือ ชาร์ลโต คอปเลย์ (Sharlto Copley) จากเรื่อง District 9 ในบทตัวร้ายสุดโรคจิต หนังสร้างสมดุลย์ระหว่างพระเอกและวายร้ายได้น่าติดตาม ชวนให้เราอยากเห็นบทสรุปของสองตัวละครหลักนี้มาก
โปรดักชัน
นี่คืออีกจุดแข็ง Monkey Man แม้จะเป็นหนังแอ็คชั่นทุนไม่สูงนัก แต่สร้างงานภาพที่มีสไตล์เฉพาะตัวออกมาได้น่าประทับใจ การใช้สีและองค์ประกอบแสงช่วยสร้างบรรยากาศนีโอ-นัวร์แบบอินเดียได้แจ่มมากๆ ที่สำคัญคือฉากแอ็คชั่นโหดถึงใจ Filming location ในมุมไบก็ถูกนำเสนออย่างดิบและมีชีวิตชีวา นี่คือหนังอินดี้ในแง่ของสปิริต แต่คุณภาพงานสร้างนั้นบล็อกบัสเตอร์ดีๆ นี่เอง
ทิ้งท้าย
Monkey Man ไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน หากคุณถนัดหนังรักใสๆ หรือดราม่าน้ำตาท่วมจอ เรื่องนี้อาจโหดเกินไป แต่มันคือหนังคุณภาพที่แฟนแอ็คชั่นเลือดเดือดห้ามพลาด Dev Patel โชว์ศักยภาพด้านการกำกับแบบจัดเต็ม การแสดงของเขาก็ยอดเยี่ยม ชวนให้เราลุ้นว่าเขาอาจกำกับหนังแอ็คชั่นมันส์ๆ ออกมาให้เราติดตามกันอีก