[รีวิว-เรื่องย่อ] Love in the Big City (2024)

เมื่อพูดถึงซีรีส์ที่สะท้อนชีวิตจริงและความซับซ้อนของความรักในสังคมยุคใหม่ Love in the Big City (2024) เป็นหนึ่งในเรื่องที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างลึกซึ้ง ซีรีส์เรื่องนี้ซึ่งออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2024 ทาง TVING และ Viki นำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมืออย่าง Nam Yoon-su, Lee Soo-kyung, Jin Ho-eun, Oh Hyun-kyung, Kwon Hyuk, และ Lee Hyun-so ได้รับการดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกัน (대도시의 사랑법) โดย Park Sang-young ผู้ซึ่งยังเป็นผู้เขียนบทให้กับซีรีส์นี้ด้วย กำกับการแสดงโดย Hur Jin-ho, Hong Ji-young, Son Tae-gyum, และ Kim Se-in

ซีรีส์นี้เล่าเรื่องราวของ โกยอง (Nam Yoon-su) ชายหนุ่มที่เป็นเกย์และต้องเผชิญกับความเหงาและการปฏิเสธจากคนรอบตัวเนื่องจากเขาพยายามปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ชีวิตของเขาหมุนเปลี่ยนเมื่อได้พบกับ โชมีแอ (Lee Soo-kyung) สาวสตรองที่ต้องต่อสู้กับการยอมรับในสังคมเช่นกัน ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนร่วมห้องและเป็นกำลังใจให้กันและกันในโลกที่เต็มไปด้วยการตัดสิน ผ่านความสัมพันธ์ของโกยองกับผู้ชายหลายคน เราได้เห็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความเจ็บปวด และความซับซ้อนของความรัก พร้อมกับการสำรวจความตึงเครียดระหว่างความคาดหวังของสังคมและตัวตนที่แท้จริง

หนึ่งในจุดเด่นของซีรีส์นี้คือความสัมพันธ์ระหว่างโกยองกับแม่ของเขา ซึ่งต้องต่อสู้กับการยอมรับในตัวตนของลูกชาย ความขัดแย้งนี้เพิ่มความลึกซึ้งทางอารมณ์ให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะเมื่อโกยองพยายามค้นหาความรักและการยอมรับไม่เพียงจากคนรอบตัว แต่จากตัวเองด้วย เมื่อเขาได้พบกับ คยูโฮ ชายที่มอบความรักแบบไม่มีเงื่อนไขให้กับเขา มันดูเหมือนว่าเขาจะพบสิ่งที่เขาตามหามาตลอด แต่วิถีชีวิตกลับทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของโกยองที่พาเขามายังประเทศไทย เพื่อหลีกหนีจากความเจ็บปวดและค้นหาตัวเองอีกครั้ง

รีวิวและเรื่องย่อ Love in the Big City

การแสดงของ Nam Yoon-su ในบทบาทของโกยองเป็นหนึ่งในจุดเด่นของซีรีส์นี้ เขาสามารถถ่ายทอดความเปราะบางและอารมณ์ที่หลากหลายของตัวซีรีส์ได้อย่างน่าประทับใจ ตั้งแต่ช่วงแรกที่โกยองยังเป็นคนที่ลังเลและปิดกั้นตัวเอง ไปจนถึงช่วงเวลาที่เขาเปิดใจให้กับความรักอย่างเต็มที่ การแสดงของ Nam Yoon-su โดยเฉพาะในฉากที่เขาต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการเลิกรากับคยูโฮ ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ชมอย่างมาก

ผู้ชมหลายคนบน Twitter (หรือ X ในปัจจุบัน) ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแสดงของเขาว่า “ฉันร้องไห้มาก มันเจ็บปวดแต่สวยงาม การถ่ายทำก็สวยงาม ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ฉันคิดว่านี่คือซีรีส์ Boys’ Love ที่ดีที่สุดที่ฉันเคยดูมา” ความเห็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความประทับใจที่ผู้ชมมีต่อการแสดงของ Nam Yoon-su และความสามารถในการดึงดูดอารมณ์ของผู้ชม

นอกจากนี้ การแสดงของ Lee Soo-kyung ในบทบาทของโชมีแอก็ไม่น้อยหน้า เธอสามารถถ่ายทอดความเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งแต่ก็มีความเปราะบางภายในได้อย่างสมจริง ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโกยองเป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่ทำให้ซีรีส์นี้มีความสมดุลระหว่างความรักและมิตรภาพ

บทของ Park Sang-young ซึ่งดัดแปลงจากนวนิยายของเขาเอง ได้รับการยกย่องจากผู้ชมว่ามีความลึกซึ้งและสมจริง บทเรื่องนี้ไม่ได้เพียงแต่เล่าเรื่องราวความรักระหว่างชายกับชาย แต่ยังสำรวจประเด็นทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับตัวตนและความคาดหวังจากคนรอบตัว

หนึ่งในฉากที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมากที่สุดคือฉากที่โกยองต้องเผชิญหน้ากับแม่ของเขา ซึ่งยังไม่สามารถยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ ฉากนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเจ็บปวดของโกยอง แต่ยังทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ต้องต่อสู้กับการยอมรับในสิ่งที่แตกต่าง

นอกจากนี้ บทยังได้นำเสนอความสัมพันธ์ของโกยองกับผู้ชายหลายคน ซึ่งแต่ละความสัมพันธ์ก็มีเรื่องราวและบทเรียนที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ความรักครั้งแรกที่เต็มไปด้วยความหวัง ไปจนถึงความรักที่ต้องจบลงด้วยความเจ็บปวด บทเรื่องนี้ทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงความซับซ้อนของความรักและการเติบโตของตัวซีรีส์

การผลิตของซีรีส์นี้ได้รับการยกย่องว่ามีความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ตั้งแต่การถ่ายทำที่สวยงาม การตัดต่อที่เน้นอารมณ์ และการใช้แสงสีที่ช่วยเสริมบรรยากาศของเรื่อง ฉากในประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม โดยเฉพาะการถ่ายทำที่เน้นความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมไทย

นอกจากนี้ เพลงประกอบของซีรีส์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมอารมณ์ของเรื่องได้เป็นอย่างดี เพลงแต่ละเพลงถูกเลือกมาอย่างเหมาะสมและช่วยให้ผู้ชมรู้สึกถึงอารมณ์ของตัวซีรีส์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

Love in the Big City (2024) เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้เพียงแต่เล่าเรื่องราวความรัก แต่ยังสะท้อนถึงความซับซ้อนของชีวิตและการค้นหาตัวตนในสังคมที่เต็มไปด้วยการตัดสิน การแสดงที่ยอดเยี่ยม บทที่ลึกซึ้ง และการผลิตที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ซีรีส์นี้เป็นหนึ่งในซีรีส์ Boys’ Love ที่ควรค่าแก่การรับชมมากที่สุดในปี 2024

หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์และเรื่องราวที่สมจริง Love in the Big City คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด