เมื่อพูดถึงซีรีส์ Gyeongseong Creature (สัตว์สยองกยองซอง) ซีซั่น 1 เราอาจคุ้นเคยกับการผสมผสานระหว่างดราม่าประวัติศาสตร์และการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พยายามถ่ายทอดเนื้อหาลึกซึ้งในเรื่องของความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์ แม้จะมีบางช่วงที่เรื่องราวเดินไปอย่างช้าๆ และยาวเกินไป แต่ก็ยังมีความน่าสนใจและชวนติดตามสำหรับผู้ชม แต่เมื่อเข้าสู่ซีซั่น 2 เนื้อหาของเรื่องก็ได้พัฒนาและเปลี่ยนไปมาก โดยในครั้งนี้เป็นการยกระดับบรรยากาศสู่การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนขึ้น พร้อมกับการสอดแทรกแนวความคิดใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม
ซีซั่น 2 ของ Gyeongseong Creature แตกต่างจากซีซั่นแรกอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่ในเรื่องของเวลาและสถานที่ที่ก้าวกระโดดไปอีกกว่า 80 ปีจากเหตุการณ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ยังมีการเปลี่ยนแนวทางจากการเล่าเรื่องในยุคประวัติศาสตร์สู่การสืบสวนแบบลึกลับ ที่มีกลิ่นอายของนัวร์มากขึ้น แม้ตัวละครหลักบางตัวจะยังคงกลับมาแสดงบทบาทใหม่ แต่ก็ยังคงมีความเชื่อมโยงกับซีซั่นแรก ทำให้ผู้ชมไม่สามารถลืมความต่อเนื่องของเรื่องราวได้
ด้วยการกลับมาของนักแสดงยอดนิยมอย่าง ฮันโซฮี และ พัก ซอ-จุน ซีซั่นนี้ยังคงสร้างความสนุกสนานด้วยการสืบหาความจริงของเรื่องราวที่ซับซ้อน แต่สิ่งที่ทำให้ซีซั่นนี้มีความแตกต่างก็คือเนื้อหาที่หนักแน่นกว่าเดิม การดำเนินเรื่องมีการพัฒนาที่เร็วขึ้น และนำเสนอความลึกลับที่เข้มข้นกว่าที่เคยเป็น
รีวิวและเรื่องย่อซีรีส์ Gyeongseong Creature (สัตว์สยองกยองซอง) ซีซั่น 2
ในซีซั่น 1 ฮันโซฮีรับบทเป็น ยุนแชอ๊ก หญิงสาวที่ตามหาความจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของแม่เธอ พร้อมกับ แทซัง (พัก ซอ-จุน) ซึ่งเป็นนายหน้าโรงรับจำนำผู้ช่วยในการสืบสวน ในซีซั่นนี้ ยุนแชอ๊กยังคงอยู่ในเส้นทางการตามหาผู้ที่หายไป แต่ภายใต้ชื่อใหม่ “ซิลเวอร์บิลล์” การดำเนินเรื่องยังคงนำเสนอการต่อสู้และการค้นหาความจริง แต่ในครั้งนี้แชอ๊กต้องเผชิญกับปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะการผสมผสานระหว่างความทรงจำในอดีตและความมืดของโลกในปัจจุบัน
สำหรับแทซัง การเดินทางของเขาน่าสนใจไม่แพ้กัน แม้ว่าตัวเขาในซีซั่น 2 จะเป็นตัวละครใหม่ภายใต้ชื่อ จางโฮแจ แต่ก็มีเงื่อนไขที่ทำให้คนดูสงสัยว่าตัวละครทั้งสองอาจเป็นคนเดียวกัน เนื่องจากทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันในด้านลักษณะและพฤติกรรม ซึ่งเป็นจุดที่สร้างความสนใจในการติดตามเรื่องราวว่าในท้ายที่สุดโฮแจและแทซังจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่
สิ่งที่น่าสนใจในซีซั่นนี้คือการผสมผสานระหว่างการสืบสวนคดีฆาตกรรมและความลึกลับขององค์กรวิจัย เจอนซึง ไบโอเทค ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทดลองวิทยาศาสตร์ที่ยังคงปกปิดอยู่เบื้องหลังโรงพยาบาลออนซอง เป็นการเชื่อมโยงระหว่างการเล่าเรื่องในปัจจุบันกับปมปริศนาที่เริ่มตั้งแต่ซีซั่นแรก
การเปรียบเทียบกับซีรีส์อื่น
เมื่อเราพูดถึง Gyeongseong Creature ซีซั่น 2 ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนึกถึงซีรีส์อย่าง Sweet Home ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างมากในซีซั่นแรก แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหาหลังจากการขยายเรื่องราวไปในซีซั่นถัดมา ในกรณีของ Gyeongseong Creature แม้จะยังคงมีความต่อเนื่องและความน่าสนใจ แต่การเปลี่ยนแปลงแนวทางการเล่าเรื่องในซีซั่นนี้อาจทำให้บางคนรู้สึกว่ามีความซับซ้อนและเกินจริงไปบ้าง
ซีซั่นแรกของ Gyeongseong Creature มีความโดดเด่นในเรื่องการสร้างบรรยากาศของกรุงโซลในยุคที่ถูกญี่ปุ่นครอบครอง ซึ่งช่วยสร้างความลึกซึ้งและความเชื่อมโยงระหว่างประวัติศาสตร์กับตัวละคร แต่เมื่อมาถึงซีซั่น 2 ที่ย้ายฉากมาอยู่ในกรุงโซลยุคปัจจุบัน บรรยากาศเหล่านั้นกลับหายไป ความรู้สึกของเมืองที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตและประวัติศาสตร์ถูกแทนที่ด้วยเรื่องราวของพลังพิเศษและตัวร้ายที่เกินจริง
ทิ้งท้าย
แม้ว่า Gyeongseong Creature ซีซั่น 2 จะนำเสนอเนื้อหาที่แตกต่างจากซีซั่นแรก ทั้งในเรื่องของบรรยากาศและการเล่าเรื่อง แต่ก็ยังคงเชื่อมโยงกับซีซั่นแรกได้ดีในหลายจุด สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือการเน้นไปที่การต่อสู้และการสืบสวนที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักยังคงเป็นแก่นสำคัญของเรื่องราว แต่การเปลี่ยนแปลงของฉากและเนื้อหาบางส่วนอาจทำให้เสียอรรถรสของความลึกซึ้งจากซีซั่นแรกไปบ้าง อย่างไรก็ตาม การเดินทางของตัวละครและปริศนาที่ยังคงค้างคาเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้ชมติดตามต่อไป
- ประเภท: ดราม่า, สยองขวัญ, โรแมนติก
- วันที่ออกอากาศ: 27 กันยายน 2024
- นักแสดงนำ: พัก ซอ-จุน, ฮัน โซฮี
- ผู้กำกับ: โจ ยองมิน
- จำนวนตอน/ความยาว: 7 ตอน
- เรตติ้ง IMDb: 8.5/10
- ช่องทางการดู: Netflix