รีวิวอนิเมะ

[รีวิว-เรื่องย่อ] Dr. Stone: Science Future ซีซั่นสุดท้ายกับบทพิสูจน์แห่งโลกวิทยาศาสตร์

เคยจินตนาการไหมว่าถ้าวันหนึ่งโลกทั้งใบหยุดนิ่ง ผู้คนกลายเป็นหิน และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตื่นขึ้นมาพร้อมโอกาสกู้คืนอารยธรรมมนุษย์? ซีรีส์อนิเมะเรื่อง Dr. Stone ซึ่งดัดแปลงมาจากผลงานมังงะชื่อดังของ Riichiro Inagaki และลายเส้นโดย Boichi ได้หยิบยกแนวคิดที่ฟังดูไกลตัวนั้นมาเล่าเป็นเรื่องราวผจญภัยแนววิทยาศาสตร์ ที่สะท้อนถึงความสำคัญของความรู้และพลังแห่งการค้นคว้าเพื่อฟื้นฟูโลกอีกครั้ง

ตลอดสามซีซั่นที่ผ่านมา เราได้เห็นอัจฉริยะวัยมัธยมปลายอย่าง Senku Ishigami ที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นท่ามกลางโลกยุคหิน สามารถใช้ “วิทยาศาสตร์” เป็นอาวุธหลักในการผนึกพลังเพื่อนพ้อง สร้างหมู่บ้านแห่งเทคโนโลยี “Kingdom of Science” และเอาชนะอุปสรรคมหาศาลในโลกหลังหายนะ ด้วยการผสานหลักวิชาการที่ไม่ยากเกินเข้าถึง เขาเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงได้หลายครั้งจนแทบไม่น่าเชื่อ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทุกคนเฝ้าติดตามก็คือ “บทสรุป” ของเนื้อหาทั้งหมดในซีซั่นสุดท้าย Dr. Stone: Science Future ที่จะเริ่มฉายวันที่ 9 มกราคม ปี 2025 ภายใต้การดูแลของสตูดิโอ TMS Entertainment ที่ยังคงฉายภาพการผจญภัยอันล้ำค่าของเหล่าตัวละครและทวีความตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม ด้วยเรื่องราวการออกเดินทางสู่ฐานที่มั่นสำคัญและความท้าทายครั้งใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า

Dr Stone Science Future

รีวิวและเรื่องย่อ Dr. Stone: Science Future

ในช่วงท้ายของซีซั่น 3 เราได้เห็นความสำเร็จในการสร้าง “Perseus” เรือที่เป็นเสมือนหัวใจหลักของทีม เพื่อพานักวิทยาศาสตร์หนุ่มและกองกำลังผู้สนับสนุนบทใหม่ๆ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อตามหาสิ่งที่อาจไขปริศนาให้กับการกู้โลก มันคือ “ภารกิจสู่ดวงจันทร์” เพราะมีแนวโน้มว่า “ผู้ร้ายตัวจริง” ผู้ปล่อยคลื่นแสงปริศนาจนทำให้มนุษยชาติถูกสาปเป็นหินกำลังซ่อนตัวรออยู่ที่นั่น

แต่ก่อนจะไปถึงจุดหมายปลายทางสำหรับการเดินทางนอกโลกได้ พวกเขาจำเป็นต้องหาทรัพยากรสำคัญสำหรับพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงวัตถุดิบหลักในการสร้างยาฟื้นคืน “Revival Fluid” เพิ่มเติม Senku จึงนำทีมมุ่งหน้าไปยังอเมริกา จุดเริ่มต้นของการเพาะปลูกข้าวโพดและแหล่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นเลิศที่จะใช้เป็นวัตถุดิบผลิต Revival Fluid ในปริมาณมหาศาล

Advertisement

อย่างไรก็ตาม การเดินเรือกว่า 70 วันไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจทำให้ผลผลิตที่ต้องการถูกทำลายไปตามสภาพอากาศ Senku จึงเสนอเส้นทางลัดที่ใช้เวลาเพียง 40 วัน แต่มีอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ทำให้ “Ryusui” ผู้เป็นกัปตันเรือและเรียกตัวเองว่า “Lord of the Sea” กังวลว่านี่จะเป็นการเดิมพันที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของลูกเรือ ทั้งสองจึงประลองความคิดว่า “จะเลือกเส้นทางตรง 70 วัน หรือโค้งลัด 40 วันดี?” จนสุดท้ายหนทางการตัดสินก็มาจบที่การดวลโป๊กเกอร์บนเรือ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและความแอคทีฟของทุกคน

เรื่องราวในตอนแรกของ Dr. Stone: Science Future โดดเด่นด้วยบรรยากาศสบายๆ ผสานกับความตื่นเต้นที่ค่อยๆ เพิ่มดีกรีขึ้นตามสไตล์ของซีรีส์ ความขบขันจากการดวลโป๊กเกอร์และการหาจุดสมดุลระหว่างความฝันทางวิทยาศาสตร์กับความจริงแห่งท้องทะเล ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและผ่อนคลายไปพร้อมกัน แม้บางฉากจะดูล้ำเกินกว่าจะเป็นโลกยุคหิน แต่ก็เป็นเสน่ห์ของ Dr. Stone ที่ใช้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นแรงขับเคลื่อน

การเลือกใช้เพลงเปิด “Casanova Posse” จากวง ALI และเพลงปิด “Rolling Stone” โดย Breimen ก็เป็นจุดเติมเต็มบรรยากาศให้เข้ากับธีม “ท่องไปในจักรวาลวิทยาศาสตร์” ของซีซั่นนี้อย่างลงตัว สมกับความคาดหวังของแฟนๆ ที่เชื่อว่านี่จะเป็นซีซั่นรวมไฮไลท์ของความสร้างสรรค์ที่สะสมมาตั้งแต่ซีซั่นแรก จนครบวงจรของการกู้โลกด้วยพลังสมองและมือมนุษย์

การดำเนินเรื่องใน Dr. Stone เกิดขึ้นหลังจากมนุษย์ทั่วโลกถูกแสงปริศนาทำให้กลายเป็นหินเป็นเวลากว่า 3,700 ปี กระทั่งวันหนึ่ง Senku Ishigami ตื่นฟื้นขึ้นมาในยุคหินไร้อารยธรรม เขาไม่ยอมแพ้ต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป กลับใช้ความรู้ด้านเคมี ฟิสิกส์ และชีววิทยาประดิษฐ์นั่นนี่เพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ เปิดฉากสู่การสร้างชุมชนผู้เชื่อใน “พลังวิทยาศาสตร์”

หลังการปะทะกับศัตรูที่ต้องการสร้างระบอบการปกครองใหม่ด้วยกำลัง และบทพิสูจน์ต่างๆ ในซีซั่นที่ผ่านมา Kingdom of Science ของ Senku มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อนร่วมอุดมการณ์ก็มากหน้าหลายตามากขึ้น นำไปสู่การยกระดับเทคโนโลยี ตั้งแต่เครื่องจักรไอน้ำ วิทยุ เครื่องบิน ไปจนถึงเรือ Perseus ที่เป็นหัวใจสำคัญในการออกค้นหา “Why-Man” ผู้จัดฉากหายนะครั้งใหญ่ให้มนุษย์ทุกคน

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเหล่านักวิทยาศาสตร์ถึงตั้งเป้าหมาย “เดินทางไปยังดวงจันทร์” คำตอบคือข้อมูลต่างๆ บ่งชี้ว่าต้นตอของคลื่นปริศนาที่เปลี่ยนผู้คนให้เป็นหินอาจมาจากบนนั้น หาก Senku และทีมค้นพบหรือเผชิญหน้ากับผู้ร้ายตัวจริง มนุษย์อาจได้รับคำตอบครั้งใหญ่ที่สุดว่าทำไมโลกต้องพบจุดจบแบบนี้

แต่การจะสร้างจรวดในโลกยุคหินไม่ใช่งานง่าย จำเป็นต้องใช้วัสดุและเทคโนโลยีต่างๆ เช่น แก้ว คุณภาพโลหะ เชื้อเพลิง และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ด้วยเหตุนี้ การเดินทางสู่ “อเมริกา” ในช่วงต้นของซีซั่นสุดท้ายจึงเหมือนกับการปักธงบอกว่า “นี่จะเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ และก้าวกระโดดด้านวิทยาศาสตร์มากที่สุดในซีรีส์นี้”

ฉากดวลไพ่ของสองตัวละครหลักเป็นการแสดงแนวคิดที่แตกต่าง ระหว่าง “การคำนวณทางวิทยาศาสตร์” กับ “สัญชาตญาณของกัปตันเรือ” Ryusui เน้นความปลอดภัยและใส่ใจคนในทีม ไม่ต้องการให้การเดินเรือเสี่ยงจนเกินไป ขณะที่ Senku คำนึงถึงเป้าหมายในการหาวัตถุดิบและเวลาในฤดูกาลเพาะปลูก ทั้งคู่อยากทำทุกอย่างให้สำเร็จ จึงกลายเป็นชนวนขัดแย้งที่น่ารักปนตลก

ในช่วงเช่นนี้ Dr. Stone ได้แทรก “สาระทางวิทยาศาสตร์” ผ่านการตัดสินใจอันชาญฉลาดในสถานการณ์ที่ดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่กลับเข้มข้นและสำคัญต่อแนวทางการกู้โลกอย่างไม่คาดคิด และยิ่งไปกว่านั้น เทคนิคการเอาตัวรอดต่างๆ ก็ยังมีเคล็ดลับจริงทางวิทยาศาสตร์ซ่อนอยู่ ให้ผู้ชมได้ลองจินตนาการว่า “ถ้าเราตกในสถานะเดียวกัน จะมีไอเดียอะไรไปปรับใช้ได้ในชีวิตจริงบ้าง?”

สตูดิโอ TMS Entertainment ยังคงรักษามาตรฐานการผลิตที่ประณีต ทั้งฉากแอ็กชันในทะเล การเคลื่อนไหวของตัวละคร ไปจนถึงการแสดงสีหน้าอันหลากหลายของแต่ละบุคลิก ความลื่นไหลในการสอดแทรกมุกตลกเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ซีซั่นใหม่นี้ยังคงบรรยากาศอันคุ้นเคย

เพลงเปิด “Casanova Posse” ของวง ALI ให้จังหวะที่ค่อนข้างสนุกและแนวทางร่วมสมัย สอดคล้องกับธีมการผจญภัยเข้มข้น ในขณะที่เพลงปิด “Rolling Stone” โดย Breimen ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ผู้ชมหลังเผชิญเหตุการณ์ซีเรียสได้เป็นอย่างดี ถือเป็นสีสันที่สะท้อนเอกลักษณ์ของ Dr. Stone ได้ดีเสมอ

เมื่อมาถึง Dr. Stone: Science Future เราสามารถพูดได้ว่านี่คือบทสรุปที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ซีซั่นสุดท้ายนี้จะรวบรวมความรู้สึกของคนดูที่ก้าวผ่านปริศนาและบททดสอบหลายต่อหลายครั้งไปด้วยกัน ตั้งแต่ตอน Senku ตื่นขึ้นมาในโลกยุคหินใหม่ จนถึงการปฏิวัติเทคโนโลยีแสนไกลแบบ “ตั้งแต่ศูนย์ถึงดวงจันทร์”

ด้วยจำนวน 3 คอร์แยกฉาย ซีซั่นนี้อาจกลายเป็นช่วงเวลาอันยาวนานที่เต็มไปด้วยไคลแม็กซ์ หวังว่าจะได้เห็นความร่วมมือจากตัวละครเก่าและใหม่ ก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งด้านกำลังคน ความคิดสร้างสรรค์ และทรัพยากร พร้อมเฉลยทุกปมที่ผู้ชมสงสัยมานาน

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: ดร.สโตน ซีซั่น 4
  • ประเภท: แอนิเมชัน, ผจญภัย, ไซไฟ
  • วันที่ออกอากาศ: 9 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: Yūsuke Kobayashi (Senku Ishigami), Makoto Furukawa (Taiju Oki), Kana Ichinose (Yuzuriha Ogawa), Kenji Nojima (Dr. Xeno Houston Wingfield)
  • ผู้กำกับ: Shinya Iino
  • จำนวนตอน/ความยาว: จำนวนตอนรวมยังไม่ระบุแน่ชัด
  • เรตติ้ง MyAnimeList: 8.15/10
  • ช่องทางการดู: YouTube, TrueID, iQIYI, BiliBili, Netflix, Crunchyroll

Advertisement

กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button