รีวิวอนิเมะ

[รีวิว-เรื่องย่อ] วะวะวะวะแวมไพร์กับนายเวอร์จิ้น | Babanba Banban Vampire (2025) แวมไพร์วัย 450 ปี กับภารกิจกันท่าไม่ให้เสียพรหมจรรย์

เคยจินตนาการไหมว่าถ้ามีแวมไพร์อายุ 450 ปีมาใช้ชีวิตประจำวันอยู่ใกล้ๆ คุณ แถมยังคอยป่วนไม่ให้คุณเสียพรหมจรรย์ก่อนจะอายุ 18 จะเป็นอย่างไร? ฟังแล้วชวนให้ตกใจอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับอนิเมะเรื่อง “Babanba Banban Vampire (2025)” นี่ไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการลอยๆ แต่เป็นพล็อตสดใหม่ที่พร้อมเขย่าวงการและเรียกเสียงหัวเราะไปพร้อมกับความรู้สึก “ใช่เหรอเนี่ย” ได้อย่างน่าสนใจ

จุดเริ่มต้นสำคัญคือการคิดถึงประเด็นหลักของเรื่องนี้ เมื่อแวมไพร์ตัวจริงที่อายุมากถึง 450 ปี กลับตัดสินใจมาเป็นคนในครอบครัวของเด็กหนุ่มผู้เคยมอบความช่วยเหลือให้เขาครั้งยังเยาว์ แน่นอนว่าภารกิจหลักคือการกันท่าไม่ให้เด็กหนุ่มคนนั้นเสียพรหมจรรย์ อนิเมะเรื่องนี้จึงสร้างคำถามต่อคนดูว่า ขอบเขตของความตลกและความล่อแหลมทางศีลธรรมมันอยู่ตรงไหน

ในขณะเดียวกัน “Babanba Banban Vampire” เองก็ถูกเสนอในรูปแบบคอมเมดี้กึ่ง BL ที่หลายคนสนใจและอยากเปิดใจว่ามันจะสนุกหรือ “ล้ำเส้น” ไม่ไหวกันแน่ เนื้อหาเองก็มีโทนที่หยิบใช้มุกตลกได้อย่างจริงจัง ผสมผสานกับเส้นเรื่องเบาสมองและความลับดำมืดอย่างหนึ่งของตัวเอกที่พร้อมจะแตกโปะแบบไม่ทันตั้งตัว บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจรายละเอียดทั้งหมดว่าทำไมอนิเมะเรื่องนี้ถึงน่าจับตามอง หรืออาจจะทำให้บางคนต้องส่ายหัว

วะวะวะวะแวมไพร์กับนายเวอร์จิ้น | Babanba Banban Vampire (2025)

รีวิวและเรื่องย่อ Babanba Banban Vampire (วะวะวะวะแวมไพร์กับนายเวอร์จิ้น)

Babanba Banban Vampire (2025) พูดถึง “โมริ รันมารุ” แวมไพร์ที่อายุอานามจัดว่าเกินหลักสี่ร้อย เขาทำงานในโรงอาบน้ำของครอบครัวตระกูลทัตสึโนะ โดยมีจุดประสงค์ไม่ธรรมดา นั่นคือรอให้ “ริฮิโตะ ทัตสึโนะ” ลูกชายของเจ้าของโรงอาบน้ำอายุครบ 18 ปี โดยริฮิโตะมีสถานะเป็นผู้สืบทอดธุรกิจครอบครัว และมีความบริสุทธิ์ที่รันมารุมองว่าเป็น “มื้อสมบูรณ์แบบ” สำหรับตนเอง แต่มีเงื่อนไขเดียว เขาต้องคอยกันไม่ให้ริฮิโตะเสียพรหมจรรย์ก่อนวันเกิดครบ 18 ปี

แรงจูงใจที่ทำให้รันมารุยอมอยู่เป็น “สมาชิกในครอบครัว” เดียวกับริฮิโตะมานานนับสิบปี ก็เพราะครั้งหนึ่งตอนเด็ก ริฮิโตะเคยช่วยชีวิตรันมารุไว้ในขณะที่รันมารุกำลังบาดเจ็บสาหัส รันมารุเลยติดค้างบุญคุณและในขณะเดียวกันก็เกิดความหลงใหลใน “ความใสซื่อ” ของริฮิโตะ จนกลายเป็นความปรารถนาผิดธรรมชาติไปในที่สุด

Advertisement

รันมารุไม่ได้เป็นแค่วัยรุ่นติดอยู่ในร่างแวมไพร์ หากแต่เป็นผู้ใหญ่แท้ๆ ที่มีสถานะเหมือนลุงหรือพี่ชายใหญ่ในบ้าน คอยดูแลริฮิโตะตั้งแต่ยังเล็ก สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมบางส่วนรู้สึกกระอักกระอ่วนเพราะง่ายต่อการตีความว่ารันมารุคือ “ผู้ใหญ่ที่คอยล้อมกรอบ” เด็กให้โตมาเพื่อสร้างความพึงพอใจบางอย่าง แง่มุมนี้เองมักจุดประเด็นคำถามทางศีลธรรมได้ไม่น้อย

ในขณะที่ตัวอนิเมะโปรโมตตัวเองว่าเป็น “BL Vampire Comedy” ก็จะมีหลายฉากที่จัดว่าตลกและชวนหัวเราะกับสถานการณ์ เช่น การที่รันมารุต้องคอยเป็น “มือขวาบล็อก” ไม่ให้ริฮิโตะมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับใครต่อใคร ยิ่งริฮิโตะย่างก้าวเข้าสู่วัยแตกเนื้อหนุ่ม มีโอกาสพบเจอเพื่อนสาวคนใหม่ หรือแม้กระทั่งความสนใจจากเพื่อนร่วมโรงเรียน รันมารุก็ยิ่งต้องอาศัยสารพัดวิธีพร้อมมุกตลกเพื่อกันท่าให้สำเร็จ แต่ถึงกระนั้น การทำตลกด้วยประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหวก็อาจกระทบจิตใจผู้ชมบางส่วน

จากข้อมูลเท่าที่มี การกำกับและเขียนบทของเรื่องนี้เป็นฝีมือของ คาวาซากิ อิทสึโร (Itsuro Kawasaki) ซึ่งมีผลงานสายคอมเมดี้สาย “เล่นใหญ่” มาหลายครั้ง อย่างที่เคยทำใน “Magical Girl Ore” นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไม “Babanba Banban Vampire” ถึงมีกลิ่นอายของความตลกแบบตลกหลุดโลก มีการตัดต่อฉากซ้ำ ซ้ำที่ดูประหลาด และบางช่วงก็ “เหมือนไม่เนียน” กับการเดินเรื่อง ตัวอย่างชัดเจนคือฉากแฟลชแบ็กที่ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีกจนคนดูอาจคิดว่า “ทำไมฉันเห็นอีกรอบแล้ว?” เป็นต้น

ในการออกอากาศตอนแรก สิ่งที่เห็นได้ชัดคือมีฉากแฟลชแบ็กที่ใช้อย่างซ้ำซาก อย่างฉากเด็กน้อยริฮิโตะช่วยเหลือรันมารุที่บาดเจ็บนั้นถูกนำมาเล่าถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกก็เฉลยไปแล้วว่าริฮิโตะกลับมาช่วย ทำให้ครั้งที่สองดูไม่ค่อยมีผลทางอารมณ์เท่าไร การเล่าเรื่องเชิงซ้ำนี้สะท้อนปัญหาด้านการตัดต่อและบทที่อาจยังไม่กลมกล่อม

ถึงแม้จะมีหลายจุดที่รู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามุก “กันไม่ให้คนที่เราชอบเสียพรหมจรรย์” มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับความเป็นคอมเมดี้อยู่ไม่น้อย หากนำไอเดียไปปรับให้เบาลงหรือเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครให้ “แฟนตาซี” ขึ้นกว่านี้ ก็อาจจะได้ความตลกหลุดโลกที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เท่าที่เห็นตอนนี้หลายคนมองว่าประเด็นเรื่องการ “กักเด็ก” หรือ “เล็งเด็กไว้ล่วงหน้า” คือปมใหญ่ที่อาจทำให้คนดูกังวลมากกว่าจะสนุก

เนื่องจากนี่คืออนิเมะตลก มีการดีไซน์ตัวละครที่ค่อนข้างเน้นความโอเวอร์ โดยเฉพาะฉากที่ริฮิโตะทำหน้าตกใจด้วยการอ้าปากกว้างจนแทบเหมือนตัวการ์ตูนแก๊กยุคเก่า สร้างเสียงหัวเราะได้ในบางจังหวะ แต่บางครั้งก็อาจหลุดจิกกัดเล็กๆ ได้เหมือนกัน เช่น ปากขยับล้นเกินไป ดูแล้วออกแนว “พากย์มากไปหรือเปล่า” อย่างไรก็ตาม ใครที่คุ้นเคยกับอนิเมะแนวนี้อาจชอบใจในความโอเวอร์ดังกล่าว ส่วนคนที่อยากได้งานภาพละเมียดอาจรู้สึกขัดใจ

สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือข้อถกเถียงเกี่ยวกับพล็อตที่เข้าทาง “กูรูมมิ่ง” (Grooming) เมื่อมองผ่านมุมโลกแห่งความเป็นจริง การที่ผู้ใหญ่ (หรือแวมไพร์ที่ใช้ชีวิตในสังคมแบบผู้ใหญ่) มารอคอยเด็กคนหนึ่งให้ถึงอายุที่ตนต้องการเพื่อแสวงหาความพึงพอใจ ด้วยท่าทีที่ไม่ใช่แค่เมตตาหรืออารี หากแต่แฝงไปด้วยความใคร่บางอย่าง ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจแม้จะอยู่ในแนวคอมเมดี้ก็ตาม

แน่นอนว่าเสียงจากบางกลุ่มของผู้ชมมองว่านี่เป็นเพียงมุกตลกที่ตั้งใจทำให้สุดโต่ง ขณะเดียวกัน กลุ่มที่อ่อนไหวต่อประเด็นนี้ก็อาจมองว่าการเสนอเรื่องราวในลักษณะนี้สนับสนุนอคติเดิมที่ว่า “ผู้ชายรักผู้ชายมักมีพฤติกรรมล่าเยาวชน” ซึ่งเป็นภาพจำเชิงลบที่ยังคงมีอยู่ จึงสร้างความอึดอัดใจต่อผู้ชมได้ง่าย

หากมองข้ามปมศีลธรรม สำหรับงานโปรดักชันโดยรวมของ “Babanba Banban Vampire (2025)” ก็ยังไม่ได้มีการโชว์ของหวือหวาในตอนแรกมากนัก มีความเป็น “อนิเมะตลกสั้น” ที่จับยัดมุกหลายๆ ส่วนเข้าด้วยกัน จนบางครั้งขาดความลื่นไหล เช่น การเล่าเรื่องซ้ำๆ หรือการแทรกฉากใหม่อย่างกะทันหัน เมื่อเทียบกับการกำกับในผลงานก่อนของคาวาซากิ อิทสึโร อย่าง Magical Girl Ore ผู้ชมบางส่วนก็มองว่ามีความคล้ายคลึงในเชิง “ตัดปะฉับไว และบางครั้งก็ทำให้สับสน”

ตอนท้ายของตอนแรกมีการโชว์ให้เห็นว่าริฮิโตะรู้สึกสนใจสาวคนหนึ่งในโรงเรียน และตัวสาวคนนั้นกลับช็อกไม่น้อยเมื่อรันมารุเข้าใจ (ผิด) ว่าเธอกับริฮิโตะตกหลุมรักกันเพียงแค่คุย 5 นาที จุดนี้ถือเป็นมุกตลกที่เรียกเสียงหัวเราะได้จริงๆ เพราะฝ่ายสาวเองยังไม่ทันคิดอะไรด้วยซ้ำ ในขณะที่รันมารุกลับออกอาการ “หวงเด็ก” อย่างโจ่งแจ้ง สำหรับสายตาคนดูที่ชอบแนวรักอลเวง การตามดูเส้นเรื่องของตัวละครรอง เช่น เพื่อนร่วมชั้นหรือฟากสาวแก่นเซี้ยวที่ดูจะมีใจให้ริฮิโตะ อาจทำให้มีสีสันอยู่บ้าง

เมื่อดูจากโครงเรื่องหลัก มีความเป็นคอมเมดี้แบบแปลกใหม่ แต่ก็สอดแทรกอารมณ์ “ไม่โอเค” อยู่หลายจุด จนผู้ชมบางส่วนรู้สึกไม่สบายใจ (เช่น ประเด็นการเล็งเด็กไว้ล่วงหน้าเพื่อดื่มเลือด) ในขณะเดียวกันก็มีอีกกลุ่มที่มองว่านี่คืออนิเมะที่ “ไม่ต้องจริงจัง” แต่ถ้าหากจะติดตาม ก็ควรรู้ลิมิตว่ารับมือกับความตลกที่เล่นกับประเด็นเปราะบางได้แค่ไหน ใครที่อยากลองอะไรใหม่ๆ ในแนว BL vampire comedy และเปิดใจกับความแปลก บางที “Babanba Banban Vampire (2025)” อาจมีช่วงเวลาสนุกให้ แต่หากคุณกังวลเรื่องการนำเสนอที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก บางทีอาจต้องลองชั่งน้ำหนักก่อน

  • ชื่อเรื่องในภาษาไทย: วะวะวะวะ แวมไพร์กับนายเวอร์จิ้น
  • ประเภท: คอมเมดี้, เหนือธรรมชาติ, Boys’ Love
  • วันที่ออกอากาศ: 11 มกราคม 2025
  • นักแสดงนำ: Daisuke Namikawa (Ranmaru Mori), Yusuke Kobayashi (Rihito Tatsuno)
  • ผู้กำกับ: Itsuro Kawasaki
  • จำนวนตอน/ความยาว: ยังไม่ระบุ
  • เรตติ้ง IMDb: 7.9/10
  • ช่องทางการดู: Netflix

Advertisement

กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button