รีวิวอนิเมะ

[รีวิว-เรื่องย่ออนิเมะ] I’ll Become a Villainess Who Goes Down in History

Rekishi ni Nokoru Akujo ni Naru zo

วันนี้เราจะมาวิจารณ์อนิเมะเรื่อง I’ll Become a Villainess Who Goes Down in History ซีรีส์นี้เป็นหนึ่งในผลงานล่าสุดในแนว “อิเซไก” ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนี้ โดยเนื้อเรื่องเริ่มต้นจากนิยายไลท์โนเวลญี่ปุ่น เขียนโดย อิซุมิ โอกิโดะ และภาพประกอบโดย จุน ฮายาเสะ อนิเมะนี้ถูกสร้างเป็นมังงะในปี 2020 และถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอ Maho Film กำกับโดย ยูจิ ยานาเสะ นอกจากนั้นยังมีดนตรีประกอบที่ทำโดย โมเอะ ฮยูงะ ซึ่งสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจและเข้ากับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวโรแมนติกคอมเมดี้และอนิเมะอิเซไก การได้เห็นตัวเอกที่ถูกย้ายมาจากโลกเดิมสู่โลกใหม่เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องราวเกี่ยวข้องกับตัวละครที่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ซีรีส์นี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เล่นกับความคิดของผู้ชมที่ต้องการเห็นตัวร้ายที่ชาญฉลาดยืนหยัดท่ามกลางความท้าทาย

อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าอนิเมะเรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกับเรื่องอื่น ๆ ในแนวเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของโครงเรื่องที่ค่อนข้างสูตรสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักที่ถูกสร้างมาเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ หรือความรักระหว่างตัวเอกและตัวละครอื่น ๆ ที่อาจจะดูไม่ค่อยแตกต่างจากเรื่องที่ผ่าน ๆ มา

I'll Become a Villainess Who Goes Down in History

รีวิวและเรื่องย่ออนิเมะ I’ll Become a Villainess Who Goes Down in History

อนิเมะเรื่อง I’ll Become a Villainess Who Goes Down in History เริ่มต้นจากตัวเอกที่ชื่นชอบตัวร้ายในเกมโอโตเมะที่เธอเล่นอยู่เสมอ โดยเธอชื่นชอบตัวร้ายชื่อ “อลิเซีย” มากกว่าตัวละครหญิงหลักที่เรียบร้อยและพยายามเอาใจทุกคน ซึ่งในที่สุด ตัวเอกของเราก็ถูกส่งไปเกิดใหม่เป็น “อลิเซีย” ตัวร้ายในโลกของเกมนั้น สิ่งนี้ทำให้เธอตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือโอกาสที่จะได้เป็นตัวละครที่เธอเคยชื่นชม

Advertisement

อลิเซียในอนิเมะนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กที่เคยขี้เกียจและไม่สนใจอะไรมากมาย ให้กลายเป็นหญิงสาวที่ตั้งใจเรียนรู้และฝึกฝนตนเองเพื่อรับมือกับทุกอย่างในอนาคต แม้ว่าจะยังเด็กแค่ 8 ขวบ เธอก็สามารถเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ และสร้างความประทับใจให้กับตัวละครหลักและตัวประกอบได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตรงนี้ถือเป็นลักษณะเฉพาะของอนิเมะแนวนี้ที่ผู้ชมสามารถคาดการณ์ได้ว่าอลิเซียจะประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง

แม้ว่าตัวละครชายในเรื่องจะไม่ได้มีเอกลักษณ์มากมาย แต่ก็ยังทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่น่ารักระหว่างอลิเซียกับเหล่าตัวละครชายได้ อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องกลับเน้นไปที่การที่อลิเซียจะต้องรับมือกับ “ลิซ” ตัวละครหญิงหลักในเกม ซึ่งในเวอร์ชันนี้ ลิซอาจจะกลายเป็นตัวร้ายของเรื่อง แทนที่จะเป็นอลิเซีย ซึ่งเป็นการบิดโครงเรื่องที่ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจขึ้นเล็กน้อย

หนึ่งในสิ่งที่ผู้ชมอาจพบว่าน่าเสียดายคือการพัฒนาตัวละครในเรื่องนี้ที่ไม่ค่อยมีความซับซ้อนมากนัก ตัวละครแต่ละตัวถูกวางบทบาทมาให้ดูเหมือนจะชนะทุกความท้าทายโดยง่าย ซึ่งเป็นลักษณะที่มักพบในอนิเมะแนวอิเซไก ตัวละครอลิเซียถูกสร้างมาให้รับมือกับทุกสถานการณ์และชนะทุกความท้าทายโดยไม่มีความยากลำบากมากนัก ทำให้ผู้ชมบางคนอาจรู้สึกว่าขาดความท้าทายและความตื่นเต้นในเรื่องราว

อีกจุดหนึ่งที่ควรพูดถึงคือเรื่องของ “ฮีโร่” ในเรื่อง แม้ว่าจะมีตัวละครชายหลักที่ถูกดึงดูดโดยอลิเซียตั้งแต่พบกันครั้งแรก แต่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากลับเป็นไปในทิศทางที่คาดการณ์ได้ง่าย ซึ่งทำให้เรื่องราวขาดความน่าสนใจไปบ้าง นอกจากนี้ การมีตัวละครหญิงหลักอย่างลิซที่อาจจะกลายเป็นตัวร้ายของเรื่อง ก็ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่หรือซับซ้อนให้กับเนื้อเรื่องมากนัก

สำหรับการผลิตและแอนิเมชันในเรื่องนี้ ถ้าให้พูดกันตรง ๆ ก็ค่อนข้างอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ แม้ว่าการออกแบบตัวละครจะทำได้ดี และสีสันในฉากต่าง ๆ จะสวยงาม แต่การเคลื่อนไหวและรายละเอียดในบางฉากกลับไม่ค่อยมีความประณีตเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม เราควรเปิดใจรับชมมากกว่าตัดสินจากแค่ไม่กี่ตอนแรกเท่านั้น เพราะอาจจะมีการพัฒนาในตอนต่อ ๆ ไป

เพลงประกอบในเรื่องถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่สร้างบรรยากาศที่เข้ากับเรื่องราวได้ดี โดยมีเพลงเปิดเรื่องที่ชื่อ “Baddududu” ร้องโดย Liyuu และเพลงปิดที่ชื่อ “Wacchu Ane?” ร้องโดย ริน คุรุสุ ทั้งสองเพลงสามารถเพิ่มอรรถรสให้กับเนื้อเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับตัวละครและบรรยากาศในโลกของอลิเซีย

ในฐานะที่เป็นผู้ชมที่เคยดูอนิเมะแนวอิเซไกมาหลายเรื่อง ต้องยอมรับว่า I’ll Become a Villainess Who Goes Down in History อาจจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่หรือแหวกแนวมากนัก เนื้อเรื่องค่อนข้างเดินตามสูตรสำเร็จของแนวอิเซไก แต่หากคุณเป็นผู้ที่เพิ่งเข้ามาสนใจในอนิเมะแนวนี้ หรือยังไม่เคยดูอนิเมะแนวตัวร้ายมาก่อน เรื่องนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้คุณได้รู้จักกับโลกของอนิเมะแนวนี้

ถึงแม้ตอนแรก ๆ ของเรื่องจะยังไม่ได้น่าประทับใจมากนัก แต่การพัฒนาของตัวละครและเนื้อเรื่องในตอนต่อ ๆ ไปอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงและทำให้เราสนุกมากขึ้น ดังนั้น ถ้าคุณชื่นชอบแนวโรแมนติก คอมเมดี้ และตัวร้ายที่น่ารักและฉลาด เรื่องนี้ก็ควรค่าแก่การให้โอกาส

ทิ้งท้าย

ในภาพรวม I’ll Become a Villainess Who Goes Down in History เป็นอนิเมะที่มีความสนุกและน่าสนใจในแบบของมันเอง แม้ว่าจะไม่ได้แปลกใหม่มากนักสำหรับผู้ที่เคยดูแนวอิเซไกมาก่อน แต่ก็ยังมีจุดที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวของตัวร้ายที่ฉลาดและมุ่งมั่น หากคุณต้องการพักผ่อนจากเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและสนุกกับความบันเทิงที่ไม่ต้องคิดมาก นี่คือเรื่องที่คุณควรลองดู

  • ประเภท: แฟนตาซี, โรแมนติก, คอมเมดี้
  • วันที่ออกอากาศ: 1 ตุลาคม 2024
  • นักแสดงนำ: Kanna Nakamura, Kaito Ishikawa
  • ผู้กำกับ: MAHO FILM
  • จำนวนตอน/ความยาว: 13 ตอน
  • ช่องทางการดู: Crunchyroll

Advertisement

กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
Advertisement

PhiRa W.

เป็นนักเขียนอิสระที่หลงใหลในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ และสารคดี ผมชอบที่จะวิเคราะห์และถอดรหัสเนื้อหาเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรีวิวที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ให้กับผู้อ่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button