การสร้างเป็นอนิเมะของ NieR: Automata ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่แย่มาก แต่ก็ต้องยอมรับว่า A-1 Pictures ได้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถนำเสนอตอนแรกของ NieR: Automata Ver1.1a ที่ทั้งสร้างความน่าสนใจและมีความเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล Nier ที่ผสมผสานระหว่างการต่อสู้ของหุ่นยนต์และการสนทนาเกี่ยวกับความรู้สึกของสรรพสิ่ง
เหมือนกับเกม NieR: Automata Ver1.1a ก็ตั้งอยู่ในอนาคตอันไกล ในช่วงสงครามระหว่างกองทัพ “Machine Lifeforms” ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเผ่าพันธุ์ต่างดาวลึกลับ และหุ่นยนต์ทหารเช่น 2B และ 9S ที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของมนุษยชาติ ในตอนที่ 12 ของอนิเมะ ได้นำเสนอzwist ที่ดีที่สุดของเกม คือ เผ่าพันธุ์ต่างดาวถูกทำลายโดยกองทัพหุ่นยนต์ของตัวเองมานานแล้ว และมนุษยชาติก็สูญสิ้นไปแล้วเช่นกัน
แต่ “Ver1.1a” ในชื่อเรื่องนั้นมีไว้เพื่อบ่งชี้ว่านี่ไม่ใช่การเล่าเรื่องแบบเดียวกับ Automata และมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่อาจจะนำไปสู่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่า ส่วนที่ 2 ของซีซั่น 1 ก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะมีความสำคัญมาก และมีความตื่นเต้นในการนำเสนอหลังจากที่ได้ทีเด็ยในตอน “Reckless Bra[V]ery”
แต่ในตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าการที่ตัวละครที่มีชีวิตอยู่ในเกมตายไปในซีรีส์นี้ หรือว่าประวัติส่วนตัวที่เคยถูกกล่าวถึงเพียงเล็กน้อยหรือในเนื้อหาเสริม (ซึ่งมีมากมายสำหรับ NieR: Automata) ถูกทำให้เป็นแคนอน นั่นหมายความว่ามีความหมายอะไรหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงวิธีที่ Ver1.1a จะแยกตัวออกจาก Automata ก็เป็นได้ แม้ว่าจะเป็นแบบหลังนั้น ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดแฟนๆ ของ Nier เพราะถ้าคุณอ่าน A Game of Thrones แล้วเห็นว่าในซีรีส์ HBO ไม่ได้ฆ่า Ned Stark คุณก็คงอยากติดตามดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าเขาจะถูกตัดหัวช้ากว่าที่คุณคาดไว้ก็ตาม
ตอนแรกๆ ก็ได้ทำสิ่งคล้ายกัน แต่ไม่ได้ดราม่ามากนัก โดยการเปิดเผยว่าการต่อต้านของหุ่นยนต์บนโลกนั้นนำโดย Lily ซึ่งเป็นตัวละครเล็กๆ ในแคนอน แทนที่จะเป็น Anemone ตัวละครที่คุ้นเคย (ซึ่งตามที่เห็นในตอน “[L]one Wolf” ได้ตายในการต่อสู้ครั้งก่อนหน้านี้) การเปลี่ยนแปลงนี้ดูจะเป็นเรื่องพอสมควร แต่ “Reckless Bra[V]ery” ก็ได้ไปไกลกว่านั้น โดยการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า 2B ได้ฆ่า 9S เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่ามนุษยชาติสูญสิ้นไปแล้ว ซึ่งในเกมนั้นก็มีการกล่าวถึง แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างตรงๆ เช่นนี้ การทำแบบนี้ทำให้ดูเหมือนเป็นการทรยศที่น่าตกใจมากขึ้น เพราะเราไม่ค่อยจะยอมรับเหตุผลของมันเท่าไหร่ เนื่องจากเราไม่ได้ควบคุม 2B เราเพียงแค่รู้จักเธอในฐานะทหารหุ่นยนต์ที่เย็นชาและปิดกั้นตัวเองต่อ 9S เท่านั้น
นอกเหนือจากเรื่องราว Ver1.1a ก็ยังคงดูสวยงามเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่เพราะว่าการออกแบบตัวละครนั้นยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ปี 2017 และยังคงดีอยู่ แต่เกมก็มีความอ่อนโยนและอ่อนหวานที่ให้บรรยากาศหลังสงครามที่มีชีวิตชีวา ซึ่งสิ่งนี้ขาดหายไปในอนิเมะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต และเป็นปัญหาที่ยากที่จะแก้ไขในการเปลี่ยนจากสิ่งที่เล่นได้เป็นสิ่งที่เพียงแค่ดู แต่ก็ทำให้โลกของ Ver1.1a รู้สึกเหมือนเป็นฉากมากกว่าสถานที่จริง ซึ่งก็น่าขบขันพอสมควร เพราะในเกมโลกก็ไม่ค่อยมีชีวิตชีวาอยู่แล้ว เพราะการทำลายล้างของมนุษยชาติ
ยังมีศักยภาพมากมายใน NieR: Automata Ver1.1a และอาจจะยังคงมีจนถึงตอนจบของตอนสุดท้าย (เมื่อไหร่ก็ตาม) เกมนี้มีเอนดิ้งมากมายที่ต้องเล่นซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้เอนดิ้งหลักๆ แม้ว่า “คุณต้องเล่นมันหกครั้ง!” จะเป็นเพียงการอวดอ้างของนักเล่นเกมเท่านั้น เพราะเกมจะแตกต่างกันในทุกครั้งที่เล่น ดังนั้นจึงมีโอกาสที่อนิเมะจะทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์และใหม่ในช่วงใดช่วงหนึ่ง เช่น การฆ่าตัวละครหลักคนใดคนหนึ่งอย่างถาวร หรือการนำเสนอมุมมองของ 9S จนทำให้ A2 ตัวละครที่สามที่ถูกเปิดเผยหลายครั้งในอนิเมะ ดูเหมือนจะเป็นตัวร้ายโดยตรง และถ้า Ver1.1a ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น นั่นก็อาจจะเป็นการสร้างความคาดหวังใหม่ในอีกรูปแบบหนึ่งก็เป็นได้
สรุป
การสร้างอนิเมะ NieR: Automata ที่สนุกสนานเหมือนกับการเล่น NieR: Automata นั้นเป็นความท้าทายอย่างมาก แต่ผ่านมาถึงต้นซีซั่น 2 Ver1.1a ก็ได้จัดการกับมันได้อย่างชาญฉลาด โดยการเล่าเรื่องราวของต้นฉบับอย่างซื่อสัตย์ในขณะที่ยังคงทำให้แฟนๆ เก่าตื่นเต้นด้วยการสลับตัวละครสนับสนุนและไม่หลีกเลี่ยงรายละเอียดที่มืดมนของเรื่องราวใน Automata นี่อาจจะไม่ใช่ตัวแทนของ Automata แต่ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาเล่นเพื่อให้ได้ 26 เอนดิ้ง หรือถ้าคุณเสียไฟล์เซฟเพื่อสนับสนุนผู้เล่นในอนาคต (ตามที่ Automata ขอร้อง) ก็ถือว่าเป็นตัวแทนที่น่าสนใจ
- ประเภท: แอ็กชัน, ไซไฟ, ดราม่า
- วันที่ออกฉาย: 7 มกราคม 2023
- นักพากย์หลัก: Yui Ishikawa (2B), Natsuki Hanae (9S), Hiroki Yasumoto (Pod 042), Kaoru Akiyama (Pod 153)
- ผู้กำกับ: Ryouji Masuyama
- จำนวนตอน: 12
- คะแนน MyAnimeList: 7.51/10
- ช่องทางรับชม: Bilibili, Prime Video (ซับ/พากย์), Netflix