ในยุคดิจิทัลแบบนี้ แอปหาเพื่อนคุยกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เพราะเป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วในการหาคนคุย คลายเหงา หรือแม้กระทั่งหาคู่รักสำหรับบางคน แต่อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้แอปหาเพื่อนคุยว่าจะเลือกแอปไหนดี เพราะมีแอปให้เลือกมากมายหลายแอป ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 10 แอปหาเพื่อนคุยดีที่สุดในไทย 2023 พร้อมฟีเจอร์เด่นและจุดด้อยของแต่ละแอป เพื่อให้คุณเลือกแอปที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
แนะนำ 10 แอปหาเพื่อนคุยดีที่สุดในไทย
1. Tinder
Tinder เป็นแอปหาคู่ยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโลก ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 50 ล้านคน และในประเทศไทยก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน Tinder มีวิธีการใช้งานที่ง่ายมาก นั่นคือเพียงแค่ปัดซ้ายขวาเพื่อเลือกคนที่ถูกใจ ถ้าทั้งสองคนปัดขวาให้กัน ก็จะสามารถเริ่มต้นบทสนทนาได้ทันที ฟีเจอร์เด่นของ Tinder คือการที่ผู้ใช้งานสามารถระบุตำแหน่งของตัวเองได้ ทำให้สามารถหาคนที่อยู่ใกล้เคียงกันคุยได้ง่ายๆ
ฟีเจอร์เด่นของ Tinder
Tinder: ฟีเจอร์เด่นของ Tinder คือการที่ผู้ใช้งานสามารถระบุตำแหน่งของตัวเองได้ ทำให้สามารถหาคนที่อยู่ใกล้เคียงกันคุยได้ง่ายๆ
ข้อดีข้อเสียของ Tinder
- ข้อดี: ใช้งานง่าย มีผู้ใช้งานจำนวนมาก
- ข้อเสีย: ผู้ใช้งานบางคนอาจจะไม่จริงจังในการหาคู่
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
2. Omi
Omi เป็นแอปหาเพื่อนคุยสัญชาติไทยที่มีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคน Omi มีวิธีการใช้งานที่คล้ายกับ Tinder แต่มีฟีเจอร์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ระบบคัดกรองผู้ใช้งานที่เข้มงวด ฟีเจอร์แปลภาษาอัตโนมัติ และฟีเจอร์ค้นหาผู้ใช้งานตามความสนใจ ฟีเจอร์เด่นของ Omi คือระบบคัดกรองผู้ใช้งานที่เข้มงวด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้คุยกับคนที่จริงใจและปลอดภัย
ฟีเจอร์เด่นของ Omi
Omi: ฟีเจอร์เด่นของ Omi คือระบบคัดกรองผู้ใช้งานที่เข้มงวด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้คุยกับคนที่จริงใจและปลอดภัย
ข้อดีข้อเสียของ Omi
- ข้อดี: ระบบคัดกรองผู้ใช้งานที่เข้มงวด ฟีเจอร์แปลภาษาอัตโนมัติ
- ข้อเสีย: อาจจะต้องจ่ายค่าสมาชิกเพื่อใช้ฟีเจอร์บางอย่าง
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
3. Kooup
Kooup เป็นแอปหาคู่ที่เน้นหาคู่จริงจัง Kooup มีระบบคัดกรองผู้ใช้งานที่เข้มงวด และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาคู่ที่ตรงตามสเปกได้ง่ายๆ เช่น ฟีเจอร์ค้นหาตามเกณฑ์อายุ หน้าที่การงาน และสถานะภาพสมรส ฟีเจอร์เด่นของ Kooup คือระบบคัดกรองผู้ใช้งานที่เข้มงวด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้คุยกับคนที่จริงใจและปลอดภัย
ฟีเจอร์เด่นของ Kooup
Kooup: ฟีเจอร์เด่นของ Kooup คือระบบคัดกรองผู้ใช้งานที่เข้มงวด และฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาคู่ที่ตรงตามสเปกได้ง่ายๆ เช่น ฟีเจอร์ค้นหาตามเกณฑ์อายุ หน้าที่การงาน และสถานะภาพสมรส
ข้อดีข้อเสียของ Kooup
- ข้อดี: ระบบคัดกรองผู้ใช้งานที่เข้มงวด ฟีเจอร์ค้นหาคู่ที่ตรงตามสเปกได้ง่าย
- ข้อเสีย: อาจจะต้องจ่ายค่าสมาชิกเพื่อใช้ฟีเจอร์บางอย่าง
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
4. Coffee Meets Bagel
Coffee Meets Bagel เป็นแอปหาเพื่อนคุยที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ Coffee Meets Bagel จะส่งโปรไฟล์ของผู้ชายมาให้ผู้หญิงวันละ 21 โปรไฟล์ ผู้ใช้มีเวลา 24 ชั่วโมงในการตัดสินใจว่าจะปัดซ้ายขวาหรือส่งข้อความหากัน ฟีเจอร์เด่นของ Coffee Meets Bagel คือการที่แอปจะส่งโปรไฟล์มาให้ผู้ใช้งานเพียงวันละไม่กี่โปรไฟล์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีเวลาในการพิจารณาและเลือกคนที่ถูกใจได้อย่างถี่ถ้วน
ฟีเจอร์เด่นของ Coffee Meets Bagel
Coffee Meets Bagel: ฟีเจอร์เด่นของ Coffee Meets Bagel คือการที่แอปจะส่งโปรไฟล์มาให้ผู้ใช้งานเพียงวันละไม่กี่โปรไฟล์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีเวลาในการพิจารณาและเลือกคนที่ถูกใจได้อย่างถี่ถ้วน
ข้อดีข้อเสียของ Coffee Meets Bagel
- ข้อดี: เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ผู้ใช้งานค่อนข้างจริงจังในการหาคู่
- ข้อเสีย: มีผู้ใช้งานจำนวนน้อยกว่าแอปอื่นๆ
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
5. Facebook Dating
Facebook Dating เป็นบริการหาคู่ของ Facebook ที่มีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก Facebook Dating ใช้ข้อมูลจากโปรไฟล์ Facebook ของผู้ใช้งานในการค้นหาคู่ที่เหมาะสม ฟีเจอร์เด่นของ Facebook Dating คือการที่ผู้ใช้งานสามารถระบุความสนใจของตัวเองได้ ทำให้แอปสามารถค้นหาคู่ที่ตรงตามสเปกได้ง่ายๆ
ฟีเจอร์เด่นของ Facebook Dating
Facebook Dating: ฟีเจอร์เด่นของ Facebook Dating คือการที่ผู้ใช้งานสามารถระบุความสนใจของตัวเองได้ ทำให้แอปสามารถค้นหาคู่ที่ตรงตามสเปกได้ง่ายๆ
ข้อดีข้อเสียของ Facebook Dating
- ข้อดี: ใช้ข้อมูลจากโปรไฟล์ Facebook ของผู้ใช้งานในการค้นหาคู่ที่เหมาะสม
- ข้อเสีย: อาจจะต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว
6. Bumble
Bumble เป็นแอปหาคนคุยที่ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาเป็นคนแรก Bumble มีฟีเจอร์ที่คล้ายกับ Tinder แต่มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนกว่า นั่นคือการหาคู่จริงจัง ฟีเจอร์เด่นของ Bumble คือการที่ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาเป็นคนแรก ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสในการเลือกคุยกับคนที่สนใจจริงๆ
ฟีเจอร์เด่นของ Bumble
Bumble: ฟีเจอร์เด่นของ Bumble คือการที่ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาเป็นคนแรก ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสในการเลือกคุยกับคนที่สนใจจริงๆ
ข้อดีข้อเสียของ Bumble
- ข้อดี: ผู้หญิงมีโอกาสในการเลือกคุยกับคนที่สนใจจริงๆ
- ข้อเสีย: ผู้ชายอาจจะต้องรอให้ผู้หญิงเริ่มบทสนทนาก่อน
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
7. LitMatch
LitMatch เป็นแอปหาเพื่อนที่ใช้ระบบสุ่มคู่คุย LitMatch จะสุ่มคู่คุยให้ผู้ใช้งานทุก 180 วินาที ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะคุยต่อหรือเปลี่ยนคู่คุยได้ ฟีเจอร์เด่นของ LitMatch คือความรวดเร็วในการหาคู่คุย ผู้ใช้งานสามารถหาคู่คุยคุยได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างโปรไฟล์หรือปัดซ้ายขวา
ฟีเจอร์เด่นของ LitMatch
LitMatch: ฟีเจอร์เด่นของ LitMatch คือความรวดเร็วในการหาคู่คุย ผู้ใช้งานสามารถหาคู่คุยคุยได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างโปรไฟล์หรือปัดซ้ายขวา
ข้อดีข้อเสียของ LitMatch
- ข้อดี: หาคู่คุยได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างโปรไฟล์หรือปัดซ้ายขวา
- ข้อเสีย: อาจจะยากในการทำความรู้จักกับคู่คุยอย่างแท้จริง
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
8. Yami Live
Yami Live เป็นแอปพลิเคชันไลฟ์สดและหาเพื่อน Yami Live มีผู้ใช้งานมากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก Yami Live มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น ฟีเจอร์ไลฟ์สด ฟีเจอร์แชทส่วนตัว และฟีเจอร์ค้นหาเพื่อนใหม่ ฟีเจอร์เด่นของ Yami Live คือฟีเจอร์ไลฟ์สดที่ผู้ใช้งานสามารถชมและพูดคุยกับไลฟ์สดได้แบบเรียลไทม์
ฟีเจอร์เด่นของ Yami Live
Yami Live: ฟีเจอร์เด่นของ Yami Live คือฟีเจอร์ไลฟ์สดที่ผู้ใช้งานสามารถชมและพูดคุยกับไลฟ์สดได้แบบเรียลไทม์
ข้อดีข้อเสียของ Yami Live
- ข้อดี: ฟีเจอร์ไลฟ์สดที่ผู้ใช้งานสามารถชมและพูดคุยกับไลฟ์สดได้แบบเรียลไทม์
- ข้อเสีย: อาจจะต้องเสียเงินซื้อของขวัญให้ไลฟ์สด
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
9. Happn
Happn เป็นแอปหาเพื่อนที่ใช้ระบบระบุตำแหน่ง Happn จะแสดงโปรไฟล์ของผู้ใช้งานที่เคยเดินผ่านกันมาให้เห็น ฟีเจอร์เด่นของ Happn คือการที่ผู้ใช้งานสามารถหาคนที่เคยเดินผ่านกันมาคุยได้ง่ายๆ
ฟีเจอร์เด่นของ Happn
Happn: ฟีเจอร์เด่นของ Happn คือการที่ผู้ใช้งานสามารถหาคนที่เคยเดินผ่านกันมาคุยได้ง่ายๆ
ข้อดีข้อเสียของ Happn
- ข้อดี: หาคนที่เคยเดินผ่านกันมาคุยได้ง่ายๆ
- ข้อเสีย: ผู้ใช้งานอาจจะไม่สนใจที่จะคุยกับคนที่ส่งข้อความมา
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
10. Grindr
Grindr เป็นแอปหาหรมสำหรับกลุ่มเกย์ ไบ และทราเวสไทต์ Grindr มีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก Grindr มีวิธีการใช้งานที่ง่ายมาก นั่นคือเพียงแค่ปัดซ้ายขวาเพื่อเลือกคนที่ถูกใจ ถ้าทั้งสองคนปัดขวาให้กัน ก็จะสามารถเริ่มต้นบทสนทนาได้ทันที ฟีเจอร์เด่นของ Grindr คือการที่ผู้ใช้งานสามารถระบุตำแหน่งของตัวเองได้ ทำให้สามารถหาคนที่อยู่ใกล้เคียงกันคุยได้ง่ายๆ
ฟีเจอร์เด่นของ Grindr
Grindr: ฟีเจอร์เด่นของ Grindr คือการที่ผู้ใช้งานสามารถระบุตำแหน่งของตัวเองได้ ทำให้สามารถหาคนที่อยู่ใกล้เคียงกันคุยได้ง่ายๆ
ข้อดีข้อเสียของ Grindr
- ข้อดี: ใช้งานง่าย มีผู้ใช้งานจำนวนมาก
- ข้อเสีย: ผู้ใช้งานบางคนอาจจะไม่จริงจังในการหาคู่
ดาวน์โหลดแอปได้ที่
วิธีเลือกแอปหาเพื่อนคุยให้เหมาะกับตัวเอง
เมื่อเลือกแอปหาเพื่อน ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
- วัตถุประสงค์ในการใช้แอป: หากต้องการหาเพื่อนคุยเฉยๆ ควรเลือกแอปที่เน้นการหาเพื่อน เช่น Tinder, LitMatch, Yami Live หากต้องการหาคู่จริงจัง ควรเลือกแอปที่เน้นการหาคู่ เช่น Kooup, Coffee Meets Bagel, Bumble
- ฟีเจอร์ของแอป: ควรพิจารณาว่าแอปมีฟีเจอร์อะไรบ้างที่เราต้องการ เช่น ฟีเจอร์แปลภาษาอัตโนมัติ ฟีเจอร์ค้นหาคู่ที่ตรงตามสเปก ฟีเจอร์ไลฟ์สด
- ความนิยมของแอป: ควรเลือกแอปที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เพื่อให้มีโอกาสในการหาเพื่อนหรือคู่มากขึ้น
- ค่าใช้จ่าย: ควรพิจารณาว่าแอปนั้นๆ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่าสมาชิก ค่าซื้อของขวัญให้ไลฟ์สด
- ความเป็นส่วนตัว: ควรเลือกแอปที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
สรุป
แอปหาเพื่อนคุยเป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วในการหาคนคุย คลายเหงา หรือแม้กระทั่งหาคู่รักสำหรับบางคน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกแอปหาเพื่อนให้เหมาะกับตัวเอง และใช้แอปอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ปลอดภัยและได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
- เมคเฟรน (Make Friends) คืออะไร? ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย
- วิธีให้กำลังใจเพื่อนหรือผู้อื่น จะให้กำลังใจยังไงดี ?