มีข่าวดีมาแชร์เกี่ยวกับวงการเทคโนโลยีและชิปเซมิคอนดักเตอร์กัน วันนี้จะพูดถึงการลงทุนใหญ่ของ TSMC ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่า 6.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อขยายโรงงานในฟีนิกซ์ รัฐอริโซนา พร้อมกับการพัฒนาชิปขนาด 2 นาโนเมตรที่จะเปิดตัวในปี 2028 นี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ประกาศการสนับสนุน TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำจากไต้หวัน ด้วยเงินสนับสนุนจำนวน 6.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใต้โครงการ US Chips and Science Act ที่มีงบประมาณทั้งหมด 52.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการผลิตชิปภายในประเทศสหรัฐฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
TSMC ได้เพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ จากเดิม 40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 65 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการสร้างโรงงานที่สามในอริโซนา โดยคาดว่าโรงงานนี้จะเสร็จสิ้นภายในปี 2030
ภายในปี 2028 โรงงานที่สองของ TSMC ในอริโซนาจะเริ่มผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในชิปที่มีความก้าวหน้าที่สุดในโลก นอกจากนี้ TSMC ยังได้มุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีการผลิตชิปรุ่นใหม่ล่าสุด “A16” ที่มีประสิทธิภาพสูงในการผลิตที่นี่
ชิปเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน เนื่องจากเป็น “สมอง” ของอุปกรณ์ที่ช่วยให้สมาร์ทโฟนสามารถรันแอปพลิเคชัน เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งขนาดนาโนเมตรต่ำเท่าไหร่ ชิปก็ยิ่งมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้นเท่านั้น
รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ Gina Raimondo ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของข้อตกลงนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าหลายคนจะสงสัยว่า TSMC จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสู่สหรัฐฯ หรือไม่ แต่การที่ TSMC ยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้กระบวนการผลิตชิปที่ล้ำสมัยที่สุดในอริโซนานั้น ถือเป็นชัยชนะใหญ่สำหรับศักยภาพทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ แพ็กเกจสนับสนุนยังรวมถึงเงินกู้รัฐบาลที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ TSMC จะได้รับเงินจ่ายเมื่อบรรลุเป้าหมายโครงการสำคัญ โดยคาดว่าจะมีการจ่ายเงินอย่างน้อย 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในสิ้นปีนี้ ในข้อตกลงนี้ TSMC ยังได้ตกลงที่จะไม่ทำการซื้อหุ้นคืนในช่วงห้าปีข้างหน้า ยกเว้นในกรณีพิเศษ และยังมีการแบ่งปันกำไรส่วนเกินจากโครงการกับรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านกลไกการแบ่งปันกำไร
การสนับสนุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเร่งการพัฒนาการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงในสหรัฐฯ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์จากต่างประเทศ และเสริมสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีภายในประเทศ ด้วยการลงทุนใน TSMC และบริษัทอื่นๆ เช่น Samsung, Intel, และ Micron Technology สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตชิปโลก
