Apple ได้เปิดตัว iOS 18.1 และ macOS 15.1 พร้อมกับฟีเจอร์แรกของ Apple Intelligence ที่มาพร้อมเครื่องมือใหม่ ๆ ในการช่วยเขียนและแก้ไขข้อความ แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์เหล่านี้ยังรองรับแค่ภาษาอังกฤษแบบสหรัฐฯ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม Apple ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะมีการขยายการรองรับภาษาเพิ่มเติมในเดือนเมษายนปี 2025 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถใช้งานฟีเจอร์อัจฉริยะนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
การประกาศข่าวดีนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Apple ได้ยืนยันในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ โดยการอัปเดตซอฟต์แวร์ในเดือนเมษายนจะช่วยให้ Apple Intelligence รองรับภาษาต่าง ๆ เพิ่มเติม อาทิ จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี โปรตุเกส สเปน เวียดนาม และภาษาอื่น ๆ ที่จะทยอยเปิดตัวในอนาคต
จากการประกาศล่าสุดของ Apple บริษัทได้ยืนยันว่าจะมีการขยายการรองรับภาษาสำหรับ Apple Intelligence ในเดือนเมษายน 2025 ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ทั่วโลกที่กำลังรอคอยการรองรับภาษาใหม่ ๆ โดยข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ในแถลงการณ์ของบริษัทเกี่ยวกับ Apple Intelligence อย่างเป็นทางการ
ปัจจุบัน Apple Intelligence รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษแบบสหรัฐฯ แต่เริ่มตั้งแต่ iOS 18.2 ที่อยู่ในระหว่างการทดสอบเบต้า การรองรับภาษาอังกฤษจะขยายออกไปยังหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร โดยการอัปเดตดังกล่าวคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนธันวาคมนี้ตามที่บริษัทระบุ
นอกจากนี้ ในเดือนเมษายนปีหน้า Apple Intelligence จะสามารถรองรับภาษาอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ เช่น จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี โปรตุเกส สเปน เวียดนาม และภาษาอื่น ๆ อีกมากมาย โดย Apple ระบุว่าการรองรับภาษาทั้งหมดนี้จะมาพร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรี ซึ่งคาดว่าจะเป็น iOS 18.4
Apple Intelligence กำลังขยายการรองรับภาษามากขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มจากในเดือนธันวาคมปีนี้ที่จะสามารถใช้งานภาษาอังกฤษในเวอร์ชันท้องถิ่นของหลายประเทศ รวมถึงออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร หลังจากนั้นในเดือนเมษายนปีหน้า การอัปเดตซอฟต์แวร์จะทำให้สามารถรองรับภาษาต่าง ๆ มากขึ้น รวมถึงภาษา จีน อังกฤษ (อินเดีย) อังกฤษ (สิงคโปร์) ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี โปรตุเกส สเปน และเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตลอดทั้งปีที่จะตามมา
ตั้งแต่ iOS 18.1 และ macOS 15.1 ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือใหม่ ๆ เช่น การเขียนและตรวจแก้ไขข้อความ สรุปเนื้อหา รวมถึงการแจ้งเตือนเพิ่มเติม การอัปเดตยังเพิ่มฟีเจอร์ Clean Up ในแอป Photos เพื่อช่วยจัดการรูปภาพได้ง่ายขึ้น
ส่วน iOS 18.2 และ macOS 15.2 จะมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่าง Image Playgrounds ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สร้างสรรค์งานภาพได้หลากหลาย รวมถึง Genmoji ที่ช่วยให้การสื่อสารสนุกขึ้น และการผสาน ChatGPT ที่จะทำให้การใช้งาน AI เป็นเรื่องง่ายและครอบคลุมมากขึ้น
Apple Intelligence จำเป็นต้องใช้กับ iPhone 15 Pro หรือรุ่นที่ใหม่กว่า หรือบน Mac และ iPad ที่ใช้ชิป M1 หรือรุ่นใหม่กว่า เช่นเดียวกับ iPad mini รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับชิป A17 Pro ซึ่งรองรับฟีเจอร์ AI เหล่านี้อย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน
Apple กำลังขยายการรองรับภาษาสำหรับ Apple Intelligence เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเข้าถึงและใช้งานฟีเจอร์อัจฉริยะได้อย่างเต็มที่มากขึ้น การอัปเดตนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ภาษาอังกฤษในหลายประเทศได้รับการรองรับเพิ่มเติมในเดือนธันวาคม แต่ยังมีแผนจะเปิดตัวการรองรับภาษาใหม่ ๆ อย่าง จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น และอื่น ๆ ในเดือนเมษายนปีหน้า ฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งานให้หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละภูมิภาคมากขึ้น Apple ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความสะดวกและการใช้งานที่ครอบคลุมทั่วโลก