ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Android 16 ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาภายใต้ชื่อโค้ดเนมว่า “Baklava” โดยหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่คาดว่าจะเพิ่มเข้ามาคือ “Priority Modes” สำหรับการแจ้งเตือน ซึ่งฟังดูแล้วอาจจะคุ้น ๆ เพราะ Apple ก็มีระบบการโฟกัสที่ช่วยกรองการแจ้งเตือนด้วยระบบ AI ใน iOS 18 อยู่แล้ว
แน่นอนว่า Google ไม่อยากจะตามหลังในเรื่องนี้ จึงเตรียมพัฒนาฟีเจอร์ที่คล้ายกับการแจ้งเตือนแบบ Dynamic Island ที่หลายคนชื่นชอบบน iPhone ซึ่งใช้พื้นที่รอบกล้องหน้าในการแสดงการแจ้งเตือนแบบไม่รบกวนสายตา ทำให้สามารถดูข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ต้องสลับแอปไปมา ซึ่ง Android 16 อาจจะทำได้เช่นเดียวกันด้วยระบบใหม่ที่เรียกว่า “Rich Ongoing Notifications”
จากรายงานของ Android Authority ฟีเจอร์นี้มีแนวโน้มว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ Android 16 และอาจมีหน้าตาคล้ายคลึงกับ Dynamic Island บน iPhone ในขณะที่บางแบรนด์ Android เช่น Honor ได้ทดลองนำแนวคิดนี้ไปใช้แล้ว แต่การรองรับแอปพลิเคชันยังไม่ครอบคลุมมากนัก ซึ่ง Android 16 อาจแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการทำให้ระบบแจ้งเตือนแบบ Rich Ongoing Notifications ใช้งานได้หลากหลายแอปมากขึ้น
ระบบนี้จะช่วยให้แอปพลิเคชันแสดงข้อมูลการแจ้งเตือนในพื้นที่สถานะบาร์ด้านบนของหน้าจอ แทนที่จะเป็นแค่ไอคอนเล็ก ๆ โดยที่ตัว API จะอนุญาตให้แอปสร้างชิปการแจ้งเตือนของตัวเอง มีสีพื้นหลังและข้อความตามที่กำหนดได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดแอปเต็มหน้าจอ
ฟีเจอร์นี้ได้รับการพบเห็นในโค้ดของ QPR build ล่าสุดของ Android 15 ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า Google ตั้งใจจะพัฒนาระบบการแจ้งเตือนให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น เช่น แจ้งเตือนการเล่นเพลง การเรียกรถแท็กซี่ การนำทาง หรือการเตือนความจำอื่น ๆ และที่สำคัญคือการทำงานของระบบ Rich Ongoing Notifications ไม่ได้ยึดติดกับพื้นที่รอบกล้องหน้าเหมือน Dynamic Island
แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าชิปการแจ้งเตือนเล็ก ๆ นี้จะตอบสนองต่อการแตะของผู้ใช้อย่างไร แต่ถ้าอ้างอิงจาก Dynamic Island การแตะที่การแจ้งเตือนน่าจะทำให้แสดงข้อมูลเพิ่มเติมหรือเปิดแอปพลิเคชันเต็มหน้าจอ ซึ่งถ้า Android 16 สามารถทำแบบเดียวกันได้จริง ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการใช้งาน
นอกจากนี้ Google เองก็เคยนำแนวคิดการแจ้งเตือนแบบสถานะบาร์มาใช้แล้วเมื่อผู้ใช้กำลังบันทึกหน้าจอใน Android 15 ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกบางส่วนหรือทั้งหมดของหน้าจอ ฟีเจอร์นี้สามารถใช้แสดงข้อมูลอื่น ๆ เช่น การเล่นเพลงหรือการนำทางได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่ทำให้ระบบนี้ต่างจาก Dynamic Island คือการที่ Google ไม่ได้เน้นการใช้พื้นที่รอบกล้องหน้า แต่เลือกใช้สถานะบาร์ที่มีอยู่แล้ว ทำให้การแสดงผลการแจ้งเตือนดูสะอาดตาและไม่รบกวนการใช้งาน นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับนักพัฒนาว่าจะนำ API นี้ไปใช้อย่างไร ซึ่งอาจทำให้แอปต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนการแจ้งเตือนให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ Rich Ongoing Notifications ใน Android 16 ถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการพัฒนาระบบการแจ้งเตือนให้มีความหลากหลายและใช้งานได้ง่ายขึ้น แม้ว่ารายละเอียดหลายอย่างยังอยู่ในช่วงพัฒนา แต่แนวคิดนี้มีศักยภาพที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ต้องสลับแอปไปมา และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานสมาร์ทโฟนได้อีกมาก
สุดท้ายนี้ เราคงต้องรออีกสักพักกว่าจะได้เห็น Android 16 ตัวเต็มออกมา แต่จากสิ่งที่ได้เห็นในตอนนี้ เราเชื่อว่าฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะตามมา จะทำให้การใช้งาน Android น่าสนุกและสะดวกสบายยิ่งขึ้น