ในช่วงนี้ผู้ใช้งาน Google Chrome อาจจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมบล็อกโฆษณายอดนิยมอย่าง uBlock Origin โดย Google ได้เริ่มทยอยปิดการใช้งานของส่วนขยายนี้บน Chrome เนื่องจากไม่รองรับกับระบบใหม่ที่ถูกปรับปรุงขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจากการที่ Chrome กำลังเปลี่ยนไปใช้ Manifest V3 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของส่วนขยาย ทำให้บางส่วนขยายอาจไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม
uBlock Origin ซึ่งเป็นส่วนขยายที่หลายคนใช้เพื่อบล็อกโฆษณาและป้องกันเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ ได้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนี้โดยการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า uBlock Origin Lite ซึ่งรองรับกับ Manifest V3 แต่ก็ยังมีความแตกต่างที่สำคัญ เช่น ความสามารถในการกรองโฆษณาที่ลดลง ทำให้ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้งและปรับตั้งค่าด้วยตนเองเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
Google Chrome ได้เริ่มยกเลิกการสนับสนุนส่วนขยายบล็อกโฆษณา uBlock Origin อย่างเป็นทางการแล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้มาจากการที่ Chrome กำลังปรับปรุงมาตรฐานของส่วนขยายไปสู่ Manifest V3 ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงการทำงานของส่วนขยายหลายประเภท โดยเฉพาะส่วนขยายที่เกี่ยวข้องกับการกรองเนื้อหาและบล็อกโฆษณา เช่น uBlock Origin
The deprecation of uBO in the Chrome Web Store has started.https://t.co/VhvsZ2bhLa
— R. Hill (@gorhill) October 15, 2024
Raymond Hill ผู้พัฒนา uBlock Origin ได้แชร์ภาพหน้าจอที่แสดงให้เห็นว่า Google Chrome เริ่มปิดการใช้งาน uBlock Origin โดยอัตโนมัติ เนื่องจากส่วนขยายดังกล่าว “ไม่รองรับ” กับระบบ Manifest V3 อีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่กำลังจะมาถึง โดยผู้ใช้จะต้องปรับตัวและติดตั้ง uBlock Origin Lite แทน
uBlock Origin Lite เป็นเวอร์ชันที่พัฒนามาเพื่อรองรับ Manifest V3 แต่ตามคำอธิบายของ Hill ผู้ใช้อาจพบความแตกต่างในการใช้งานขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ที่เข้าชมและการตั้งค่าของส่วนขยาย โดยเวอร์ชัน Lite นี้มีข้อจำกัดในการกรองเนื้อหามากขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดของระบบใหม่
การเปลี่ยนไปใช้ Manifest V3 ของ Google Chrome จะส่งผลต่อการใช้งานส่วนขยายบล็อกโฆษณาทั่วไปเป็นอย่างมาก โดย Manifest V3 ได้เพิ่มข้อจำกัดใหม่ ๆ ในการใช้ Declarative Net Request API ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ส่วนขยายบล็อกโฆษณาใช้ในการบล็อกเนื้อหาโฆษณา Hill ชี้แจงว่า uBlock Origin Lite จะมีประสิทธิภาพน้อยกว่า uBlock Origin เดิมในการจัดการกับเว็บไซต์ที่มีระบบป้องกันบล็อกโฆษณา ซึ่งทำให้การบล็อกบางประเภทไม่สามารถทำได้ตามปกติ
นอกจากนี้ Hill ยังเน้นว่า uBlock Origin Lite มีความสามารถในการกรองโฆษณาที่จำกัดมากกว่า uBlock Origin โดยเฉพาะในเว็บไซต์ที่ซับซ้อนหรือมีเนื้อหาที่ต้องใช้ตัวกรองที่ซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้ต้องปรับการใช้งานตามเว็บไซต์ที่เข้าชมและอาจพบกับปัญหาการทำงานของส่วนขยายในบางกรณี
Scott Westover โฆษกของ Google กล่าวในอีเมลถึงสื่อ The Verge ว่ากว่า 93% ของส่วนขยายที่ยังคงมีการพัฒนาใน Chrome Web Store ได้เปลี่ยนไปใช้ Manifest V3 แล้ว โดยส่วนขยายบล็อกโฆษณาชั้นนำเช่น AdBlock, Adblock Plus, uBlock Origin และ AdGuard ได้พัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่รองรับ Manifest V3 เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงสามารถบล็อกเนื้อหาโฆษณาได้แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงของระบบ
Google มีแผนที่จะเริ่มยกเลิกการสนับสนุน Manifest V2 อย่างสมบูรณ์ในปี 2025 ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนขยายทั้งหมดที่ยังคงใช้ Manifest V2 ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบส่วนขยายใน Chrome
การยกเลิกการสนับสนุน uBlock Origin บน Google Chrome เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับการพัฒนาของระบบส่วนขยายใหม่อย่าง Manifest V3 ผู้ใช้งานที่เคยพึ่งพา uBlock Origin อาจต้องปรับตัวกับการใช้งาน uBlock Origin Lite ซึ่งแม้ว่าจะยังสามารถบล็อกโฆษณาได้ แต่มีข้อจำกัดในด้านความสามารถที่ลดลงเมื่อเทียบกับเวอร์ชันเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาและปรับปรุงระบบส่วนขยายเพื่อให้มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้ในอนาคต
