ในยุคปัจจุบัน เราเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z พวกเขาไม่เพียงแค่เติบโตมากับเทคโนโลยี แต่ยังรู้จักนำเทคโนโลยีมาสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทางออนไลน์ การหารายได้แบบออนไลน์กลายเป็นทางเลือกที่ดึงดูดใจมากกว่าการทำงานประจำ ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเส้นทางที่มั่นคงและปลอดภัยสำหรับการสร้างฐานะทางการเงิน
หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ Natalie Fischer ผู้ที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลผ่านบัญชี @investwithnat ในปี 2022 Fischer ได้เริ่มต้นทำอาชีพเสริมทางออนไลน์ ควบคู่กับงานประจำในสายวิเคราะห์ข้อมูล แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจำและหันมาทำงานออนไลน์เต็มตัว ด้วยรายได้จากงานออนไลน์ที่มากพอ ๆ กับงานประจำ แต่ใช้เวลาทำงานน้อยกว่าครึ่ง
การทำงานแบบประจำที่เคยถูกมองว่าเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง ดูเหมือนจะไม่ตอบโจทย์ของคนรุ่นใหม่อีกต่อไป สำหรับคนรุ่น Gen Z ที่เติบโตมาในยุคดิจิทัล การทำงานในระบบออนไลน์มีความยืดหยุ่นและเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถหารายได้ได้จากหลายช่องทาง ในขณะที่คนรุ่นก่อนอาจต้องพึ่งพารายได้จากแหล่งเดียว Fischer ยืนยันว่าการสร้างรายได้จากหลายช่องทางเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เธอมีอิสรภาพในการทำงาน
@investwithnat Replying to @I ask questions&forage🐟🍄🌎 exposing how much I made as a influencer and content creator in 2023 (part time) #moneytok #incomestreams #howmuchimade #ugccreator #contentcreator #creatortips #moneytransparency ♬ original sound – Investwithnat | Finance Bestie
ทำไม Gen Z ถึงเลือกการทำงานออนไลน์มากกว่างานประจำ
การลาออกจากงานประจำเพื่อมาทำงานออนไลน์เต็มตัวอาจดูเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน แต่สำหรับ Fischer และคนรุ่น Gen Z จำนวนมาก พวกเขาเห็นความสำคัญของการมีอิสระในการเลือกวิธีการทำงานและสร้างรายได้ ในขณะที่งานประจำมักจะให้รายได้ที่มั่นคง การทำงานออนไลน์เปิดโอกาสให้พวกเขามีความยืดหยุ่นในการบริหารเวลา และยังสามารถสร้างรายได้ที่มากขึ้นด้วยเวลาในการทำงานที่น้อยลง
หนึ่งในเหตุผลที่คนรุ่น Gen Z ไม่ค่อยสนใจการทำงานประจำเหมือนคนรุ่นก่อน ๆ คือพวกเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่ทำให้งานประจำไม่มั่นคงอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเห็นพ่อแม่ต้องเผชิญกับการสะสมหนี้หรือการตกงานในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ทำให้พวกเขาหันมาหาวิธีการหารายได้ที่สามารถควบคุมได้เอง
ช่องทางหารายได้ของ Gen Z ผ่านโซเชียลมีเดีย
หนึ่งในช่องทางหลักที่คนรุ่น Gen Z ใช้เพื่อหารายได้คือโซเชียลมีเดีย Fischer ได้เปิดเผยว่า เธอสามารถทำรายได้จากโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok และ Instagram ผ่านการเข้าร่วมโปรแกรมพันธมิตรและการเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ต่าง ๆ การทำคอนเทนต์และการสร้างแบรนด์ส่วนบุคคลกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่สามารถสร้างรายได้ได้จากที่บ้าน
จากการสำรวจของ Credit Karma ในปีนี้ พบว่าร้อยละ 45 ของคนรุ่น Gen Z ทำอาชีพเสริมผ่านดิจิทัล และเกือบครึ่งหนึ่งสามารถทำรายได้จากการสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียได้มากกว่างานประจำ โดยร้อยละ 13 ของพวกเขาสามารถทำรายได้มากถึงหลักล้านต่อปี นี่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการทำงานออนไลน์ที่คนรุ่นใหม่มองว่าเป็นวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
การเปลี่ยนแปลงมุมมองเกี่ยวกับงานประจำของคนรุ่นใหม่
แม้ว่าเส้นทางการทำงานประจำเคยถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป แต่ในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่เริ่มมองหาทางเลือกที่ให้ความมั่นคงทางการเงินมากกว่าเดิม การทำงานประจำอาจไม่ได้ให้ความมั่นคงที่คนรุ่นก่อนเคยเชื่ออีกต่อไป ในทางกลับกัน การมีรายได้หลายช่องทางและความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลเป็นสิ่งที่คนรุ่น Gen Z ให้ความสำคัญ
ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์แบรนด์ Ana Calin ซึ่งลาออกจากงานประจำหลังจากทำงานมานานถึง 15 ปี เห็นด้วยว่าคนรุ่นใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน พวกเขาไม่เชื่อมั่นในแนวคิดที่ว่า “การทำงานประจำคือทางเลือกเดียว” เหมือนที่คนรุ่นก่อนเคยเชื่อ
การทำงานเสริมทางดิจิทัลไม่ใช่แค่กระแส
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การทำงานออนไลน์เป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่คือความง่ายในการเริ่มต้นทำงานเสริมทางออนไลน์ คนรุ่น Gen Z มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีที่พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับมัน จึงทำให้พวกเขาสามารถหาประโยชน์จากช่องทางเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Barrett Pearce ผู้จัดการ LaunchPad ศูนย์ช่วยเหลือนักศึกษาด้านการประกอบธุรกิจของมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน กล่าวว่า คนรุ่นใหม่มีความสามารถในการเข้าถึงทรัพยากรและเทคโนโลยีที่ช่วยให้การเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม การทำงานในรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่เป็นการลดความเสี่ยงในการพึ่งพารายได้จากแหล่งเดียว แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่ง
การเผชิญหน้ากับความท้าทายในการทำงานออนไลน์
อย่างไรก็ตาม การทำงานออนไลน์ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แม้ว่าจะมีโอกาสในการหารายได้ที่มากขึ้น แต่ก็มีความท้าทายที่มาพร้อมกับการทำงานในโลกดิจิทัล Fischer ได้เล่าว่า การเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ต้องใช้ความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามกระแสและแนวโน้มของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์ม เช่น การถูกแบนของ TikTok เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในวงการนี้
นอกจากนี้ การสร้างรายได้จากโซเชียลมีเดียต้องการความอดทนและการมีความเข้าใจด้านธุรกิจ Fischer ใช้เวลาหลายปีกว่าจะสร้างแบรนด์ของเธอจนเป็นที่รู้จักและสร้างรายได้อย่างมั่นคง การทำงานในโลกออนไลน์ต้องอาศัยการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตามและการรักษาความต่อเนื่องในการผลิตคอนเทนต์
ทิ้งท้าย
การทำงานออนไลน์ในยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของคนรุ่นใหม่อย่างมาก คนรุ่น Gen Z มองเห็นโอกาสในการหารายได้จากโลกดิจิทัลมากกว่าการทำงานประจำ ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่มั่นคงในอดีต อย่างไรก็ตาม การทำงานในโลกออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป มันต้องอาศัยความอดทน ความยืดหยุ่น และความรู้ด้านธุรกิจเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ