Apple TV+ เตรียมพร้อมเข้าถึงผ่าน Prime Video

ในยุคที่การสตรีมมิ่งกลายเป็นสิ่งที่ผู้ชมทั่วโลกต้องการมากขึ้น การจับมือกันระหว่างแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่สองแห่งอย่าง Apple และ Amazon จึงถือเป็นการพัฒนาในแวดวงนี้ที่น่าสนใจ Apple ได้ตกลงที่จะนำบริการสตรีมมิ่งของตนเองอย่าง Apple TV+ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในบริการ Prime Video ของ Amazon ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ Prime Video สามารถสมัครสมาชิก Apple TV+ ผ่านแพลตฟอร์มของ Amazon ได้โดยตรง

การร่วมมือในครั้งนี้ช่วยให้ผู้ชมเข้าถึงเนื้อหาคุณภาพจาก Apple TV+ ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องสมัครแยกจากแพลตฟอร์ม Apple โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มต้นให้บริการในปลายเดือนนี้ และคาดว่าจะช่วยเพิ่มฐานสมาชิกให้กับ Apple TV+ ได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังเพิ่มทางเลือกและความสะดวกให้กับผู้ใช้ Prime Video ได้มากขึ้นเช่นกัน

Apple และ Amazon ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงธุรกิจเกี่ยวกับข้อตกลงนี้มากนัก แต่สิ่งที่แน่นอนคือ Apple มองเห็นโอกาสในการขยายฐานสมาชิกของ Apple TV+ ผ่านการเปิดให้ Prime Video เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับการสมัครสมาชิก ซึ่งหมายความว่าผู้ที่เป็นสมาชิก Prime Video จะสามารถเข้าถึง Apple TV+ โดยสมัครเพิ่มเติมผ่านแอปของ Amazon ได้ทันที โดยไม่ต้องไปลงทะเบียนผ่าน Apple โดยตรง

Eddy Cue รองประธานอาวุโสฝ่ายบริการของ Apple ได้กล่าวในแถลงข่าวของ Amazon ว่า เราต้องการให้ Apple TV+ และห้องสมุดซีรีส์และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลของเรา สามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ Prime Video จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์การรับชมที่หลากหลายและน่าทึ่ง” นอกจากนี้ทาง Amazon ยังได้ชูจุดขายว่า การสมัครสมาชิก Apple TV+ ผ่าน Prime Video นั้นจะทำให้ผู้ใช้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วย “การจัดการการเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวในแอปเดียว”

การเสนอขายบริการสตรีมมิ่งผ่านช่องทางที่แตกต่างนี้คล้ายกับแนวทางที่ Apple ใช้กับฟังก์ชัน Channels ในแอป Apple TV ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสมัครบริการสตรีมมิ่งของผู้ให้บริการรายอื่นได้ แต่ Prime Video ยังไม่เป็นส่วนหนึ่งของบริการ Channels นี้

แม้ว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะไม่ได้ขยายการกระจายของ Apple TV+ มากนัก เนื่องจากบริการ Apple TV+ นั้นสามารถเข้าถึงได้ในทุกที่ที่ Prime Video มีให้บริการอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือความสะดวกในการสมัครสมาชิก ผ่านแอปที่คุ้นเคยอย่าง Prime Video ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสมัครและจัดการได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเรียนรู้ขั้นตอนใหม่ในการสมัครผ่านแพลตฟอร์ม Apple

นอกจากนี้ ยังมีความเข้าใจผิดทั่วไปเกี่ยวกับ Apple TV+ ที่ผู้ใช้หลายคนคิดว่าต้องมีอุปกรณ์ Apple TV (กล่องรับสัญญาณ) ถึงจะสามารถใช้งานได้ ซึ่งในความเป็นจริง Apple TV+ นั้นสามารถเข้าถึงได้ผ่านแอป Apple TV บนสมาร์ททีวี แทบทุกแบรนด์ กล่องรับสัญญาณอื่น ๆ แท็บเล็ต เกมคอนโซล และเว็บบราวเซอร์ ทำให้การสมัครสมาชิกผ่าน Prime Video อาจช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความเข้าใจผิดนี้เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น

อีกสิ่งที่ควรพิจารณาคือ การสมัคร Apple TV+ ผ่าน Prime Video จะช่วยให้ผู้ใช้ Android ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการใช้งาน Apple TV+ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ Apple ซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple อาจต้องการขยายการเข้าถึงผู้ใช้ในแพลตฟอร์มนี้ อย่างไรก็ตาม หาก Apple ต้องการควบคุมประสบการณ์การใช้งานบน Android ได้ดีขึ้น การพัฒนาแอป Apple TV บน Android อย่างเต็มรูปแบบจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

การสมัคร Apple TV+ ผ่าน Prime Video จะมีค่าบริการเท่ากับการสมัครโดยตรงผ่าน Apple นั่นคือ $9.99 ต่อเดือน ขณะที่การสมัคร Prime Video เป็นบริการแยกที่มีค่าบริการตั้งแต่ $8.99 ต่อเดือน ไปจนถึง $17.98 ต่อเดือนขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่ผู้ใช้เลือก ดังนั้น ผู้ใช้ที่ต้องการทั้งสองบริการก็จะต้องจ่ายค่าบริการสองส่วนแยกกัน

การที่ Apple และ Amazon จับมือกันในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขยายช่องทางการเข้าถึงบริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ ทำให้ผู้ชมมีตัวเลือกในการสมัครสมาชิกที่สะดวกยิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ที่ยังไม่เคยสมัคร Apple TV+ ได้ทดลองใช้บริการนี้อย่างง่ายดายผ่าน Prime Video ทั้งนี้แม้ว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะยังไม่ขยายการเข้าถึงบริการได้มากนัก แต่ก็เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดความซับซ้อนในการสมัครสมาชิก และเพิ่มโอกาสให้ Apple ขยายฐานสมาชิกในอนาคตได้มากขึ้น