OpenAI หนึ่งในผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์กำลังขยายขอบเขตการดำเนินงานไปทั่วโลกอย่างก้าวกระโดด โดยล่าสุดประกาศเปิดสำนักงานใหม่ในหลายเมืองสำคัญ ได้แก่ สิงคโปร์ ปารีส บรัสเซลส์ นับเป็นก้าวสำคัญที่ต่อเนื่องมาจากการระดมทุนมหาศาล 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่บริษัทได้รับ และการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นภายในองค์กร นอกจากนี้ การขยายตัวครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากการเปิดสำนักงานในโตเกียวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ด้วยความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก OpenAI ได้แต่งตั้ง Oliver Jay ผู้จัดการระดับสูงซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขายที่ Asana และเป็นผู้ดูแลภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและละตินอเมริกาที่ Dropbox ให้รับหน้าที่ดูแลการดำเนินงานระดับสากล โดยเฉพาะการขยายธุรกิจจากสำนักงานในสิงคโปร์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำคัญในการสนับสนุนลูกค้าและพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
OpenAI ประกาศผ่านโพสต์บน X ว่ากำลังเตรียมเปิดสำนักงานใหม่ในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก รวมถึงเมืองใหญ่ๆ อย่าง นิวยอร์ก ซีแอตเทิล ปารีส บรัสเซลส์ และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจระดับโลกของบริษัท ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้เปิดสำนักงานในซานฟรานซิสโก ลอนดอน ดับลิน และโตเกียวไปแล้ว ทำให้เครือข่ายการดำเนินงานของบริษัทครอบคลุมหลายภูมิภาคที่สำคัญ
การขยายธุรกิจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก OpenAI ได้รับเงินทุนก้อนใหญ่จำนวน 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการปรับโครงสร้างภายในบริษัทและการลาออกของผู้บริหารบางคน โดย OpenAI มุ่งมั่นที่จะสร้างทีมที่มีความเชี่ยวชาญและพร้อมขยายขีดความสามารถในการดำเนินงานทั่วโลกให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ในการดำเนินงานระดับสากล OpenAI แต่งตั้ง Oliver Jay ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายรายได้ของ Asana และผู้บริหารด้านการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและละตินอเมริกาที่ Dropbox มาดูแลการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในเอเชีย Jay มีหน้าที่ในการดูแลสำนักงานในสิงคโปร์ที่จะเริ่มเปิดดำเนินการปลายปีนี้ ซึ่งถือเป็นสำนักงานที่สองในเอเชียหลังจากเปิดในโตเกียวในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ตัวแทนจาก OpenAI ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ TechCrunch ว่าบริษัทได้เริ่มสร้างทีมงานในสิงคโปร์เพื่อสนับสนุนลูกค้าและพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก โดยในปัจจุบันบริษัทกำลังมองหาวิศวกรเพื่อเข้าร่วมทีมและเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดสำนักงานในปลายปีนี้ สิงคโปร์ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการขยายตัวของ OpenAI ในเอเชีย ซึ่งประเทศนี้มีผู้ใช้งาน ChatGPT สูงที่สุดต่อหัวประชากรเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก อีกทั้งจำนวนผู้ใช้งาน ChatGPT ในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงปีที่ผ่านมา
OpenAI ยังประกาศว่ากำลังร่วมมือกับ AI Singapore เพื่อเสริมสร้างการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ AI Singapore เป็นโครงการระดับชาติที่จัดตั้งขึ้นโดย National Research Foundation (NRF) เมื่อปี 2017 โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนองค์กรและธุรกิจในสิงคโปร์ในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการพัฒนานวัตกรรมและการวิจัย
ในคำแถลงของ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เขาได้กล่าวว่า “สิงคโปร์มีประวัติอันยาวนานในการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และการที่ประเทศนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางสำคัญด้านปัญญาประดิษฐ์ เป็นสิ่งที่ช่วยตอกย้ำถึงศักยภาพของ AI ในการแก้ปัญหาสังคมที่ซับซ้อนและส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” OpenAI มีความตื่นเต้นที่จะได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลและระบบนิเวศ AI ที่เติบโตในสิงคโปร์ และเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเปิดสำนักงานในสิงคโปร์ของ OpenAI ไม่เพียงแต่เป็นการขยายธุรกิจ แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของภูมิภาคนี้ที่จะเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการพัฒนาและการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในชีวิตประจำวัน สิงคโปร์ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูง ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลในการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในระดับสังคมและเศรษฐกิจ
การขยายธุรกิจของ OpenAI ไปยังสิงคโปร์ ปารีส และบรัสเซลส์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลก ความร่วมมือกับองค์กรอย่าง AI Singapore ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก OpenAI มองเห็นศักยภาพของภูมิภาคนี้และพร้อมที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต