ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Facebook ได้เผชิญกับความท้าทายในการดึงดูดผู้ใช้กลุ่มวัยรุ่นที่หันไปใช้แพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง TikTok และ Instagram มากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้รุ่นใหม่ไม่ค่อยสนใจเข้าร่วมใช้งาน Facebook เหมือนแต่ก่อน Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook จึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัย Gen Z เพื่อไม่ให้สูญเสียฐานผู้ใช้ที่สำคัญไป
เพื่อรับมือกับปัญหานี้ Meta ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ ให้กับ Facebook โดยเน้นไปที่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในชุมชนท้องถิ่น การเพิ่มฟีเจอร์ด้านความบันเทิง และการพัฒนา Facebook Groups ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น นอกจากนี้ ฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่าง Meta AI, Facebook Dating และ Messenger ก็ได้รับการอัปเดตเช่นกัน ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Facebook
หนึ่งในฟีเจอร์หลักที่ Facebook เน้นคือการเชื่อมโยงผู้ใช้กับชุมชนท้องถิ่นผ่านฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “Local” ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลท้องถิ่นจาก Marketplace, Groups, และ Events ไว้ในที่เดียว ผู้ใช้จะสามารถค้นหากิจกรรมในบริเวณใกล้เคียง กลุ่มที่เสนอสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่น่าสนใจในละแวกบ้านของพวกเขา ฟีเจอร์นี้จะถูกทดสอบในเมืองใหญ่บางแห่งในสหรัฐฯ เช่น นิวยอร์ก, ลอสแอนเจลิส, และวอชิงตัน ดี.ซี.
นอกจากนั้น ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น “Explore” ก็จะถูกปรับปรุงให้ผู้ใช้ได้รับคำแนะนำที่ตรงกับความสนใจมากขึ้น ด้วยการใช้ AI เพื่อคัดเลือกเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ตั้งแต่เคล็ดลับการเดินทาง ไปจนถึงคำแนะนำในการทำ DIY สิ่งที่น่าสนใจคือ “Explore” จะถูกนำมาวางในตำแหน่งสำคัญในแอป Facebook ทำให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น
ปรับปรุงฟีเจอร์วิดีโอ
สำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่เน้นความบันเทิง Meta ยังเน้นไปที่การพัฒนาฟีเจอร์วิดีโอให้ตอบสนองต่อความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเนื้อหาวิดีโอสั้น ๆ อย่าง Reels ฟีเจอร์ใหม่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถชมวิดีโอสั้น วิดีโอยาว และวิดีโอสดในที่เดียว โดย Meta ตั้งเป้าให้ Reels กลายเป็นพื้นที่หลักสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากพวกเขาใช้เวลาเกือบ 60% ในการชมวิดีโอ ซึ่งกว่า 50% นั้นเป็นการดู Reels รายวัน
การปรับปรุงใน Facebook Groups และ Events
การพัฒนาอีกส่วนที่น่าสนใจคือการปรับปรุงฟีเจอร์ Groups และ Events บน Facebook ที่เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับผู้ใช้งานรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอัปเดตในส่วนของ Groups ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 1.8 พันล้านคนทั่วโลก Meta ได้เพิ่มระบบ AI ที่สามารถช่วยตอบคำถามซ้ำ ๆ ในกลุ่มได้ โดยผู้ดูแลกลุ่มสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เพื่อช่วยสมาชิกในการหาคำตอบได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ฟีเจอร์นี้กำลังถูกทดสอบในสหรัฐฯ และแคนาดา
ส่วนฟีเจอร์ Events จะได้รับการปรับปรุงให้ผู้ใช้สามารถเห็นกิจกรรมที่ตรงกับความสนใจผ่านการแจ้งเตือนประจำสัปดาห์หรือช่วงสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเชิญเพื่อนจาก Instagram ให้เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างบน Facebook ได้ รวมถึงส่งคำเชิญผ่าน SMS และอีเมลไปยังคนที่ยังไม่มีบัญชี Facebook
Facebook Dating และฟีเจอร์ AI อื่น ๆ
ในส่วนของ Facebook Dating Meta ได้เพิ่มฟีเจอร์ “Matchmaker” ซึ่งเปิดโอกาสให้เพื่อนสูงสุด 5 คนสามารถเลือกคู่ที่เหมาะสมให้กับเรา ฟีเจอร์นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการใช้ Facebook Dating โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นอเมริกาและแคนาดา ที่มีการสนทนาใน Facebook Dating เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
การอัปเดต AI ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในกลุ่มและการออกเดต Facebook ยังเพิ่มฟีเจอร์ AI อื่น ๆ เช่น ฟีเจอร์ “Imagine Yourself” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพจากข้อความในฟีดหรือโปรไฟล์ได้ และระบบสรุปความคิดเห็นจาก AI ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในกลุ่มสาธารณะ หน้าสร้างสรรค์เนื้อหา และ Pages แต่แม้จะมีการอัปเดตนี้ ผู้ใช้บางส่วนกลับรู้สึกว่ามันลดทอนความสนุกของการเลื่อนดูคอมเมนต์ที่เป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ของ Facebook
การเชื่อมต่อด้วย Messenger และ Communities
ใน Messenger เองก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน โดย Meta ได้เพิ่มฟีเจอร์ “Communities” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับคนที่มีความสนใจเหมือนกันได้ ฟีเจอร์นี้จะมี QR Code ให้แชร์เพื่อเชิญคนเข้าร่วมได้ง่ายขึ้น และยังมีฟีเจอร์ Notes ที่ให้ผู้ใช้สามารถแชร์สถานะปัจจุบันเป็นข้อความสั้น ๆ บน Messenger ได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้กำลังถูกทดสอบบน Facebook
การเพิ่มฟีเจอร์ Memories ที่เคยอยู่ใน Messenger ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่กำลังถูกนำกลับมาให้ผู้ใช้สามารถดูรูปภาพและวิดีโอเก่า ๆ จากการสนทนาในอดีตได้ นอกจากนี้ Facebook ยังได้เปิดตัวโปรแกรมสร้างรายได้ใหม่สำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ เพื่อให้พวกเขามีโอกาสสร้างรายได้จากเนื้อหาที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มนี้
ทิ้งท้าย
Facebook พยายามปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ผ่านการเพิ่มฟีเจอร์ที่เน้นชุมชนท้องถิ่น ความบันเทิง และการสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่ม แม้ว่า Facebook จะเผชิญกับความท้าทายจากคู่แข่งอย่าง TikTok แต่ด้วยการปรับปรุงเหล่านี้ Meta ยังหวังที่จะรักษาฐานผู้ใช้ไว้ได้โดยเฉพาะกลุ่มวัย Gen Z ที่ต้องการพื้นที่ใหม่ ๆ ในการเชื่อมต่อและความบันเทิง