ข่าว Tech

OpenAI ระดมทุน 6.6 พันล้านดอลลาร์ สร้างความมั่งคั่งใหม่

OpenAI ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในบริษัทเอกชนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก หลังจากประสบความสำเร็จในการระดมทุนจำนวน 6.6 พันล้านดอลลาร์ ในรอบล่าสุด ทำให้มูลค่าของบริษัทพุ่งสูงถึง 157 พันล้านดอลลาร์ สิ่งนี้บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่ออนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาระบบที่สามารถช่วยเหลือผู้คนในด้านต่าง ๆ เช่น การทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้

Advertisement

การระดมทุนนี้จะช่วยให้ OpenAI สามารถขยายขีดความสามารถในการคำนวณและสร้างเครื่องมือใหม่ ๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้คนสามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำในงานวิจัย AI สมัยหน้า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งานทั่วโลก

OpenAI เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก โดยได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนา AI ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาที่ท้าทายต่าง ๆ ในสังคม โดยในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา OpenAI ได้สร้างชื่อเสียงอย่างมากจากการพัฒนาระบบ AI เช่น ChatGPT ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 250 ล้านคนทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์ เพื่อปรับปรุงการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ของพวกเขา

ในการประกาศข่าวการระดมทุน OpenAI ระบุว่า “การลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้เรามีความสามารถในการขยายการวิจัย AI ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการคำนวณ และสร้างเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้คนแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้” นอกจากนั้น นักลงทุนเก่าของบริษัทเช่น Thrive Capital, Khosla Ventures และ Microsoft ยังได้รับการเสริมด้วยนักลงทุนใหม่อย่าง SoftBank และ Nvidia ขณะที่ Apple ที่เคยมีแผนจะเข้าร่วมการลงทุนได้ถอนตัวออกไปในช่วงต้นสัปดาห์นี้

การระดมทุนดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ OpenAI กำลังพิจารณาการปรับโครงสร้างธุรกิจหลักจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเป็นธุรกิจเพื่อผลกำไร เพื่อทำให้บริษัทดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น โดยตัวแทนจาก OpenAI ได้ระบุว่า “เราให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน และเรากำลังทำงานร่วมกับบอร์ดบริหารของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเรามีตำแหน่งที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย”

Advertisement

ถึงแม้ OpenAI จะประสบความสำเร็จในการระดมทุน แต่บริษัทก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาทรัพยากรบุคคลที่สำคัญไว้ เนื่องจากตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากที่บอร์ดบริหารองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของ OpenAI พยายามที่จะถอด CEO อย่าง Sam Altman ออกจากตำแหน่ง ทำให้มีนักวิจัยและผู้บริหารจำนวนมากลาออก โดยนักวิจัย Jan Leike และ Ilya Sutskever ได้ลาออกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อประท้วงความไม่ใส่ใจในด้านความปลอดภัยของบริษัท

Mira Murati ซึ่งเป็น CTO ของบริษัทได้ยื่นลาออกในปลายเดือนกันยายน ขณะที่ Bob McGrew และ Barret Zoph ซึ่งเป็นผู้บริหารฝ่ายวิจัยก็ได้ลาออกตามมาอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในองค์กรที่มีชื่อเสียงอย่าง OpenAI

ตามรายงานจาก Reuters ได้มีการเปิดเผยว่า CFO ของ OpenAI อย่าง Sarah Friar ได้แจ้งให้พนักงานทราบว่าบริษัทจะมีข้อเสนอในการซื้อคืนหุ้นจากพนักงานที่ราคาประเมินใหม่ ซึ่งบางคนได้อนุญาตให้ขายหุ้นได้ก่อนหน้านี้ที่มูลค่า 86 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างที่เสนอ Altman อาจได้รับหุ้นมูลค่าถึง 150 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างบริษัทนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OpenAI ในการสร้างเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความมั่นใจของทีมงานและนักลงทุนไว้ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคต

OpenAI ได้เปิดตัวการระดมทุนที่ทำให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าของบริษัท แต่ยังช่วยให้ OpenAI สามารถขยายขีดความสามารถในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่มีประโยชน์ต่อสังคมได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน การพิจารณาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรยังชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนและรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่มีการพัฒนาตลอดเวลา

Advertisement

อ่านต่อ
Advertisement

Tanjen S.

ติดตามข่าวสารล่าสุดในวงการไอทีและเกมส์ วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอเป็นบทความข่าวที่น่าสนใจ อ่านง่าย และเข้าใจง่าย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button