ข่าว Tech

ค่าสมัครของ ChatGPT Plus อาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในไม่กี่ปี

ChatGPT+ หนึ่งในบริการจาก OpenAI ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และได้เปลี่ยนแปลงวงการ AI อย่างมีนัยสำคัญ แม้ปัจจุบันการสมัครสมาชิกแบบ Plus จะมีราคาอยู่ที่ $20 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการเข้าถึงโมเดล AI ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องและสิทธิ์ในการใช้เครื่องมือสร้างภาพ DALL-E แต่ข่าวล่าสุดเผยว่า OpenAI กำลังมีแผนที่จะเพิ่มราคาค่าสมัครสมาชิกนี้ขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า

รายงานจากสื่อชั้นนำอย่าง The New York Times ระบุว่าเอกสารภายในของ OpenAI ที่จัดส่งให้กับนักลงทุนแสดงถึงแผนการเพิ่มราคา ChatGPT+ ในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาค่าสมัครสมาชิกนี้เพิ่มเป็นสองเท่าในช่วงห้าปีที่จะถึง นอกจากนี้ OpenAI ยังมีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้และการขยายการใช้งาน AI ของตนเองในหลายแวดวง ไม่ว่าจะเป็นในเชิงธุรกิจหรือการใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอย่าง Siri ของ Apple

การปรับเปลี่ยนราคา ChatGPT+

ปัจจุบันการสมัครสมาชิก ChatGPT Plus มีค่าใช้จ่าย $20 ต่อเดือน ผู้สมัครสมาชิกสามารถเข้าถึงโมเดล AI รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดข้อจำกัดต่าง ๆ ในการใช้งาน และสามารถใช้ DALL-E ในการสร้างภาพได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากเอกสารที่เผยแพร่ต่อสาธารณะชี้ให้เห็นว่าภายในสิ้นปีนี้ OpenAI มีแผนจะปรับขึ้นราคาของ ChatGPT+ เป็น $22 ต่อเดือน และภายในห้าปี ราคานี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง $44 ต่อเดือน

การปรับขึ้นราคาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ OpenAI มียอดสมาชิก ChatGPT Plus สูงถึง 10 ล้านคนทั่วโลก โดยทางบริษัทคาดหวังว่าจะสามารถรักษาระดับความพึงพอใจของผู้ใช้งานในระยะยาวได้ แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง

Advertisement

Apple และการรวม ChatGPT เข้ากับ Siri

ในอนาคตอันใกล้ Apple มีแผนที่จะเพิ่มความสามารถของ ChatGPT เข้าไปใน Siri บน iOS เวอร์ชั่น 18.2 แม้ว่าฟีเจอร์ดังกล่าวจะไม่จำเป็นต้องใช้บัญชีของ OpenAI หรือการสมัคร ChatGPT Plus แต่หากผู้ใช้งานต้องการฟังก์ชันพิเศษที่มีใน ChatGPT ก็สามารถเข้าสู่ระบบผ่าน iOS ได้โดยตรง นี่เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่ทำให้ AI มีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น

มูลค่าของ OpenAI ที่เพิ่มขึ้น

ข้อมูลทั้งหมดนี้ได้รับการยืนยันจากเอกสารที่ OpenAI ส่งถึงนักลงทุน โดยปัจจุบัน OpenAI กำลังพยายามระดมทุนสูงสุดถึง 7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 150 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากเพียง 30 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่ Microsoft เริ่มลงทุนใน OpenAI

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า Apple อาจเข้าร่วมในรอบการระดมทุนนี้ แต่ในที่สุด Apple ได้ถอนตัวออกจากการเจรจาไป ทำให้การระดมทุนครั้งนี้ยังคงดำเนินไปโดยไม่มีการสนับสนุนจาก Apple อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ OpenAI ยังคงน่าจับตามอง

รายได้ของ OpenAI

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา OpenAI มีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 300 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะมีรายได้รวมถึง 3.7 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ แม้ว่าบริษัทจะยังคงคาดการณ์ว่าจะขาดทุนถึง 5 พันล้านดอลลาร์จากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการพัฒนา AI แต่การระดมทุนเพิ่มเติมก็จะช่วยให้ OpenAI สามารถเดินหน้าต่อไปได้

จากรายได้ประจำปี 3.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่มาจากการสมัครสมาชิก ChatGPT คิดเป็นมูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้อีก 1 พันล้านดอลลาร์มาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใช้ API ของ OpenAI เพื่อนำ AI ไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ของตนเอง

OpenAI คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นถึงสามเท่าในปีหน้า โดยมีเป้าหมายรายได้ 11.6 พันล้านดอลลาร์ แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทจะสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างไร แต่แผนการในปี 2029 ที่ ChatGPT+ จะมีราคาสูงถึง $44 ต่อเดือนนั้น OpenAI ตั้งเป้าว่ารายได้จะพุ่งสูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปีดังกล่าว

ส่วนแบ่งหุ้นของ Sam Altman

Sam Altman ซึ่งเป็น CEO ของ OpenAI มีแนวโน้มที่จะได้รับส่วนแบ่งหุ้นในบริษัทเป็นครั้งแรก คิดเป็น 7% ของหุ้นทั้งหมด ซึ่งหากเป็นไปตามรายงาน หุ้นนี้จะมีมูลค่าประมาณ 10.5 พันล้านดอลลาร์ นี่เป็นผลจากเหตุการณ์ภายใน OpenAI ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งในปีที่ผ่านมา

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Sam Altman ถูกคณะกรรมการบริหารของ OpenAI ไล่ออก เนื่องจากการสื่อสารที่ไม่โปร่งใส ซึ่งทำให้เกิดกระแสการประท้วงจากพนักงานหลายร้อยคนเพื่อสนับสนุนเขา ในที่สุด Altman ก็ได้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งหลังจากมีการปรับปรุงคณะกรรมการใหม่ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้ผู้บริหารระดับสูงหลายคนลาออก ไม่ว่าจะเป็น Mira Murati (CTO) หรือ Ilya Sutskever (นักวิทยาศาสตร์ด้าน AI) และคนอื่น ๆ อีกมากมาย

แม้ OpenAI จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ แต่ความท้าทายภายในและภายนอกยังคงทำให้หลายคนสงสัยเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท

สรุป

OpenAI กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับราคาของ ChatGPT+ หรือการขยายความร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นอกจากนี้ การเติบโตของ OpenAI ยังทำให้บริษัทมีเป้าหมายทางการเงินที่ทะเยอทะยานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในวงการ AI ที่เพิ่มสูงขึ้นจะเป็นสิ่งที่ท้าทายให้ OpenAI ต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด

Advertisement

กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
Advertisement

Tanjen S.

ติดตามข่าวสารล่าสุดในวงการไอทีและเกมส์ วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอเป็นบทความข่าวที่น่าสนใจ อ่านง่าย และเข้าใจง่าย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button