เทคโนโลยี AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเรา ทั้งในแง่บวกและลบ มาดูกันว่าเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างที่เกิดขึ้นในวงการ AI ช่วงที่ผ่านมา
Google พลาดท่าด้วยโฆษณา AI ในโอลิมปิก
ใครๆ ก็พูดถึงการใช้ AI ในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ทั้งเพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้ผู้ชมและนักกีฬา รวมถึงจัดการด้านความปลอดภัย แต่ดูเหมือนว่า Google จะพลาดท่าไปแล้วกับโฆษณาชุดใหม่ที่นำเสนอ Chatbot Gemini ของบริษัท
โฆษณาชุด “Dear Sydney” เล่าเรื่องราวของแฟนคลับตัวน้อยที่เขียนจดหมายถึงนักกีฬาในดวงใจ Sydney McLaughlin-Levrone แต่แทนที่จะให้เด็กเขียนด้วยตัวเอง พ่อกลับใช้ Gemini เขียนจดหมายแทน โดยอ้างว่าต้องการให้จดหมาย “สมบูรณ์แบบ”
โฆษณานี้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลายคนมองว่าเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆ หยุดเขียนและวาดภาพด้วยตัวเอง เพียงเพราะผลงานของ AI ดูดีกว่า Google ตัดสินใจถอนโฆษณานี้ออกจากการฉายในช่วงโอลิมปิกแล้ว
กฎหมาย AI ของสหภาพยุโรปมีผลบังคับใช้แล้ว
หลังจากเสนอร่างมา 4 ปี ในที่สุดกฎหมาย AI Act ของสหภาพยุโรปก็มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา กฎหมายนี้มีจุดประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงจาก AI โดยกำหนดกรอบการพัฒนาและกฎความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
กฎหมายนี้ส่งผลกระทบต่อทุกบริษัทที่ทำธุรกิจในสหภาพยุโรป รวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Google, OpenAI, Microsoft ฯลฯ โดยกำหนดให้ระบบ AI ต้องเคารพลิขสิทธิ์ของสหภาพยุโรป เปิดเผยข้อมูลการฝึกฝนโมเดล และทำการทดสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
บทลงโทษสำหรับการฝ่าฝืนกฎหมายนี้สูงถึง 35 ล้านยูโร หรือ 7% ของรายได้ทั่วโลกต่อปี แล้วแต่ว่าจำนวนไหนจะสูงกว่า
ในขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาก็กำลังพิจารณาออกกฎหมายควบคุม AI เช่นกัน แต่ก็ยังมีความกังวลว่าการออกกฎหมายอาจส่งผลกระทบต่อนวัตกรรมในวงการ AI
Microsoft และสำนักลิขสิทธิ์สหรัฐฯ เรียกร้องให้ควบคุม Deepfake
Microsoft เรียกร้องให้สหรัฐฯ ออกกฎหมายควบคุมการใช้ Deepfake โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและการบิดเบือนข้อมูล ในขณะเดียวกัน สำนักลิขสิทธิ์สหรัฐฯ ก็ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับประเด็นทางกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์และ AI โดยเฉพาะในเรื่อง Deepfake
รายงานระบุว่า Deepfake มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในแง่บวก มันสามารถช่วยเพิ่มการเข้าถึงสำหรับคนพิการ สร้างสรรค์ผลงาน หรือช่วยให้ศิลปินสามารถอนุญาตให้ใช้เสียงหรือภาพลักษณ์ของตนเองได้ แต่ในทางลบ มันอาจทำให้นักแสดงหรือศิลปินสูญเสียงานหรือรายได้ และอาจถูกใช้ในการสร้างข้อมูลเท็จหรือการฉ้อโกง
สำนักลิขสิทธิ์เสนอให้รัฐสภาออกกฎหมายใหม่เพื่อคุ้มครองประชาชนจากการเผยแพร่ภาพเสมือนดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต
OpenAI ทดลองฟีเจอร์แชทด้วยเสียงใน ChatGPT
OpenAI เริ่มทดลองฟีเจอร์ “Advanced Voice Mode” กับผู้ใช้ ChatGPT Plus บางส่วนแล้ว ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสนทนากับ ChatGPT ด้วยเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดย AI สามารถรับรู้อารมณ์และตอบสนองได้ ผู้ใช้สามารถขัดจังหวะการสนทนาได้ด้วย
OpenAI ยืนยันว่า ChatGPT ไม่สามารถเลียนแบบเสียงของบุคคลอื่นได้ และได้เพิ่มตัวกรองเพื่อป้องกันการใช้งานที่ละเมิดลิขสิทธิ์เสียง ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ผู้ใช้ ChatGPT Plus ใช้งานมากขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
ข่าวสั้น AI น่าสนใจ
- Colin Kaepernick อดีต QB ของ NFL เปิดตัวแพลตฟอร์ม Lumi เพื่อช่วยให้นักเล่าเรื่องและครีเอเตอร์ใช้ AI สร้างสรรค์ผลงาน โดยเฉพาะในด้านหนังสือการ์ตูนและมังงะ
- Perplexity บริษัท AI search ประกาศโครงการแบ่งปันรายได้กับสำนักข่าวต่างๆ หลังถูกกล่าวหาว่าคัดลอกเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์
- Meta เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างตัวละคร AI หรือคู่แฝด AI ของตัวเองบน Instagram, Messenger และ WhatsApp เพื่อตอบข้อความแทนตัวจริง
สรุป
เทคโนโลยี AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย การควบคุม AI อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ AI จะนำมาสู่ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นในด้านการทำงาน การสื่อสาร หรือแม้แต่การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม