Twitter ประกาศมาตรการจัดการบัญชีปลอมที่สร้างขึ้นมาเพื่อการสแปมหรือมุ่งร้ายต่อผู้ใช้ โดยเพิ่มมาตรการสำคัญคือการยืนยันอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ก่อนเริ่มใช้งานเสมอ นอกจากการยืนยันตัวตนแล้ว ทวิตเตอร์ยังมีมาตรการเสริม เช่น เมื่อตรวจจับได้ว่าบัญชีเป็นสแปมจะลดปริมาณทวิตที่ผู้ใช้อื่นมองเห็น และถอดชื่อออกจาก follower ของผู้ใช้ที่บัญชีเหล่านี้ไป follow ไว้ (ทำให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งเห็นจำนวน follower ลดลง) อีกมาตรการคือตรวจสอบบัญชีเดิม หากบัญชีถูกสร้างด้วยระบบอัตโนมัติก็จะถูกถอดออก และสุดท้ายคือการตรวจสอบพฤติกรรมเช่นว่ามีการทวีต hashtag บางอย่างจนผิดปกติหรือไม่ หากตรวจพบอาจจะถูกบังคับให้กรอก reCAPTCHA หรือบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน การปรับปรุงครั้งนี้ทวิตเตอร์เปิดมาตรการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน ที่รองรับกุญแจ U2F แล้วนับเป็นบริการหลักล่าสุดที่รองรับ หลังจากกูเกิลและเฟซบุ๊กรองรับไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะนี้ Twitter มุ่งเป้าไปที่การกำจัดบัญชีบอตออกจากระบบเสียก่อนโดยใช้วิธีการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานของบัญชีเหล่านี้ว่าเข้าข่ายส่งข้อความสแปมเป็นจำนวนมากหรือไม่ โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมทาง Twitter ได้แจ้งให้ผู้ใช้งานราว 9.9 ล้านบัญชีที่เข้าข่ายน่าสงสัยยืนยันตัวตนด้วยอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์
@Twitter เสียผู้ติดตาม 8 ล้านบัญชี (-12%)
@aplusk เสียผู้ติดตาม 1 ล้านบัญชี (-6%)
@narendramodi เสียผู้ติดตาม 3 ล้านบัญชี (-7%)
@BarackObama เสียผู้ติดตาม 3 ล้านบัญชี (-3%)
@KimKardashian เสียผู้ติดตาม 3 ล้านบัญชี (-5%)
@PaulKagame เสียผู้ติดตาม 600 แสนบัญชี (-33%)
@kathyireland เสียผู้ติดตาม 1 ล้านบัญชี (-76%)
ที่มาข่าว – Blognone