ความรู้ Tech

Developer คืออะไร? ทุกสิ่งที่เพื่อนต้องรู้ในยุคดิจิทัล

เคยสงสัยกันไหมว่า “Developer” ที่เราได้ยินบ่อยๆ ในยุคดิจิทัลนี่มันคืออะไรกันแน่? ถ้าให้พูดแบบง่ายๆ มันคือคนที่อยู่เบื้องหลังแอปฯ ที่เราใช้ทุกวัน เว็บไซต์ที่เราเข้าไปเช็คข้อมูล หรือแม้แต่เกมที่เราเล่นแก้เบื่อ แต่ถ้าจะเล่าให้ลึกกว่านั้น มันไม่ใช่แค่คนเขียนโค้ดนะ มันคือคนที่ช่วยเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นของจริงได้ด้วยเทคโนโลยี! วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่า Developer คืออะไร ทำอะไรบ้าง แล้วทำไมถึงสำคัญกับชีวิตเราขนาดนี้

สมัยนี้ไม่ว่าเราจะสั่งอาหารผ่านแอปฯ ดูหนังออนไลน์ หรือแม้แต่จองตั๋วเครื่องบิน ทุกอย่างล้วนมี Developer คอยสร้างและดูแลให้มันเวิร์ก ลองนึกภาพดูสิ ถ้าไม่มีคนเก่งๆ พวกนี้ โลกเราคงไม่สะดวกสบายแบบทุกวันนี้แน่ๆ บทความนี้จะพาไปรู้จัก Developer แบบเจาะลึก ทั้งประเภท หน้าที่ และเคล็ดลับสำหรับคนที่อยากลองเป็น Developer ด้วยตัวเอง รับรองว่าเข้าใจง่าย

บอกเลยว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของคนในวงการไอทีเท่านั้นนะ เพราะไม่ว่าเราจะทำงานอะไรหรือสนใจอะไร การรู้จัก Developer จะช่วยให้เราเข้าใจโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวันได้ดีกว่าเดิม พร้อมแล้วใช่ไหม? ไปลุยกันเลย!

Developer คืออะไร?

Developer คืออะไร?

Developer หรือ นักพัฒนา คือ บุคคลหรือทีมงานที่มีหน้าที่ในการสร้าง พัฒนา และปรับปรุงซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี โดย Developer จะใช้ความรู้ทางด้านการเขียนโปรแกรม (Programming) และทักษะทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้

Developer สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามหน้าที่และเทคโนโลยีที่ใช้ เช่น

บทความที่เกี่ยวข้อง
Advertisement
  1. Web Developer: ผู้พัฒนาที่ทำงานเกี่ยวกับเว็บไซต์ โดยอาจแบ่งย่อยเป็น Front-end Developer (พัฒนาเรื่องการแสดงผลและส่วนติดต่อผู้ใช้) และ Back-end Developer (พัฒนาเรื่องระบบและฐานข้อมูล)
  2. Mobile App Developer: ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ เช่น แอปบน iOS หรือ Android
  3. Software Developer: ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับคอมพิวเตอร์หรือระบบต่าง ๆ
  4. Game Developer: ผู้พัฒนาเกมสำหรับแพลตฟอร์มต่าง ๆ
  5. DevOps Engineer: ผู้พัฒนาที่ทำงานร่วมกับการดูแลระบบและกระบวนการอัตโนมัติ

การเป็น Developer นั้นจำเป็นต้องมีทักษะด้านการเขียนโค้ด เช่น HTML, CSS, JavaScript, Python, Java หรือภาษาอื่น ๆ รวมถึงความเข้าใจในหลักการทำงานของระบบและความสามารถในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ Developer ยังต้องมีการอัปเดตความรู้อยู่เสมอ เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกันผ่านเทคโนโลยี Developer จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชีวิตประจำวันของเรา

Developer มีกี่แบบ?

ประเภทของ Developer ที่เจอบ่อย

ถ้าคิดว่า Developer มีแค่แบบเดียว บอกเลยว่าคิดผิดแล้วล่ะ! Developer มีหลายสายเลยนะ แต่ละสายก็เก่งกันคนละแบบ เริ่มจาก Web Developer กันก่อนเลย พวกนี้คือคนที่สร้างเว็บไซต์ให้เราเข้าไปใช้งานได้ ไม่ว่าจะหน้าเว็บสวยๆ หรือระบบหลังบ้านที่ทำให้มันรันได้แบบลื่นๆ ต่อมาคือ Mobile Developer คนที่เนรมิตแอปฯ บนมือถือขึ้นมา เช่น แอปธนาคารหรือแอปแต่งรูปที่เราชอบเล่น

แล้วก็มี Software Developer ที่เน้นเขียนโปรแกรมใหญ่ๆ อย่างซอฟต์แวร์ที่เราใช้ในคอมพิวเตอร์ หรือระบบที่บริษัทใหญ่ๆ ใช้กัน อีกสายที่เจ๋งไม่แพ้กันคือ Game Developer คนที่ชอบเล่นเกมต้องขอบคุณคนกลุ่มนี้เลย เพราะเขาคือคนสร้างโลกในเกมให้เราสนุกได้แบบไม่รู้จบ สุดท้ายที่อยากชี้เป้าให้รู้คือ DevOps Developer ที่คอยดูแลระบบให้ทุกอย่างรันได้ไม่มีสะดุด คล้ายๆ ผู้พิทักษ์เบื้องหลังเลยล่ะ

แต่ละสายต่างกันยังไง?

ความต่างมันอยู่ที่เป้าหมายของงานนะ ถ้า Web Developer เน้นออนไลน์ Mobile Developer ก็เน้นมือถือ ส่วน Software Developer อาจจะครอบคลุมกว่านั้นหน่อย เพราะบางทีก็ทำได้ทั้งเว็บทั้งแอปฯ เลย แล้วอย่าง Game Developer นี่ต้องเก่งทั้งโค้ดและการออกแบบด้วย ถึงจะสร้างเกมที่คนติดได้ ส่วน DevOps จะเน้นที่ระบบมากกว่า ไม่ได้สร้างอะไรให้เราเห็นตรงๆ แต่ถ้าระบบล่มเมื่อไหร่ จะรู้เลยว่าขาดเขาไม่ได้จริงๆ

แล้วต้องเก่งแค่ไหนถึงเป็นได้?

จริงๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะยากเกินไปนะ เพราะ Developer แต่ละสายเริ่มจากพื้นฐานคล้ายๆ กันหมด คือต้องรู้ภาษาคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกว่า “โค้ด” แต่ถ้าเราสนใจสายไหนเป็นพิเศษ ก็แค่ฝึกฝนเพิ่มในส่วนนั้น เช่น อยากทำเกมก็ไปเรียนรู้เครื่องมืออย่าง Unity หรือ Unreal Engine สายเว็บก็ลองหัด HTML, CSS ก่อน ง่ายๆ เลย

ทำไมต้องรู้จักประเภทพวกนี้?

การรู้ว่า Developer มีกี่แบบมันช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าโลกเทคโนโลยีมันกว้างแค่ไหน แล้วถ้าอยากจ้างคนมาทำโปรเจกต์ เช่น ทำแอปฯ ขายของ ก็จะได้เรียกถูกคน ไม่ใช่ไปจ้าง Game Developer มาทำเว็บ ซึ่งมันคนละเรื่องกันเลย บอกเลยว่ารู้ไว้ไม่เสียหายจริงๆ

ที่เล่ามาทั้งหมดนี่แค่ส่วนหนึ่งนะ ถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้ ลองไปเสิร์ชเพิ่มเติมดูได้

Developer ทำอะไรบ้าง? งานที่มากกว่าแค่เขียนโค้ด

หน้าที่หลักที่ต้องรู้

อาจจะคิดว่า Developer แค่นั่งเขียนโค้ดทั้งวัน แต่จริงๆ งานเขามีอะไรมากกว่านั้นเยอะเลยนะ หลักๆ เลยคือการออกแบบและสร้างซอฟต์แวร์หรือระบบขึ้นมา เช่น ถ้าเป็น Web Developer เขาก็ต้องวางโครงเว็บ ใส่ฟังก์ชันให้ใช้งานได้ แถมต้องทดสอบว่ามันเวิร์กจริงไหมด้วย

ขั้นตอนที่ซ่อนอยู่

ก่อนจะเขียนโค้ดได้เนี่ย Developer ต้องคุยกับคนอื่นก่อน เช่น ทีมออกแบบหรือลูกค้า เพื่อรู้ว่าเขาอยากได้อะไรบ้าง จากนั้นก็วางแผนว่าใช้เทคโนโลยีอะไร ภาษาไหนถึงจะเหมาะ พอทำเสร็จก็ยังไม่จบ เพราะต้องเช็คบั๊ก แก้ไข และอัปเดตให้ทันสมัยตลอดเวลา เห็นไหมว่างานเขาไม่ใช่แค่พิมพ์ๆ จบ

ทักษะที่ขาดไม่ได้

นอกจากเขียนโค้ดเก่งแล้ว Developer ต้องแก้ปัญหาเก่งด้วย เพราะโค้ดมันไม่เคยสมบูรณ์แบบตั้งแต่แรก ต้องเจอปัญหาตลอด เช่น เว็บโหลดช้า แอปฯ เด้ง หรือระบบล่ม เขาต้องหาทางแก้ให้ได้เร็วๆ แล้วยังต้องทำงานเป็นทีมเก่งด้วย เพราะโปรเจกต์ใหญ่ๆ ไม่มีใครทำคนเดียวได้แน่นอน

ตัวอย่างงานจริงให้เห็นภาพ

สมมติเราใช้แอปสั่งอาหาร Delivery สักตัว Developer คือคนที่ทำให้เรากดเลือกเมนูได้ จ่ายตังค์ได้ และแจ้งเตือนร้านได้แบบเรียลไทม์ หรืออย่างเว็บ Google ที่เราใช้ทุกวัน ก็มีทีม Developer คอยดูแลให้มันเร็วและแม่นยำแบบที่เราเห็นนี่แหละ

งานหนักแต่ก็สนุกนะ

บางคนอาจจะบอกว่างาน Developer มันเครียด เพราะต้องแก้โค้ดดึกๆ ดื่นๆ แต่ถ้าถามคนที่รักงานนี้จริงๆ เขาจะบอกว่ามันเหมือนได้แก้ปริศนาทุกวันเลย ได้เห็นผลงานตัวเองถูกใช้งานจริงๆ มันภูมิใจมากเลยนะ

อยากเป็น Developer ต้องเริ่มยังไง?

เริ่มจากศูนย์ก็ได้ ไม่ต้องกลัว

ถ้าสนใจอยากลองเป็น Developer บอกเลยว่าไม่ต้องมีพื้นฐานก็เริ่มได้! สิ่งแรกที่ต้องทำคือเลือกสายที่ชอบก่อน เช่น อยากทำเว็บ ทำแอปฯ หรือทำเกม จากนั้นก็หาคอร์สออนไลน์ฟรีๆ มาลองเรียนดู มีเยอะเลยใน YouTube หรือเว็บอย่าง Coursera

ภาษาไหนที่ควรหัด

พื้นฐานที่แนะนำคือ Python เพราะมันง่ายสำหรับมือใหม่ หรือถ้าอยากทำเว็บก็ลอง JavaScript กับ HTML/CSS ส่วนสายแอปฯ มือถืออาจจะเริ่มที่ Swift (สำหรับ iOS) หรือ Kotlin (สำหรับ Android) ลองเลือกอันที่ถูกใจแล้วค่อยๆ ฝึกไป

ฝึกยังไงให้เก่ง

วิธีที่เราแนะนำคือ ทำโปรเจกต์เล็กๆ เองเลย เช่น ลองทำเว็บส่วนตัว หรือแอปจดโน้ตง่ายๆ ยิ่งทำเยอะยิ่งเก่ง แถมยังเอาไปโชว์ตอนสมัครงานได้ด้วย แล้วอย่าลืมเข้าไปดูในกลุ่ม Developer ด้วยนะ มีคนแชร์ทริคดีๆ เยอะเลย

เครื่องมือที่ต้องรู้จัก

นอกจากภาษาโค้ดแล้ว Developer ต้องรู้จักเครื่องมืออย่าง Git (ไว้จัดการโค้ด) หรือ IDE อย่าง VS Code ที่ช่วยให้เขียนโค้ดง่ายขึ้น ลองโหลดมาหัดใช้ดู รับรองว่าไม่ยากเกินไป

ใช้เวลานานไหมถึงจะเก่ง?

จริงๆ มันขึ้นอยู่กับเราเลย ถ้าฝึกทุกวัน วันละ 1-2 ชั่วโมง ภายใน 6 เดือนก็เริ่มเก่งได้แล้ว แต่ถ้าอยากไปให้ถึงระดับโปร อาจจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี แล้วก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยนตลอด

ข้อดีที่จะได้

ถ้าเป็น Developer ได้ รับรองว่างานไม่ขาดแน่นอน เพราะทุกบริษัทตอนนี้ต้องการคนสายนี้หมด แถมเงินดีด้วยนะ บางคนถึงขั้นทำงานฟรีแลนซ์ หาเงินจากทั่วโลกได้เลย

ทิ้งท้าย

เอาล่ะ คงเริ่มเห็นภาพชัดแล้วว่า Developer คือคนที่สร้างและดูแลเทคโนโลยีที่เราใช้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเว็บ แอปฯ เกม หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ เขาคือคนที่ทำให้โลกเราสะดวกขึ้น เร็วกว่าเดิม และสนุกกว่าเดิมเยอะเลย ถ้าไม่มี Developer เราคงยังต้องเขียนจดหมายหรือไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์กันอยู่แน่ๆ บอกเลยว่าอาชีพนี้มันเจ๋งและสำคัญมากในยุคนี้

ที่สำคัญ ถ้าสนใจอยากลองเป็น Developer เอง อย่ากลัวที่จะเริ่มเลยนะ ไม่ต้องเก่งตั้งแต่แรก แค่มีความอยากรู้อยากลองก็พอแล้ว ลองหัดเขียนโค้ดสักหน่อย ทำโปรเจกต์เล็กๆ แล้วค่อยๆ พัฒนาไป รับรองว่ามันจะเปิดโลกใหม่ให้แน่นอน

สุดท้ายนี้ ถ้าชอบเรื่องที่เราเล่ามา อย่าลืมแชร์ให้คนอื่นด้วยนะ หรือจะมาคอมเมนต์บอกเราก็ได้ว่าอยากรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติม เดี๋ยวเราไปหามาเล่าให้ฟังอีก! โลกของ Developer มันกว้างมาก เราเพิ่งเริ่มต้นกันแค่นี้เอง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

Advertisement
กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

Am J.

เป็นนักเขียนเนื้อหาออนไลน์อิสระ มีความสนใจในการเขียนงานทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบทความ บทสัมภาษณ์ บทวิจารณ์ หรืองานสร้างสรรค์อื่น ๆ มีความถนัดในการเขียนงานที่เป็นข้อมูลเชิงลึก เข้าใจง่าย และให้ข้อมูลแก่ผู้อ่านอย่างครบถ้วน ยังชอบที่จะเขียนงานในรูปแบบที่สร้างสรรค์และดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน เชื่อว่างานเขียนที่ดีควรสามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าติดตาม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button