Pinterest คืออะไร? สุดยอดแพลตฟอร์มค้นหาไอเดียสร้างสรรค์

สมัยนี้ใครที่กำลังหาไอเดียเจ๋ง ๆ หรือแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ไปต่อยอดงานสร้างสรรค์ อาจเคยเลื่อนดูภาพสวย ๆ ในเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือค้นหาผ่าน Google แต่ยังไม่โดนใจเท่าไร การเจอรูปหรือวิดีโอที่ตรงเป๊ะกับสิ่งที่คิดไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย จนบางครั้งกว่าจะได้แนวคิดดี ๆ ก็เสียเวลาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เมื่อเปิดใจให้ Pinterest คุณจะได้ค้นพบโลกแห่งการรวบรวมรูปภาพ วิดีโอ และไอเดียใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์แทบทุกหมวดหมู่อย่างไม่น่าเชื่อ

ในบทความนี้ เราจะมาชวนทำความรู้จักกับ Pinterest ในทุกมิติ ตั้งแต่ฟีเจอร์พื้นฐานไปจนถึงการประยุกต์ใช้งานอย่างเหมาะสม ไม่ว่าคุณจะเป็นคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เจ้าของธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้า นักออกแบบ หรือสายสร้างแบรนด์ ก็สามารถใช้ Pinterest เป็นทางลัดสู่แรงบันดาลใจใหม่ ๆ และใช้เพื่อขยายธุรกิจให้ก้าวกระโดดได้อย่างน่าทึ่ง

ลองจินตนาการว่า หากมีช่องทางโซเชียลที่คัดสรรแต่เรื่องราวไอเดียสุดสร้างสรรค์จุใจ และยังมีผู้ใช้งานมากมายที่คอยแบ่งปันแรงบันดาลใจต่าง ๆ กันอย่างต่อเนื่อง ถ้าวันนี้คุณยังไม่เคยสัมผัส Pinterest บทความนี้จะช่วยเปิดประตูพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่พร้อมจุดประกายจินตนาการและเปิดเส้นทางใหม่ ๆ ในการพัฒนาไอเดียได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ทำความรู้จัก Pinterest คืออะไร

Pinterest มาจากการผสมคำว่า “Pin” (ปักหมุด) และ “Interest” (ความสนใจ) ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว มีความหมายถึง “การปักหมุดหรือบันทึกสิ่งที่คุณสนใจลงบนบอร์ดที่คุณสร้างขึ้นเอง” โดย Pinterest ถูกออกแบบมาในฐานะเครือข่ายโซเชียลและเครื่องมือค้นหารูปภาพ วิดีโอ ไอเดีย และข้อมูลต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในแง่ของการหาแรงบันดาลใจ ความสร้างสรรค์ และการแบ่งปันผลงาน

ยกตัวอย่างง่าย ๆ เมื่อคุณต้องการ “จัดตกแต่งห้องนอน” เพียงพิมพ์คำค้นหาในแถบ Search ของ Pinterest ภาพตัวอย่างงานตกแต่งสวย ๆ หลายพันไอเดียจะถูกนำมาเสนอทันที คุณสามารถปักหมุด (Pin) เก็บไว้ดูซ้ำ หรือ “Re-Pin” ไอเดียของคนอื่นเก็บเป็นหมวดหมู่ใน Board ส่วนตัวได้อย่างเป็นระเบียบ

Pinterest เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปลายปี 2009 แต่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังและกลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในภายหลัง โดยจุดแข็งที่ทำให้ Pinterest โดดเด่นกว่าโซเชียลมีเดียอื่น ๆ คือการนำเสนอคอนเทนต์เป็นภาพ (Visual-based) จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการค้นหาไอเดียและแรงบันดาลใจด้านแฟชั่น การออกแบบ การถ่ายภาพ งาน DIY สูตรอาหาร และอีกมากมาย

เหตุผลที่ Pinterest กลายเป็นแหล่งหาแรงบันดาลใจอันดับต้น ๆ

1. เน้นการใช้งานรูปภาพและวิดีโอ: Pinterest เหมาะกับสายสร้างสรรค์ที่ต้องการแรงบันดาลใจจากภาพสวยงามหรือวิดีโอสั้น ๆ ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่มักเน้นข้อความหรือบทสนทนา
2. ระบบการจัดเก็บด้วยกระดาน (Board): ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Board แยกเป็นแต่ละหมวดหมู่ เช่น บอร์ดแฟชั่น บอร์ดสูตรอาหาร บอร์ด DIY ทำให้ง่ายต่อการเก็บและกลับมาดูอีกครั้ง
3. สนับสนุนการค้นหา (Search) ทุกรูปแบบ: ภายใน Pinterest มีระบบค้นหาที่แยกตามหมวดหมู่เทรนด์ เช่น Home Decor, Travel, Quotes ฯลฯ ผู้ใช้จึงเลือกดูหรือพิมพ์ค้นหาคีย์เวิร์ดได้อย่างอิสระ
4. คอมมูนิตี้เชิงบวก: บรรยากาศของ Pinterest มีความครีเอทีฟและเป็นกันเอง คนใช้ Pinterest มักอยู่ในโหมดสร้างสรรค์ แบ่งปันสิ่งที่ตนเจอหรือนำเสนอผลงานด้วยเจตนาดี เมื่อบรรยากาศเป็นบวก ก็ยิ่งเชื้อเชิญให้เกิดการแลกเปลี่ยนไอเดียอย่างกว้างขวาง
5. เหมาะกับสายคอนเทนต์ ครีเอเตอร์: นักออกแบบ ศิลปิน ช่างภาพ อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ที่ต้องสร้างผลงานใหม่ ๆ อยู่เสมอจะพบว่าการเสิร์ชหรือส่องเทรนด์ใน Pinterest ช่วยต่อยอดความคิดได้โดยไม่ตีบตัน

ฟีเจอร์สำคัญที่ต้องรู้ในการใช้งาน Pinterest

1. Pin และ Re-Pin

• Pin: เป็นการปักหมุดรูปภาพหรือวิดีโอเก็บไว้ในโปรไฟล์ของคุณ โดย Pinterest จะเรียกกระบวนการนี้ว่า “Pin” เหมือนการบันทึก URL โดนใจ หรือรูปสวย ๆ ที่คุณเจอเข้าไว้ในคลังส่วนตัว
• Re-Pin: หากเจอภาพที่ผู้ใช้อื่นปักหมุดไว้ และคุณต้องการเก็บเป็นไอเดียบ้าง คุณสามารถกด “Re-Pin” ลงบอร์ดของคุณเองได้

2. Board

Board เหมือน “อัลบั้มภาพ” หรือ “บอร์ดหมุด” เพื่อจัดเก็บทุกไอเดียที่คุณเจอออนไลน์ คุณสามารถสร้าง Board หลาย ๆ อันได้ตามต้องการ เช่น ไอเดียแต่งบ้าน, แรงบันดาลใจแฟชั่น, สูตรอาหารคลีน, DIY, งานฝีมือ, แนวคิดแต่งร้าน, และอื่น ๆ

3. การค้นหา (Search)

Pinterest มีช่องค้นหาให้คุณพิมพ์คีย์เวิร์ด หรือจะเลือกดูจากแท็บต่าง ๆ โดยระบบจะดึงไอเดีย รูปภาพ วิดีโอ และ on-trend ให้ผู้ใช้ส่องกันแบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไอเดียเร่งด่วน หรืออยากอัปเดตเทรนด์

4. การติดตาม (Follow)

คุณสามารถกดติดตามโปรไฟล์หรือกระดานของผู้ใช้คนอื่นได้ หากชอบสไตล์หรือแนวคิดของเขา เพื่อรับการอัปเดต Pin ใหม่ ๆ อยู่เสมอ

5. การสร้างเนื้อหาเอง (Upload Pin)

คุณไม่จำเป็นต้อง Repin ของคนอื่นเพียงอย่างเดียว หากมีผลงานหรือรูปของตัวเอง ก็สามารถอัปโหลดขึ้น Pinterest ได้ ช่วยเปิดช่องทางให้คนอื่นเห็นผลงานคุณมากขึ้น

Pinterest เหมาะกับใคร?

1. คอนเทนต์ ครีเอเตอร์

คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นสายเขียนบทความ งาน DIY หรือวิดีโอ ในแต่ละวันต้องผลิตผลงานใหม่ ๆ เสมอ บางครั้งเราต้องหาแรงกระตุ้นความคิด หากไม่อยากตีบตัน Pinterest คือขุมทรัพย์ไอเดียที่สามารถพลิกแพลงนำมาใช้ต่อได้

2. อินฟลูเอนเซอร์

อินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก online มักต้องคอยอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ เพื่อผลิตคอนเทนต์น่าสนใจ Pinterest ช่วยให้ค้นหางานแฟชั่น ถ่ายภาพ สินค้าฮิต หรือไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ มาอ้างอิงหรือร่วมสร้างแรงบันดาลใจได้

3. ดีไซเนอร์หรือนักออกแบบ

สายดีไซน์ต้องใช้ “Mood Board” หรือ “Reference” เป็นประจำ ทั้งอาชีพ Interior Designer, Fashion Designer, Graphic Designer ฯลฯ หากต้องการลูกเล่นหรือไอเดียงานศิลปะใหม่ Pinterest มีคลังรูปและแนวคิดระดับมหาศาลที่พร้อมให้เลือกหยิบไปผสมผสาน

4. พ่อค้า แม่ค้า

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หรือออฟไลน์เองก็ใช้ Pinterest หาไอเดียการจัดเรียงสินค้า การตกแต่งหน้าร้าน หรือการทำคอนเทนต์ภาพสวย ๆ เพื่อโปรโมตธุรกิจ ยิ่งถ้าอยากเพิ่มเอกลักษณ์ให้ร้านค้าดูน่าดึงดูด แบบร้านกาแฟสไตล์มินิมอล หรือร้านเสื้อผ้าใน Instagram ก็สามารถใช้ Pinterest เป็นคู่มือชั้นเยี่ยมได้

วิธีสมัครและเริ่มต้นใช้งาน Pinterest

1. สมัครสมาชิก: ไปที่เว็บไซต์ Pinterest หรือดาวน์โหลดแอปบนมือถือ เลือกลงทะเบียนด้วยอีเมล เฟซบุ๊ก หรือบัญชี Google ก็ได้
2. ตั้งโปรไฟล์: กรอกชื่อผู้ใช้ ใส่รูปโปรไฟล์ ประเภทหมวดหมู่ที่สนใจ เช่น ไอเดียอาหาร แฟชั่น กีฬา ฯลฯ
3. เริ่ม Pin: ค้นหาในช่อง Search แล้วเจอรูปสวย ๆ ไอเดียโดนใจ ก็ปักหมุดเก็บไว้ที่กระดานของคุณ
4. สร้าง Board ใหม่: จัดหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบ เช่น “เมนูอาหารเช้า” “สไตล์การแต่งตัว” หรือ “ไอเดียตกแต่งห้องครัว” เพื่อเข้ามาดูหรืออัปเดตได้สะดวก
5. Upload Pin เอง: ถ้าคุณมีผลงาน แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือภาพ DIY เจ๋ง ๆ ก็อัปโหลดเป็น Pin ของตัวเองได้ พร้อมใส่ลิงก์หรือคำบรรยายเพื่อโปรโมต

เคล็ดลับการค้นหาไอเดียให้ง่ายและแม่นยำ

1. ใช้คีย์เวิร์ดเฉพาะ: แทนที่จะค้นด้วยคำกว้าง ๆ เช่น “Fashion” ลองปรับให้เจาะจงขึ้นเช่น “Street Fashion for Summer” หรือ “Minimalist Style for Women” จะช่วยให้ผลลัพธ์เข้าเป้าตรงจุด
2. ดูหมวดหมู่ที่ Pinterest แนะนำ: เมื่อพิมพ์คีย์เวิร์ด Pinterest มักจะแนะนำคีย์เวิร์ดเสริม เช่น “inspiration”, “ideas” หรือ “tutorial” ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณหา
3. ใช้ Related Searches: เมื่อเลื่อนดู Pin จนสุดจะเจอคีย์เวิร์ดอื่น ๆ เสริมอยู่ข้างล่าง ลองกดเข้าไปอาจเจอไอเดียใหม่ที่ตอบโจทย์มากขึ้น

แนวทางใช้ Pinterest ในการขยายธุรกิจและสร้างยอดขาย

แม้ว่า Pinterest จะดูเป็นคอมมูนิตี้เล็ก ๆ สำหรับผลักดันงานสร้างสรรค์ แต่จริง ๆ แล้วถือเป็น Social Media ที่ทรงพลังในแง่การตลาดยุคดิจิทัลเช่นกัน ซึ่งแบรนด์ใหญ่ ๆ ในต่างประเทศให้ความสำคัญ เพราะผู้ใช้ Pinterest คือกลุ่มที่กำลังมองหาไอเดียซื้อสินค้าหรือแรงบันดาลใจ อาจเทียบได้กับ “นักชอปที่อยากได้อะไรใหม่ ๆ” นั่นเอง

1. เพิ่มการมองเห็นสินค้าใหม่

• สร้าง Product Pin ใส่ข้อมูลสินค้า รูปสวย ๆ พร้อมราคา และคำอธิบาย หากผู้ใช้สนใจสามารถคลิกซื้อได้ทันทีหรือกดบันทึกเก็บไว้ในบอร์ดของตัวเอง
• ใช้รูปภาพสินค้าในบริบทการใช้งานจริง เช่น การจับคู่เสื้อผ้าลุคต่าง ๆ หรือการจัดตกแต่งบ้าน เน้นให้เห็นภาพต่อยอด เพื่อกระตุ้นความอยากซื้อ

2. ปรับแต่งโปรไฟล์ให้ดูเป็นแบรนด์มืออาชีพ

• ใส่ข้อมูลโลโก้แบรนด์ ประวัติย่อ ช่องทางการติดต่อ
• ตั้งชื่อกระดานให้เรียกความสนใจ เช่น “เทรนด์แฟชั่น 2025” หรือ “10 ไอเดียแต่งห้องนั่งเล่นให้มีสไตล์”

3. เข้าร่วม Group Board

Group Board คือกระดานที่หลายคนสามารถร่วมกันปักหมุดได้ ลองมองหากระดานที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ เพื่อให้สินค้าถูกเห็นโดยคนที่สนใจในธีมนั้น ๆ

4. อัปโหลดวิดีโอสั้น

การโพสต์วิดีโอใน Pinterest นั้นเป็นอีกหนึ่งเทรนด์มาแรง เช่น คลิปสาธิตใช้งานสินค้าสี่ห้าขั้นตอน คลิป DIY สั้น ๆ หรือคลิปแนะนำคอลเลกชันใหม่ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม

5. Share Link กลับไปยังเว็บไซต์หรือร้านค้า

ข้อดีคือทุกภาพหรือวิดีโอที่เรา Pin ขึ้นไป สามารถใส่ลิงก์กลับมาเว็บไซต์หรือโซเชียลอื่นได้ การปักหมุดสินค้าจึงกลายเป็นการเรียกทราฟฟิกไปยังหน้าร้าน เพิ่มโอกาสปิดการขาย

6. ใช้ Pinterest Analytics ให้เป็นประโยชน์

บัญชีธุรกิจ (Business Account) ใน Pinterest มีตัวเลขสถิติบอกว่า แต่ละ Pin ของคุณมีคนเข้าชม ปักหมุด หรือบันทึกกี่ครั้ง เพื่อปรับใช้ในการวางกลยุทธ์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

เทคนิคเขียนคำอธิบาย (Description) บน Pinterest ให้ดึงดูด

หลังจากที่เราอัปโหลดภาพหรือวิดีโอแล้ว อย่าลืมใส่คำอธิบาย (Description) ลงไปด้วย เพราะเป็นโอกาสให้เราใส่คีย์เวิร์ดและดึงดูดให้ผู้ชมคลิกหรือบันทึก นี่คือเคล็ดลับ:

1. สั้น กระชับ ได้ใจความ: คนส่วนใหญ่ชอบไถดู Pinterest แบบรวดเร็ว ถ้อยคำควรจับประเด็นเด่นให้ได้ในย่อหน้าเดียว
2. ใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง: หากเป็นเรื่องอาหาร ให้ใช้คีย์เวิร์ดเช่น เมนูสุขภาพ, เมนูด่วนตอนเช้า, หรือ อาหารคลีน หากเป็นแฟชั่นอาจใช้ Mix & Match, Street Style, Minimal Look เป็นต้น
3. กระตุ้นให้คลิกต่อ: เขียนเชิญชวนให้ไปดูต่อในเว็บไซต์ หรือ highlight ว่ามีสิ่งที่น่าสนใจรอที่ลิงก์นั้น เช่น “ดูขั้นตอนการทำทั้งหมดได้ในลิงก์” หรือ “คลิกเพื่อชมคอลเลกชันเต็ม”

ใช้ Pinterest อย่างไรให้ติดอันดับในการค้นหา (SEO for Pinterest)

สำหรับการค้นหาใน Pinterest เอง ก็คล้ายกับ SEO ของ Google แต่จะมีฟีเจอร์บางอย่างที่เน้นเฉพาะรูปภาพและบอร์ดต่าง ๆ โดยมีแนวทางดังนี้

1. ใส่คีย์เวิร์ดในชื่อบอร์ด ชื่อ Pin และคำอธิบาย: เพื่อให้ระบบ Pinterest เข้าใจว่าบอร์ดหรือ Pin ของคุณเกี่ยวกับอะไร
2. ตั้งชื่อไฟล์รูปที่อัปโหลด: ถ้าคุณโพสต์รูปเอง ควรเปลี่ยนชื่อไฟล์ให้มีคีย์เวิร์ด เช่น “Minimal-living-room-decor.png” แทน “IMG001.png” เพื่อเพิ่มโอกาสติดการค้นหาภาพ
3. ใช้งานฟีเจอร์ Rich Pins: เป็นฟีเจอร์ที่ข้อมูลจะถูกดึงอัตโนมัติ เช่น ราคา ส่วนลด คำอธิบาย เพื่อให้ Pin ของคุณโดดเด่นกว่าการอัปโหลดปกติ
4. สร้างคอนเทนต์สม่ำเสมอ: อัปเดต Pin บ่อย ๆ และอย่าลืมแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียอื่น
5. อย่าลืม Interact: เช่น กดไลก์ กดแชร์ (Repin) หรือคอมเมนต์ใน Pin ของผู้อื่น จะช่วยสร้างเครือข่ายที่ดีใน Pinterest

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน Pinterest ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

1. สร้าง Mood Board ก่อนเริ่มโปรเจกต์ใหญ่

หากคุณเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในแฟชั่นดีไซเนอร์ หรือนักเรียนสถาปัตย์ ก่อนเริ่มวาดแบบหรือลงมือทำจริง การสร้างบอร์ดใน Pinterest เพื่อรวบรวมแรงบันดาลใจสามารถประหยัดเวลาได้ เพราะไม่ต้องเสียเวลาค้นหาแบบกระจัดกระจายหลายเว็บไซต์

2. สะสมเมนูอาหารและสูตรทำอาหาร

Pinterest ถือเป็นแหล่งรวมภาพอาหาร สูตรอาหาร และวิธีทำอย่างละเอียดขั้นสุด สายทำครัวหรือเปิดร้านอาหารสามารถค้นหาวิธีปรุงเมนูใหม่ ๆ หรือเทคนิคจัดจานได้แบบเต็มอิ่ม

3. ดูเทคนิค DIY และงานฝีมือ

ใครอยาก DIY งานประดิษฐ์เล็ก ๆ เช่น ของขวัญทำมือหรือของตกแต่งบ้าน สามารถหาแนวคิด-ขั้นตอนจาก Pinterest ได้เยอะมาก ราวกับสารานุกรมงาน DIY

4. ต่อยอดการตลาดด้วยการสร้างคาแรกเตอร์

แบรนด์เครื่องสำอางอาจสร้างบอร์ด “Makeup Inspiration สำหรับทุกโอกาส” แล้วเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามา Re-pin Look ที่ใช้สินค้าของแบรนด์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมและส่งต่อการรับรู้

ข้อควรระวังและเคล็ดลับความปลอดภัยในการใช้งาน

1. ระวังการละเมิดภาพลิขสิทธิ์: ภาพใน Pinterest อาจมาจากหลากหลายแหล่ง หากต้องการนำภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ควรตรวจสอบผู้ถือลิขสิทธิ์ก่อน
2. ใส่เครดิตหรือแหล่งที่มา: เมื่อ Repin จากคนอื่น อย่าลืมระบุหรือให้เครดิต เพื่อเป็นการเคารพเจ้าของผลงาน
3. ตั้งบอร์ดแบบส่วนตัว (Secret Board): ถ้าคุณอยากเก็บไอเดียไม่ให้ใครเห็น หรือยังไม่พร้อมเผยแพร่ ก็ทำได้ด้วยการตั้งค่านั้น
4. ก่อนคลิกลิงก์หรือซื้อสินค้า: ควรตรวจสอบเว็บไซต์หรือแบรนด์ที่ลิงก์เอาไว้ ให้มั่นใจว่าเป็นแหล่งน่าเชื่อถือ

ทิ้งท้าย

Pinterest เป็นเหมือนสวรรค์ของคนที่ชอบเสพงานภาพ งานดีไซน์ และไอเดียสร้างสรรค์หลากหลายแบบ แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้แค่ช่วยรวมแรงบันดาลใจเฉพาะด้าน แต่ยังเป็นช่องทางที่คุณสามารถก้าวเข้าไปศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เปิดโอกาสสร้างคอนเทนต์ที่ต่อยอดให้ธุรกิจหรือผลงานของคุณเติบโต และที่สำคัญคือ เป็นพื้นที่ให้คนที่มีใจรักในเรื่องเดียวกันเข้ามาเจอกันได้ง่ายขึ้น

หากคุณอยากเพิ่มยอดขายขยายตลาด เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือแค่หาไอเดียสร้างสรรค์ให้ชีวิตไม่จำเจ Pinterest คือคำตอบที่ทั้ง “ง่าย เร็ว และฟรี” คุณสามารถเริ่มต้นได้ทันที แค่สมัครใช้งาน ค้นหาคีย์เวิร์ดที่สนใจ และกด Pin เพื่อจุดประกายความคิดของคุณ อย่าลืมแบ่งปันประสบการณ์หรือสร้างสรรค์ผลงานลงใน Pinterest เพราะนอกจากคุณจะได้แรงบันดาลใจแล้ว ยังเป็นการส่งต่อไอเดียดี ๆ ให้ผู้อื่นได้ประโยชน์ด้วย

ท้ายที่สุด การลงมือทำต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความเปลี่ยนแปลง หากบทความนี้ช่วยเติมไฟให้คุณรู้จัก Pinterest มากขึ้น อย่ารอช้า ลองเปิดหน้าจอแล้วไปค้นหาอะไรใหม่ ๆ ดู หรือถ้าคุณมีเคล็ดลับหรือเทคนิคสร้างสรรค์ จงลงมือปักหมุด ประกาศบอร์ด เพื่อแชร์ต่อชุมชนพร้อมรับไอเดียอื่น ๆ ตอบกลับ หากบทความนี้โดนใจ ฝากกดแชร์ ส่งต่อ หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการใช้ Pinterest ของคุณได้เลย!