หากคุณเพิ่งซื้อทีวีใหม่ คงคุ้นเคยกับ Filmmaker Mode ในเมนูการตั้งค่า หากเคยลองใช้ อาจมีทั้งชอบและไม่ชอบ ซึ่งไม่แปลก เพราะ Filmmaker Mode นั้นเข้าใจยาก แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดี
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก Filmmaker Mode ทั้งข้อดี-ข้อเสีย, วิธีปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งาน, และโหมดภาพอื่นๆที่น่าสนใจ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ภาพยนตร์เต็มอรรถรสจากทีวีของคุณ
Filmmaker Mode คืออะไร?
UHD Alliance ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, สตูดิโอภาพยนตร์, และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้ให้คำอธิบาย Filmmaker Mode ว่า “เป็นโหมดที่ปิดการทำงานของระบบประมวลผลภาพ เช่น motion smoothing, sharpening, noise reduction, เพื่อให้ภาพที่แสดงออกมาเป็นไปตามที่ผู้กำกับต้องการ”
Filmmaker Mode ทำให้ภาพยนตร์ที่คุณรับชมบนทีวีมีความใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด ด้วยการรักษาอัตราส่วนภาพ, สี, อัตราเฟรมเรต, และปิดระบบปรับแต่งภาพที่ไม่จำเป็น
ทำไม Filmmaker Mode ถึงไม่เป็นที่นิยม?
แม้ Filmmaker Mode จะมีจุดประสงค์ที่ดี แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น ภาพอาจมืดเกินไปหากห้องของคุณมีแสงมาก, และอาจเกิดอาการภาพกระตุก (judder) เนื่องจากปิดระบบ motion smoothing
วิธีปรับแต่ง Filmmaker Mode ให้เหมาะกับคุณ
- เปิด Filmmaker Mode
- ปรับความสว่าง (brightness) หรือแสงพื้นหลัง (backlight) ให้เหมาะสมกับห้องของคุณ
- ปรับ motion smoothing แบบกำหนดเอง เพื่อลดอาการภาพกระตุกแต่ไม่ทำให้ภาพดูลื่นเกินไป
ทางเลือกอื่นนอกจาก Filmmaker Mode
หาก Filmmaker Mode ไม่ตอบโจทย์ ลองสำรวจโหมดภาพอื่นๆ เช่น โหมดภาพยนตร์ (Movie/Cinema) หรือโหมดปรับเทียบสำหรับ Netflix และ Prime Video ซึ่งอาจให้ประสบการณ์ภาพที่ดีกว่า
สรุป
Filmmaker Mode อาจไม่ใช่โหมดภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคน แต่ด้วยการปรับแต่งเล็กน้อย ก็สามารถมอบประสบการณ์ภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมได้ หรือหากไม่ถูกใจ ก็มีโหมดภาพอื่นๆให้เลือกใช้ อย่าลืมทดลองและเลือกโหมดที่เหมาะกับความชอบของคุณ เพื่อให้การรับชมภาพยนตร์บนทีวีของคุณเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน