เคยรู้สึกกันมั้ยทำไมชีวิตในวัยเรียนถึงได้ยุ่งยากเหลือเกิน ไม่ว่าจะการบ้านมากมายที่อยากจะมีเวลาเพิ่มมากขึ้นไปอีกวันละ 48 ชั่วโมง ไหนจะต้องจัดตารางออกงานกับเพื่อน ๆ หรือเวลาที่จะต้องทบทวนบทเรียนที่เผลอแปบเดียวก็จะต้องสอบอีกแล้ว ลองใช้เทคโนโลยียุคใหม่เข้ามาช่วยจัดระเบียบให้ชีวิตง่ายขึ้นกันดีกว่า กับแอพลิเคชันที่จะช่วยให้คุณกำหนดสิ่งที่ต้องทำ แอพตารางเรียน แอพช่วยสอน แอพช่วยอ่านหนังสือ และแอพเพื่อการศึกษา มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
แอพที่นักเรียนควรมี
1. TCASter
สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่แน่ใจว่า เราจะสามารถเข้าคณะที่ชอบ มหาวิทยาลัยที่ใช่ได้หรือเปล่า พี่ขอแนะนำแอปนี้เลย TCASter เพื่อนคู่หูช่วยตะลุยระบบ TCAS ในแอปพลิเคชันนี้จะช่วยรวมข้อมูลในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยผ่านระบบ TCAS ไว้ในที่เดียว มีข้อมูลคะแนนสูงสุด ต่ำสุดของแต่ละคณะ เพื่อให้เราประเมินตัวเองได้ว่า คะแนนที่เรามีอยู่ตอนนี้ พอจะสอบเข้าคณะในฝันเราได้หรือเปล่า
2. My Study Life
ชีวิตเด็กเรียนอยากพวกเราก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะเหมือนกัน ไหนจะตารางเรียน ตารางการบ้าน หรืองานส่งอาจารย์ หรือตารางอ่านหนังสือเตรียมสอบ เพื่อไม่ให้ชีวิตยุ่งเหยิง หรือพลาดเดดไลน์สำคัญไป เราขอนำเสนอแอปพลิเคชัน My Study Life แอปนี้จะเหมือน Planner ในเวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน จะช่วยเราจัดตารางเรียน และยังจดบันทึกสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับการเรียนได้อีก เช่น งานวิชานี้ต้องส่งอาจารย์วันไหน สอบวันที่เท่าไหร่ พร้อมมีแจ้งเตือนให้เราอีกต่างหาก หายห่วงเรื่องลืมไปได้เลย
3. Forest Stay focused
เคยไหม ตั้งใจอยากจะอ่านหนังสือสอบให้จบภายในวันนี้ แต่ก็เผลอไปเช็กสเตตัสเฟสบุ๊คที Instagram ที ติดคุยไลน์กับเพื่อนบ้าง มารู้ตัวอีกทีก็หมดวันไปแล้ว แต่อ่านหนังสือยังไม่ถึงไหนเลย แต่วันสอบก็ใกล้เข้ามาทุกที หากเป็นอย่างนี้ทุกวันอ่านหนังสือไม่ทันแน่ ๆ แต่ไม่ต้องห่วง พี่มีแอปดี ๆ มานำเสนอ ชื่อแอป Forest Stay focused ที่จะช่วยให้เราโฟกัสกับหนังสือได้มากขึ้น โดยไม่วอกแวก เผลอจับสมาร์ทโฟนมาเล่น แอปนี้จะเป็นเหมือนเกมปลูกต้นไม้ วิธีการเล่นก็คือ ให้เลือกเมล็ดพันธุ์ที่เราจะปลูก ซึ่งต้นไม้นี้จะใช้เวลาประมาณ 10-120 นาทีถึงจะโตเต็มที่ แต่ถ้าเราจับโทรศัพท์ก่อนเวลาจะหมด ต้นไม้ก็จะหยุดโต ถ้าอยากปลูกต้นไม้ให้สำเร็จ ต้องห้ามจับโทรศัพท์มือถือเลย ก็จะเป็นผลดีต่อการอ่านหนังสือของเราด้วย ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เราเผลอไปกดเล่นมือถือบ่อย ๆ จนอ่านหนังสือไม่ทัน
4. PhotoMath
ใครมีปัญหาแก้โจทย์คณิตศาสตร์ไม่ได้ ลองปรึกษาแอปนี้เลย “Photo Math” ที่ช่วยคิดหาคำตอบโจทย์คณิตศาสตร์ เพียงแค่เราถ่ายรูปโจทย์คณิตที่เราอยากรู้คำตอบ แอปก็จะหาคำตอบมาให้เราได้เลย พร้อมกับวิธีทำอย่างละเอียด แต่เขาว่ากันว่าจะทำได้เฉพาะโจทย์คณิตในหนังสือ และโจทย์ที่มีความซับซ้อนไม่มาก
5. Wolfram Alpha
ถ้าอยากแก้โจทย์คณิตศาสตร์ เคมิ วิทยาศาสตร์ที่แอดวานซ์ขึ้นมาหน่อย ลองแอปนี้เลย Wolfram Alpha จะเป็นแอปคำนวณเลข หรือวิทยาศาสตร์ได้คล้าย ๆ Photo Math แต่จะมีข้อพิเศษที่เหนือกว่าคือ จะแก้โจทย์ได้ยากกว่า ด้วยการพิมพ์โจทย์เลขลงไปในช่องค้นหา แอปนี้ก็จะคำนวณคำตอบมาให้ พร้อมวิธีทำอย่างละเอียดยิบ แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อย ตรงที่ไม่ฟรี หากใครสนใจคงต้องซื้อประมาณ 100 บาท หรือถ้าไม่อยากเสียเงินก็สามารถเข้าไปทดลองใช้ฟรี ๆ กันได้ก่อนที่เว็บไซต์นี้เลย >>> http://www.wolframalpha.com/
6. TED
น้อง ๆ หลายคนคงรู้จัก TED TALK กันใช่ไหม หากใครอยากฝึกสกิลภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น แบบไม่น่าเบื่อ พี่แนะนำให้โหลดแอปนี้เลย เราจะได้ฟังเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจไปพร้อมกับการฝึกฟังภาษาอังกฤษ หากใครฟังไม่ทัน ก็สามารถเปิดซับเติ้ลอ่านตามด้วยได้ ซึ่งจะช่วยให้เราฟังภาษาอังกฤษได้เก่งขึ้น ได้ฟังสำเนียงภาษาอังกฤษที่เขาใช้กันจริง ๆ พร้อมกับเรียนรู้ศัพท์ใหม่ ๆ ด้วย
7. Learn English Grammar
อีกหนึ่งแอปพลิเคชัน ช่วยเรื่องเรียนภาษาอังกฤษที่พี่อยากจะแนะนำ ใครที่ไม่อยากแค่อัพสกิลได้การฟังอย่างเดียว แต่อยากรู้ศัพท์ รู้แกรมม่าด้วย ต้องลองแอปนี้เลย Learn English Grammar เป็นแอปพลิเคชันของสถาบันสอนภาษาอังกฤษชั้นนำอย่าง British Council ที่ออกแอปพลิเคชันด้านแกรมม่าภาษาอังกฤษออกมาโดยเฉพาะ มีแบบทดสอบเช็กสกิลของเราท้ายบทด้วย แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่า จะมีแค่แบบ UK English หรือเปล่า เพราะแอปนี้มีทั้ง UK และ US English ให้เลือกฝึกได้ตามใจชอบเลย โหลดไว้ติดเครื่อง รับรองสกิลภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นแน่นอน
ที่มา – OnDemand สถาบันกวดวิชาออนดีมานด์