วันสำคัญคำอวยพร

วันสิ้นปี (New Year’s Eve) 2567 ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่!

วันสิ้นปี (New Year’s Eve) 2567 ตรงกับวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นวันหยุดสิ้นปี 2024 ของหน่วยงานราชการและเอกชน ประวัติและกิจกรรมวันสิ้นปี เป็นมาอย่างไร และควรทำกิจกรรมอะไรบ้างมาดูกัน

Advertisement

วันสิ้นปี

วันสิ้นปี (New Year's Eve) 2567 ส่งท้ายปีเก่า!

วันสุดท้ายของปีซึ่งตรงกับวันที่ 31 ธันวาคม ตามปฏิทินเกรกอเรียน ทางการกำหนดให้เป็นวันหยุดสิ้นปี วันหยุดราชการ ธนาคาร บริษัทต่าง ๆ แล้ว ก็ยังมีการจัดกิจกรรม สวดมนต์ข้ามปี เพื่อเป็นสิริมงคล คืนวันนี้จะมีการจัดงานนับถอยหลัง (Countdown) เพื่อเข้าสู่วันปีใหม่ในเวลาเที่ยงคืนตามเมืองใหญ่ทั่วโลกซึ่งเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน โดยมักมีการจุดพลุเฉลิมฉลอง

เมืองที่ส่งท้ายวันสิ้นปีเข้าสู่ปีใหม่

  • ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย (วันที่ 31 ธันวาคม เวลา 20.00 น.)
  • โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (วันที่ 31 ธันวาคม เวลา 22.00 น.)
  • ฮ่องกง (วันที่ 31 ธันวาคม เวลา 23.00 น.)
  • กรุงเทพฯ ประเทศไทย (วันที่ 1 มกราคม เวลา 00.00 น.)
  • ปารีส ประเทศฝรั่งเศส | เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี (วันที่ 1 มกราคม เวลา 06.00 น.)
  • ลอนดอน สหราชอาณาจักร (วันที่ 1 มกราคม เวลา 07.00 น.)
  • ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล (วันที่ 1 มกราคม เวลา 09.00 น.)
  • นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา | โทรอนโต ประเทศแคนาดา (วันที่ 1 มกราคม เวลา 12.00 น.)

ประวัติวันสิ้นปี

สำหรับประวัติของ วันสิ้นปี เกิดขึ้นในสมัย ของประสันตปาปาเกรโกรี ที่ 13 แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก โดยดัดแปลงจากปฏิทินจูเลียน (ปฏิทินโรมัน ที่คิดค้นขึ้นโดย จูเลียส ซีซาร์) มีการประกาศใช้ในครั้งแรกเมื่อราว ๆ ปี 2071 ซึ่ง ต่อมาก็ได้แพร่หลาย ในหมู่ชาวคริสต์ และในที่สุด เมื่อทุกประเทศหันมาใช้ปฏิทิน เกรโกเลียน เป็นหลัก เพื่อให้ตรงกันทั่วโลก วันที่ 31 ธันวาคม อันเป็นวัน สิ้นสุดของศักราชนั้น ๆ ก็ได้เป็นวันที่เฉลิมฉลอง ให้กับการผ่านพ้นไปของปีเก่า เพื่อต้อนรับชีวิตใหม่ ในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

Advertisement

ปัจจุบัน ประเทศส่วนใหญ่ ในโลกนี้ จะมีการใช้ปฏิทินของเกรกอเลียนทำให้มี วันสิ้นปี และวันขึ้นปีใหม่ ที่ตรงกัน ซึ่งด้วยเหตุที่วันสิ้นปี ได้รับความนิยม และมีวันต่อเนื่องกับวันสำคัญอย่างวันคริสต์มาส (25 ธันวาคม) และวันขึ้นปีใหม่ ทำให้ทางการของหลาย ๆ ประเทศ กำหนดให้ช่วงของวันดังกล่าวเป็นวันหยุดยาว เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้หยุดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสสำคัญดังกล่าวกับครอบครัวด้วยกัน

วันสิ้นปีมีความสำคัญอย่างไร?

วันขึ้นปีใหม่ ตามความหมายในพจนานุกรมให้ความหมายคำว่า ปี หมายถึง เวลาชั่วโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครั้งหนึ่งราว 365 วัน หรือ เวลา 12 เดือนตามสุริยคติ ดังนั้น ปีใหม่ จึงหมายถึง การขึ้นรอบใหม่หลังจาก 12 เดือน หรือ 1 ปี

วันขึ้นปีใหม่ มีประวัติความเป็นมาซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยตามความเหมาะสม ตั้งแต่ในสมัยเริ่มแรกเมื่อชาวบาบิโลเนีย เริ่มคิดค้นการใช้ปฏิทินโดยอาศัยระยะต่าง ๆ ของดวงจันทร์เป็นหลักในการนับ เมื่อครบ 12 เดือน ก็กำหนดว่าเป็น 1 ปี และเพื่อให้เกิดความพอดีระหว่างการนับปีตามปฏิทินกับปีตามฤดูกาล จึงได้เพิ่มเดือนเข้าไปอีก 1 เดือน เป็น 13 เดือนในทุก ๆ 4 ปี

ต่อมาชาวอียิปต์ กรีก และชาวเซมิติก ได้นำการปฏิบัติของชาวบาบิโลเนียมาดัดแปลงแก้ไขอีกหลายคราวเพื่อให้ตรงกับฤดูกาลมากยิ่งขึ้น จนถึงสมัยของกษัตริย์จูเลียต ซีซาร์ (ประมาณ 46 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์ชื่อโยซิเยนิส มาปรับปรุงให้หนึ่งปีมี 365 วัน โดยทุก ๆ 4 ปี ให้เติมเดือนที่มี 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน เป็น 29 วัน คือเดือนกุมภาพันธ์ เรียกว่า อธิกสุรทิน เมื่อเพิ่มให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ให้ทุกๆ 4 ปี แต่วันในปฏิทินก็ยังไม่ค่อยตรงกับฤดูกาลนัก คือเวลาในปฏิทินยาวกว่าปีตามฤดูกาล เป็นเหตุให้ฤดูกาลมาถึงก่อนวันในปฏิทิน

และในวันที่ 21 มีนาคม ตามปีปฏิทินของทุก ๆ ปี จะเป็นช่วงที่มีเวลากลางวันและกลางคืนเท่ากัน คือเป็นวันที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงทิศตะวันออก และลับลงตามทิศตะวันตก วันนี้ทั่วโลกจึงมีช่วงเวลาเท่ากับ 12 ชั่วโมงเท่ากัน เรียกว่า วันทิวาราตรีเสมอภาคมีนาคม (Equinox in March)

แต่ในปี 2125 วัน Equinox in March กลับไปเกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม แทนที่จะเป็นวันที่ 21 มีนาคม ดังนั้นพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 13 จึงทำการปรับปรุงแก้ไขหักวันออกไป 10 วัน จากปีปฏิทิน และให้วันหลังจากวันที่ 4 ตุลาคม 2125 แทนที่จะเป็นวันที่ 5 ตุลาคม ก็ให้เปลี่ยนเป็นวันที่ 15 ตุลาคมแทน (ใช้เฉพาะในปี 2125) ปฏิทินแบบใหม่นี้จึงเรียกว่าปฏิทินเกรกอเรี่ยน จากนั้นได้ปรับปรุงประกาศใช้ วันที่ 1 มกราคม เป็นวันเริ่มต้นของปีเป็นต้นมา

กิจกรรมวันสิ้นปี

กิจกรรมวันสิ้นปีทำอะไรดี ?

กิจกรรมสำคัญในช่วงวันขึ้นปีใหม่ และก่อนส่งท้ายปีที่ควรไทยนิยมทำกันมีมากมาย เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งการหยุดยาว และเฉลิมฉลอง ทุกสถานที่ทั่วประเทศไทยจะมีการจัดงาน จัดแต่งสถานที่ ประดับไฟตามถนน

กิจกรรมอีกอย่างหนึ่ง ที่ประชาชนในหลาย ๆ ประเทศ นั้นนิยมที่จะมารวมตัวกัน เพื่อทำกิจกรรมนี้ คือ การเคาน์ดาวน์ (Countdown) หรือการนับถอยหลัง เข้าสู่ศักราชใหม่ โดยการนับถอยหลังที่ว่านี้ จะเลือกตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยม เช่นในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็จะมีที่จตุรัส ไทม์ สแควร์ , ญี่ปุ่น ที่โตเกียว เป็นต้น

ซึ่งเมื่อถึงช่วงกลางคืนวันที่ 31 ธันวาคม ประชาชน นักท่องเที่ยว ก็จะมารวมตัวกัน เพื่อรอเวลาเข้าใกล้เที่ยงคืน จากนั้นจะมีการจุดพลุเฉลิมฉลอง ในเมืองใหญ่ ๆ อีกด้วย ถือเป็นงานใหญ่ส่งท้ายปีที่มีสีสันเอามาก ๆ นอกจากนั้น หลังผ่านพ้นช่วงเวลาเคาน์ดาวน์ไปแล้ว ก็จะมีการร้องรำทำเพลง ปาร์ตี้กันตลอดทั้งคืนเลยทีเดียว

สำหรับในประเทศไทยนั้น จะมีการรวมตัวของชาวไทย และนักท่องเที่ยว ในคืนวันเคาน์ ดาวน์ ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต เกาะสมุย เป็นต้น ระหว่างการรอนับถอยหลัง ก็จะมีการดื่มกิน ร้องรำทำเพลง และหลังจากการเข้าสู่ศักราชใหม่แล้ว ก็จะมีการปาร์ตี้ตลอดคืนเช่นกัน ถือว่าเป็นวันที่ หลาย ๆ คนนั้นรอคอยเลยก็ว่าได้

  • ทำความสะอาดบ้านเรือน ตกแต่งให้สวยงาม ก่อนวันขึ้นปีใหม่
  • มอบของขวัญปีใหม่ มอบดอกไม้ กราอบขอพรจากผู้ใหญ่ รวมไปถึงการส่งบัตร ส.ค.ส. ทั้งทางออนไลน์ และการ์ดฉบับจริง
  • ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน เข้าวัดฟังธรรม บำเพ็ญกุศล
  • การจัดงานเลี้ยง งานรื่นเริง ในหน่วยงานต่าง ๆ
  • กลับต่างจังหวัด พบหน้าครอบครัว อยู่กับผู้มีพระคุณ
  • สวดมนต์ข้ามปี เป็นอีกกิจกรรมที่พุทธศาสนิกชนนิยมปฏิบัติ
สวดมนต์ข้ามปี

สวดมนต์ข้ามปี

การสวดมนต์ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธันวาคม จนถึงเวลาเที่ยงคืนหรือ ตี 1 เริ่มต้นวันที่ 1 มกราคม ของปี หรือบางที่อาจถึงเช้าที่วันที่ 1 มกราคม ตามธรรมเนียมของแต่ละพื้นที่ การเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสิริมงคลด้วยการสวดมนต์ข้ามปีที่วัดใกล้บ้านหรือที่บ้าน เป็นการเคานต์ดาวน์แบบวิถีพุทธตามความเชื่อของชาวพุทธ ที่เชื่อว่าจะนำความเป็นสิริมงคลเข้าสู่ชีวิตตั้งแต่ต้นปีเป็นช่างเวลาที่ดีของการเปิดศักราชใหม่ เพื่อที่ปีต่อไปเมื่อจะทำกิจการ การงานอันใดจะได้ราบรื่นไปตลอดทั้งปี โดยมักมีการสวดมนต์ข้ามปีกันเป็นหมู่คณะ ที่วัดและสถานที่สำคัญทางศาสนาต่าง ๆ ของไทย โดยทั่วไปจะสวด 9 บทสวดดังนี้

  1. คำกล่าวบูชาพระรัตนตรัย
  2. บทกราบพระรัตนตรัย
  3. นมัสการพระพุทธเจ้า
  4. สมาทานศีล 5
  5. บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
  6. บทมงคลสูตร
  7. บทโพชฌังคปริตร
  8. บทพุทธชัยมงคลคาถา
  9. บทแผ่เมตตา
คำอวยพรปีใหม่

คำอวยพรปีใหม่

May 31st December be the end of your sorrows and 1st January 2019 be the beginning of your joys. Happy New year.

ขอให้วันที่ 31 ธันวาคมเป็นวันสุดท้ายของความโศกเศร้า และให้วันที่ 1 มกราคมเป็นจุดเริ่มต้นของความสุข. สวัสดีปีใหม่


Wishing you happiness and prosperity in this New Year. Enjoy each day.

ขอให้คุณพบกับความสุขและความสำเร็จในปีใหม่นี้. สนุกกับทุกวันของชีวิตนะ


May the New Year 2019 be as fresh as morning dew, as vibrant as the colors on a butterfly and as blissful as the angels from heaven.

ขอให้ปี 2019 นี้ สดชื่นเหมือนกับน้ำค้างตอนเช้า มีชีวิตชีวาเหมือนสีสันบนปีกผีเสื้อและสงบสุขเหมือนนางฟ้าจากสวรรค์


May 2019 be the year when all your dreams come true, all your hard work reap great results and rewards. Happy New Year.

ขอให้ปี 2019 เป็นปีที่ความฝันทุกอย่างกลายเป็นความจริง ได้รับรางวัลและผลตอบแทนที่ดีจากการทำงานหนัก. สวัสดีปีใหม่


Wish this New Year brings to you newly found happiness, prosperity, joy and everything else you want. Have a wonderful Year ahead to spend.

ขอให้ปีใหม่นำความสุขใหม่ ๆ ความสำเร็จ ความเบิกบาน และทุกอย่างที่คุณอยากได้มาให้คุณ ขอให้ปีใหม่เป็นปีที่วิเศษ


May your new year be decorated with sweet memories, wonderful days and memorable nights. Happy New Year.

ขอให้ปีใหม่เป็นปีที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่หวานชื่น มีวันดี ๆ และค่ำคืนที่น่าจดจำ. สวัสดีปีใหม่

คําอวยพรปีใหม่ภาษาอังกฤษ

May this year brings all the desired success and happiness in your life. Wish you a successful and prosperous 2019

ขอให้ปีใหม่นำพาความสำเร็จและความสุขที่คุณปรารถนาในชีวิต. ขอให้คุณประสบความสำเร็จและเจริญรุ่งเรืองในปี 2019


May this year be the one in which all your wishes come true and all your fears may fade away. Happy new year!

ขอให้ปีใหม่นี้เป็นปีที่ความปรารถนาของคุณเป็นความจริง และขอให้ความกลัวทุกอย่างค่อย ๆ เลือนหายไป สวัสดีปีใหม่


A new year is the best time to make fresh new beginnings as you begin a new chapter of your life to fill up the pages with beautiful verses.

ปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นใหม่ ที่คุณจะเริ่มบันทึกบทใหม่ให้กับชีวิตด้วยถ้อยคำที่งดงาม


Discover new joys, embark on new journeys and give more meaning to your life in 2019. Happy New Year.

ค้นหาความสุขใหม่ ๆ ลองเดินทางในเส้นทางใหม่ และให้ความหมายของคำว่าชีวิตใหม่ในปี 2019 สุขสันต์วันปีใหม่


May the New Year fill up days with all things that are nice and bright. Here is wishing you a lovely 2019.

ขอให้ปีใหม่เต็มไปด้วยสิ่งดี ๆ และสดใสทุกวัน ขอให้ปี 2019 เป็นปีที่ดีสำหรับคุณ


May this new year wash away all the bad deed and memories of the past year and bring a new beginning in your life. Wishing you and your family a happy new year.

ขอให้ปีใหม่ชะล้างความทรงจำและเรื่องเลวร้ายในปีที่ผ่านไป แล้วนำพาการเริ่มต้นใหม่มาสู่ชีวิต ขอให้คุณและครอบครัวมีความสุขตลอดปีใหม่นี้


Celebrate this year with new hope, new resolutions and new creativity. Try to find the new way to live the life. Wish you happy New Year from the bottom of my heart.

ฉลองปีใหม่ด้วยความหวังใหม่ ความตั้งใจใหม่ และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ลองหาหนทางในการใช้ชีวิตแบบใหม่ ขอให้มีความสุขตลอดปีใหม่ จากส่วนลึกของหัวใจ

กลอนปีใหม่

อยากเคาท์ดาวน์ อยู่ใกล้ใกล้ หัวใจเธอ
วินาที ที่ได้เจอ กับสิ่งใหม่
นับไปพร้อม กับการเต้น ของหัวใจ
พร้อมจะรับ วันปีใหม่ ใจสองดวง


นับสี่สาม สองหนึ่ง ถึงปีใหม่
นับถอยหลัง ฟังหัวใจ ว่าใช่แน่
ต่อไปนี้ เข้าปีใหม่ ใจคนแคร์
ขอสัญญา จะดูแล เธอเรื่อยไป


ส.ค.ส…ปีห้าหนึ่ง..ถึงน้อง พี่
กุหลาบขาว..ร้อยกวี..มีความหมาย
ส่งตรงถึง..สมาชิก..ทั้งหญิงชาย
ทั้งไกลใกล้..หรือต่างแคว้น..สุดแดนดิน


ขอยอกร..น้อมประนม..ก้มเกศา
อาราธนา..พระรัตนตรัย..ใจถวิล
แลทวยเทพ..เทวา..ทั่วฟ้าดิน
ปู่ฤษีทั้ง 108..หากยลยิน..โปรดเมตตา


เสด็จมา..ประทานพร..อันศักดิ์สิทธิ์
ที่เรืองฤทธิ์..แด่มิ่งมิตร..ทั่วทิศา
มีความสุข..ปราศผองภัย..ไร้โรคา
ทั้งเงินตรา..มากมีทรัพย์..นับอนันต์


อีกหน้าที่..การงาน..จงก้าวหน้า
โชควาสนา..เรื่องรุ่ง..พุ่งไพศาล
คิดได้เพชร..ได้ทอง..มากองพลัน
จงสุขสันต์..สุขี..ปีใหม่เทอญ…


จะเกี่ยวก้อย ไปเฝ้าคอย นับถอยหลัง
อยากตะโกน เสียงดังดัง รับปีใหม่
ต่อไปนี้ ฉันคนเก่า จะหายไป
ขอเปลี่ยนเป็น ฉันคนใหม่ ที่แข็งแรง


โลกมีหมุน เวียนเปลี่ยน จากจุดเดิม
มีสิ่งใหม่ เข้ามาเพิ่ม เติมสีสัน
ปีเก่าผ่าน วันวานพ้น คนละวัน
เรื่องร้ายร้าย ให้ลืมมัน เถิดคนดี


แกะห่อของขวัญปีนี้
จะเจอความปรารถนาดีที่มีให้
แอบซ่อนอยู่ในของขวัญที่ส่งไป
ปนกับความปลื้มใจที่ให้เธอ


ศุภฤกษ์..ดิถี..ขึ้นปีใหม่
ขอชาวไทย..ทั่วประเทศ..ทั่วเขตขันต์
ทั้งหญิงชาย..นายน้า..ถ้วนหน้ากัน
มีความสุข..ทุกวี่วัน..กันทุกคน
ขอคุณพระ..ช่วยปกปักษ์..รักษาท่าน
ช่วยคุ้มกัน..อันตราย..ภัยอย่าเห็น
มีโชคลาภ..วาสนา..มาเช้าเย็น
บุญส่งเป็น..เจ้านายคน..จนไม่มี


พรดีดีที่ไหนใครว่าเลิศ
พรประเสริฐใดใดในทั่วหล้า
พรสวรรค์พรแสวงให้แบ่งมา
จงนำพาสู่ผู้อ่านบานตะไท
มาบันดาลให้ไทยนั้นสุขสันต์
มาบันดาลให้ทุกวันนั้นแจ่มใส
มาบันดาลให้มีสุขทุกคนไป
มาบันดาลให้ไทยนั้นรุ่งเรือง

ความเชื่อวันปีใหม่ไทย 6 สิ่งที่ไม่ควรทำ วันสิ้นปี สิ่งที่ควรทําในวันสิ้นปี

ความเชื่อวันปีใหม่

แต่ละประเทศก็มีเรื่องราวแตกต่างกันไป ความเชื่อเกี่ยวกับเทศกาลปีใหม่ตามประเทศต่าง ๆ

อังกฤษ : ชาวอังกฤษจะมีความเชื่อว่า ผู้ชายคนแรกที่มาเยือนที่บ้านหลังจากเที่ยงคืนแล้วจะนำความโชคดีมาให้ โดยปกติแล้วชาวอังกฤษมักจะให้ของขวัญอย่าง เช่น เงิน ขนมปังหรือก้อนถ่าน เพื่อเป็นการอวยพรให้ครอบครัวนั้นมีสิ่งของเหล่านั้นอย่างอุดมสมบูรณ์ตลอดปี ผู้ที่มาคนแรกนั้นจะต้องไม่ใช่คนผมบลอนด์ ผมสีแดง หรือเป็นผู้หญิง เพราะเชื่อว่าคนเหล่านี้จะนำความโชคร้ายมาให้

สกอตแลนด์ : ชาวสกอตแลนด์เชื่อว่าบุคคลแรกที่ก้าวเข้ามาหน้าประตูบ้านหลังเที่ยงคืนเข้าสู่วันปีใหม่ โดยมีของติดไม้ติดมือมาด้วย เช่น เกลือ ถ่าน หรือขนมปังชอร์ตเบรด ผู้นั้นจะนำความโชคดีตลอดทั้งปีมาสู่เจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านก็จะจัดเลี้ยงอาหารอย่างเต็มที่เป็นการตอบแทน

บราซิล : ชาวบราซิลมีความเชื่อเกี่ยวกับสีของกางเกงในที่ใส่ฉลองรับวันปีใหม่ ซึ่งเชื่อกันว่าสีของกางเกงในที่สวมใส่เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความโชคดี โดยสีที่คนนิยมสวมใส่มากที่สุดคือ สีแดง หมายถึง ความรัก และ สีเหลือง หมายถึง เงินทอง หรือความร่ำรวย

สเปน : ชาวสเปนมีความเชื่อว่าหากกินองุ่นครบ 12 ผลภายในช่วงเวลาที่นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน 12 ครั้ง ชีวิตของผู้ที่ทำได้นั้นจะพบแต่ความโชคดีตลอดทั้ง 12 เดือนของปีใหม่

เดนมาร์ก : ชาวเดนมาร์กต้อนรับปีใหม่ด้วยการเขวี้ยงจานชามใส่ประตูบ้านให้แตกละเอียด หากเป็นเศษซากได้มากชิ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งนำพามิตรภาพมาสู่บ้านหลังนั้นมากขึ้นเท่านั้น

ปานามา : ชาวปานามาฉลองปีใหม่ด้วยการเผาหุ่นคนที่เป็นบุคคลสาธารณะ ซึ่งเรียกพิธีนี้ว่า มูเนคอส เนื่องจากเชื่อว่าหุ่นคนนั้นเป็นตัวแทนของปีเก่า การเผาหุ่นก็หมายถึงการทำลายสิ่งเก่า ๆ เพื่อนำไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่านั่นเอง

สหรัฐอเมริกา : ชาวอเมริกันนิยมรับประทานถั่วตาดำ (Black-Eyed Pea) เพราะถั่วชนิดนี้เมื่อปรุงสุกแล้วจะมีสีและรูปร่างเหมือนเหรียญเงิน ซึ่งเชื่อกันว่าจะนำความร่ำรวยมาให้

ญี่ปุ่น : ในช่วงของการย่างเข้าสู่ปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นมักจะไปไหว้พระขอพรตามวัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก ๆ หรือวัยรุ่น ซึ่งที่วัดจะมีการตีระฆัง 108 ครั้ง เพื่อปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายทั้งหมด 108 อย่าง จากปีก่อนให้หมดไปและยังเชื่อว่าการหัวเราะเมื่อเริ่มเข้าสู่ปีใหม่จะทำให้โชคดีตลอดทั้งปีด้วย

ฟิลิปปินส์ : ก่อนจะเริ่มวันใหม่ของวันปีใหม่ เด็ก ๆ ชาวฟิลิปปินส์จะพากันกระโดดขึ้นลง เพราะเชื่อว่าการกระโดดในวันนี้จะช่วยทำให้ร่างกายเติบโต และตัวสูงขึ้น

นอร์เวย์ : ชาวนอร์เวย์นิยมทำขนมหวานที่เรียกว่า Rice Pudding คล้ายกับข้าวเหนียวเปียกของไทยเรา โดยจะใส่อัลมอนด์ลงไป 1 เม็ด หากใครได้รับประทานอัลมอนด์ที่อยู่ในขนมหวานนี้จะโชคดีไปตลอดทั้งปี

จีน : ชาวจีนนิยมรับประทานปลาและไก่ทั้งตัวในวันปีใหม่ เพราะคำว่า ปลา พ้องเสียงตรงกับคำว่า เหลือเฟือ ในภาษาจีน และจะรับประทานไก่ทั้งตัวโดยไม่ตัดส่วนใดออก เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตครบถ้วนสมบูรณ์และมั่งคั่ง

6 สิ่งที่ไม่ควรทำ วันสิ้นปี

  1. มีความเชื่อว่าในวันที่ 1 มกราคม ควรหลีกเลี่ยงการทำงานบ้าน เนื่องจากการทำงานบ้านประเภท การซักล้างหรือการปัดกวาดเช็ดถู จะถือว่าเป็นการขับไล่ความโชคดีออกไป ดังนั้นการทำความสะอาดทุกอย่างควรทำให้เรียบร้อยภายในวันสิ้นปีเท่านั้น
  2. ไม่ควรสระผมและตัดผมในวันสิ้นปีรวมไปถึงวันเริ่มต้นปีใหม่ เนื่องจากการสระผม ถือเป็นการชะล้างความโชคดีที่กำลังจะมาถึงในศักราชใหม่ เเละตัดผมก็ควรดูช่วงเวลาที่เหมาะสม
  3. ไม่ควรใช้ของมีคมในการตัดส่วนใดส่วนหนึ่งออกจากร่างกาย เช่น มีด กรรไกร หรือที่ตัดเล็บ ฯลฯ เพราะการกระทำของของมีคม ถือเป็นการตัดสิ่งโอกาสหรืออนาคตที่ดีที่กำลังจะมาถึงเช่นกัน
  4. ระมัดระวังการใช้คำพูดที่มีความหมายไปในทางลบหรือคำหยาบ หลีกเลี่ยงการโต้เถียง หรือคำที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยหรือความตาย เพราะถือว่าเป็นสิ่งอัปมงคลต่อชีวิตตนเอง อีกทั้งยังสร้างความบาดหมางและความขุ่นเคืองใจต่อผู้คนรอบข้าง
  5. หลีกเลี่ยงการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพราะในว่าปีใหม่ควรเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ให้แก่ผู้คน และสัตว์โลกเช่นเดียวกัน
  6. ระมัดระวังในการทำสิ่งใด ๆ ที่จะเกิดการสะดุด หรือทำสิ่งของตกแตก เพราะนั่นหมายถึงการนำความโชคร้ายเข้ามาให้ในอนาคต และถือเป็นการปล่อยโอกาสดี ๆ ให้หลุดลอยหายไป

สิ่งที่ควรทําในวันสิ้นปี

  • ทำบุญตักบาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ญาติพี่น้องรวมถึงผู้มีพระคุณที่ล่วงลับ เพื่อระลึกถึงสิ่งดี ๆ ที่พวกท่านสนับสนุนและมอบให้เราจนเรามีวันนี้ได้
  • ทำบุญ ยึดมั่นคำสอนของศาสนาของตน หรือปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส คิดแต่สิ่งดี มีสมาธิและไม่ประมาท ยึดถือหลักธรรมหรือความเชื่อส่วนบุคคลก็ได้ เพื่อให้เป็นสิ่งยึดเหนียวใจให้ปฏิบัติตนไปในทางที่ดี ทั้งกับตนเองและเพื่อนร่วมโลก
  • ทบทวนและมองย้อนตัวเองเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ทำมาตลอดทั้งปี ว่ามีความเจริญก้าวหน้าเพียงใด หากมีสิ่งคั่งค้างก็ต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องให้สำเร็จลุล่วงไป หากมีเรื่องบาดหมางหรือขุ่นเคืองกับผู้ใด ก็ให้ถือโอกาสนี้ให้อภัยซึ่งกันและกัน เริ่มสานความสัมพันธ์ให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยดี เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีดี ๆ ให้แก่กัน
  • ในวันทำงานสุดท้ายของปี หัวหน้าและพนักงานควรพูดแสดงความรู้สึกขอบคุณในตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ส่วนใครที่งานกองเต็มโต๊ะคงต้องเร่งสะสางให้เรียบร้อยก่อนหยุดสิ้นปี รวมทั้งจัดโต๊ะทำงานเก่าให้เหมือนใหม่ สะอาดสะอ้านน่าใช้งานต้อนรับบรรยากาศดี ๆ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานต่อไป

คำถามที่พบบ่อย

วันสิ้นปี คือ

การเฉลิมฉลองที่จัดขึ้นในวันสุดท้ายของปีทั่วโลก ในประเทศทางตะวันตกส่วนใหญ่จะเป็นวันที่นำไปสู่การเฉลิมฉลองครั้งสุดท้ายในวันส่งท้ายปีเก่า

วันสิ้นปีตรงกับวันที่เท่าไหร่

วันสิ้นปีตรงกับวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี

วันสิ้นปี ภาษาอังกฤษ

วันสิ้นปีในภาษาอังกฤษ คือ New Year’s Eve

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

Advertisement

Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button