เรื่องน่าสนใจ

รีไทร์ (Retire) ในมหา’ลัย คืออะไร? ทำไมถึงถูกเชิญออก?

เพื่อนๆ เคยได้ยินคำว่า “รีไทร์” ในมหาวิทยาลัยไหม? ถ้าคิดว่าแค่คำนี้แปลว่า “เกษียณ” ก็อาจจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ! เพราะในวงการการศึกษาไทย คำว่า “รีไทร์” ถูกนำมาใช้ในความหมายที่ต่างออกไป นั่นคือการถูกเชิญออกจากมหาวิทยาลัยเนื่องจากผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ หรือมีปัญหาในการเรียนตามที่สถาบันกำหนด

หลายคนอาจสงสัยว่า “รีไทร์” ต่างจาก “ลาออก” ยังไง? แล้วทำไมถึงต้องเป็นคำนี้? คำตอบก็คือ “รีไทร์” ในมหาวิทยาลัยไม่ได้หมายถึงการเกษียณอายุงานแบบที่เราเข้าใจ แต่เป็นกระบวนการที่มหาวิทยาลัยใช้จัดการกับนักศึกษาที่มีผลการเรียนต่ำกว่ามาตรฐาน หรือไม่สามารถเรียนจบภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตทางการศึกษาและการทำงานของนักศึกษาได้

ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า “รีไทร์” ในมหาวิทยาลัยคืออะไร? สาเหตุที่ทำให้ถูกเชิญออกมีอะไรบ้าง? และมีวิธีไหนที่เราสามารถป้องกันไม่ให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์นี้ได้

รีไทร์ (Retire) คืออะไร? ทำไมถึงถูกใช้ในมหาวิทยาลัย?

รีไทร์ (Retire) คืออะไร? ทำไมถึงถูกใช้ในมหาวิทยาลัย?

คำว่า “รีไทร์” (Retire) ในภาษาอังกฤษแปลว่า “เกษียณ” หรือการหยุดทำงานหลังจากอายุครบกำหนด แต่ในบริบทของมหาวิทยาลัยไทย คำนี้ถูกนำมาใช้ในความหมายที่ต่างออกไป นั่นคือการถูกเชิญออกจากสถาบันการศึกษาเนื่องจากผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ หรือไม่สามารถเรียนจบภายในระยะเวลาที่กำหนด

การรีไทร์ในมหาวิทยาลัยมักเกิดขึ้นเมื่อนักศึกษามีเกรดเฉลี่ยสะสม (GPA) ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด เช่น ต่ำกว่า 1.80 ในชั้นปีที่ 1 หรือต่ำกว่า 2.00 ในชั้นปีที่ 2 ขึ้นไป นอกจากนี้ การรีไทร์ยังอาจเกิดขึ้นได้หากนักศึกษาใช้เวลาเรียนเกินระยะเวลาที่กำหนด เช่น เกิน 8 ปีสำหรับหลักสูตรปริญญาตรี ซึ่งแต่เดิมเป็นกฎที่เข้มงวด แต่ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนให้ยืดหยุ่นมากขึ้นตามนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา

บทความที่เกี่ยวข้อง
Advertisement

การรีไทร์ไม่ใช่การลาออกโดยสมัครใจ แต่เป็นการถูกเชิญออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจส่งผลต่อประวัติการศึกษาและโอกาสในการสมัครเรียนต่อในอนาคต ดังนั้น การเข้าใจสาเหตุและวิธีป้องกันจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักศึกษาทุกคน

สาเหตุของการรีไทร์ในมหาวิทยาลัย

  1. ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์: สาเหตุหลักของการรีไทร์คือการมีเกรดเฉลี่ยสะสมต่ำกว่าเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น ต่ำกว่า 1.80 ในชั้นปีที่ 1 หรือต่ำกว่า 2.00 ในชั้นปีที่ 2 ขึ้นไป นักศึกษาที่มีผลการเรียนต่ำกว่ามาตรฐานมักจะถูกแจ้งเตือนให้ปรับปรุง และหากไม่สามารถทำได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็อาจถูกเชิญออกจากมหาวิทยาลัย
  2. ใช้เวลาเรียนเกินกำหนด: ในอดีต นักศึกษาที่ไม่สามารถเรียนจบภายใน 8 ปีสำหรับหลักสูตรปริญญาตรีจะถูกรีไทร์ทันที แต่ปัจจุบันกฎนี้ถูกยกเลิกเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) อย่างไรก็ตาม บางมหาวิทยาลัยยังคงใช้เกณฑ์นี้เป็นเงื่อนไขในการพิจารณาสถานะของนักศึกษา
  3. ไม่ผ่านรายวิชาบังคับ: นักศึกษาที่ไม่ผ่านรายวิชาบังคับหลายครั้ง หรือไม่สามารถแก้ไขผลการเรียนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจถูกพิจารณาให้รีไทร์ โดยเฉพาะในกรณีที่ผลการเรียนส่งผลต่อความสามารถในการจบหลักสูตร

ผลกระทบของการรีไทร์

  1. ผลต่อประวัติการศึกษา: การรีไทร์จะถูกบันทึกในประวัติการศึกษา ซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสในการสมัครเรียนต่อหรือสมัครงานในอนาคต
  2. ผลต่อจิตใจและความมั่นใจ: การถูกเชิญออกจากมหาวิทยาลัยอาจทำให้รู้สึกผิดหวังและสูญเสียความมั่นใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวและเริ่มต้นใหม่
  3. ผลต่อครอบครัว: หลายคนอาจรู้สึกกดดันเมื่อต้องบอกครอบครัวเกี่ยวกับการรีไทร์ โดยเฉพาะหากครอบครัวมี期望สูงต่อการเรียน

วิธีป้องกันการรีไทร์

  1. ตั้งใจเรียนและติดตามผลการเรียน: การเข้าเรียนทุกคาบและส่งงานครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันการติด F และรักษาเกรดเฉลี่ยให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
  2. ลดหรือถอนรายวิชาที่เสี่ยง: หากรู้สึกว่าไม่สามารถเรียนรายวิชาใดได้ดี ควรพิจารณาลดหรือถอนรายวิชานั้นภายในระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อเกรดเฉลี่ย
  3. ปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา: หากมีปัญหาในการเรียน ควรปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายเกินไป

ทิ้งท้าย

การรีไทร์ในมหาวิทยาลัยไม่ใช่จุดจบของชีวิต แต่เป็นบทเรียนที่สอนให้เราเรียนรู้และปรับตัว เพื่อก้าวต่อไปอย่างมั่นใจมากขึ้น การเข้าใจสาเหตุและวิธีป้องกันการรีไทร์จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการเรียนได้ดีขึ้น และไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องถูกเชิญออกจากสถาบันการศึกษา

หากคุณหรือคนรอบตัวกำลังเผชิญกับปัญหานี้ อย่าลืมว่ายודมีโอกาสมากมายให้เริ่มต้นใหม่ และการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดคือก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จในอนาคต

Advertisement

กดเพื่ออ่านต่อ
Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button