มาโซคิสม์เป็นหนึ่งในพฤติกรรมทางจิตวิทยาที่มักถูกเข้าใจผิดในสังคมไทย ความรู้สึกพึงพอใจจากความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจนี้มีความซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนเข้าใจ
ในปัจจุบัน การพูดคุยเรื่องมาโซคิสม์อย่างเปิดเผยมากขึ้นในสังคมไทย ทำให้เราเริ่มเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ความผิดปกติเสมอไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายในพฤติกรรมมนุษย์
การทำความเข้าใจเรื่องมาโซคิสม์อย่างถูกต้องจะช่วยลดการตีตราทางสังคม และช่วยให้ผู้ที่มีแนวโน้มพฤติกรรมนี้สามารถเข้าใจตัวเองและจัดการกับความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม
สารบัญ
มาโซคิสม์ (Masochism) คืออะไร?
มาโซคิสม์ (Masochism) คือ การที่บุคคลเกิดความรู้สึกพึงพอใจ ตื่นเต้น หรือแม้แต่เกิดอารมณ์ทางเพศอย่างเข้มข้น เมื่อได้รับความเจ็บปวดหรือถูกริดรอนสิทธิมนุษยชนบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการถูกมัด ถูกกัด ถูกตี ถูกด่าทอ รวมถึงการโดนยั่วยุทางคำพูดหรือการกระทำที่ลดทอนคุณค่าตนเอง ในมุมของผู้ที่มีรสนิยมมาโซคิสม์ การถูกทำให้เจ็บไม่ใช่แค่เรื่องของฝันกลางวันหรือการจินตนาการชั่วครู่ หากแต่เป็นสิ่งที่กระตุ้นแรงต้องการทางเพศหรือสร้างความรู้สึก “เติมเต็ม” ในเชิงจิตใจได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาได้จำแนกมาโซคิสม์ออกเป็นหลายระดับ บางคนอาจแค่ชอบความเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ พอโดนข่วนหรือตีเบา ๆ ก็รู้สึกสนุกและตื่นเต้น ขณะที่บางคนอาจต้องการการทำร้ายอย่างรุนแรงหรือการถูกกักขังเพื่อกระตุ้นความรู้สึกพึงพอใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการมองมาโซคิสม์ในสองมุมมอง คือ มุมมองที่เป็นเพียง “รสนิยมส่วนตัว” และมุมมองที่เป็น “ความผิดปกติทางเพศ (Paraphilia)” ซึ่งจำเป็นต้องรับการรักษาหากรสนิยมนั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน บั่นทอนความสัมพันธ์ หรือนำไปสู่พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายหรืออันตรายต่อชีวิต
ประวัติความเป็นมาและที่มาของคำว่า Masochism
คำว่า Masochism มีจุดกำเนิดมาจากนามสกุลของนักเขียนชาวออสเตรียชื่อ เลโอโปลด์ ฟอน ซาเชอร์-มาโซค (Leopold von Sacher-Masoch) ซึ่งมีผลงานนวนิยายที่บรรยายถึงตัวละครที่มีความพึงพอใจจากการถูกทำร้าย ถูกลดคุณค่า หรือถูกควบคุมอย่างรุนแรง คำนี้ได้รับความสนใจจากแวดวงจิตเวชและนักจิตวิทยามานาน เพราะเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางเพศที่ท้าทายต่อความเข้าใจเดิม ๆ ที่ว่า มนุษย์จะ “หนี” จากความเจ็บปวด
การศึกษาเรื่องมาโซคิสม์เป็นส่วนหนึ่งของการทำความเข้าใจธรรมชาติมนุษย์ว่า เหตุใดบางคนจึงผูกโยงความสุขทางเพศเข้ากับความเจ็บปวด บางแนวคิดทางจิตวิเคราะห์มองว่า ผู้ที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรง หรือผ่านประสบการณ์บาดแผลทางใจ อาจเรียนรู้ที่จะเห็นความเจ็บปวดเป็น “จุดปลดปล่อย” หรือเป็นการชดเชยต่อความรู้สึกผิดบางอย่าง ในขณะที่บางทฤษฎีเห็นว่า มาโซคิสม์อาจเป็นเพียงความหลากหลายทางรสนิยมซึ่งไม่จำเป็นต้องโยงกับประสบการณ์เจ็บปวดในวัยเด็ก ดังนั้น รากฐานความเข้าใจในปัจจุบันจึงเปิดกว้างต่อการมองมาโซคิสม์ ทั้งในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่ม BDSM และการเป็นความผิดปกติเมื่อถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้
ประเภทของมาโซคิสม์
มาโซคิสม์แบบรสนิยมส่วนตัว (Lifestyle Masochism)
ผู้ที่มีลักษณะนี้ไม่จำเป็นต้องมีอาการผิดปกติทางจิต เพียงแต่ชื่นชอบความตื่นเต้นและกระตุ้นอารมณ์ ความเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ กลายมาเป็น “เครื่องปรุง” ทำให้การมีความสัมพันธ์ดูมีสีสัน และทุกอย่างเกิดขึ้นภายใต้การยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย ไม่มีการบังคับ หากมีการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนและเคารพกัน ก็อาจกลายเป็นรสนิยมชีวิตคู่ที่ปรับสมดุลอารมณ์ได้ดี
มาโซคิสม์แบบผิดปกติทางเพศ (Sexual Masochism Disorder)
ในกรณีนี้ ผู้ที่มีอาการอาจหมกมุ่นกับความเจ็บปวดถึงขั้นควบคุมไม่ได้ เรื่องนี้สามารถนำมาซึ่งความทุกข์ ความเครียด และจิตแพทย์อาจวินิจฉัยว่าบุคคลดังกล่าวเข้าข่าย Paraphilia หรือ Disordered Sexuality ซึ่งอาจต้องรับการบำบัดหรือรักษาทางจิตเวช หากพฤติกรรมนี้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อตนเองและผู้อื่น
ประเภทของมาโซคิสม์ | ลักษณะอาการ | ความรุนแรง |
---|---|---|
ทางร่างกาย | ความพึงพอใจจากความเจ็บปวดทางกาย | ต่ำ-สูง |
ทางจิตใจ | ความพึงพอใจจากการถูกทำร้ายจิตใจ | ปานกลาง-สูง |
ทางสังคม | ความพึงพอใจจากการถูกกีดกันทางสังคม | ต่ำ-ปานกลาง |
สาเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
สาเหตุของมาโซคิสม์มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม สภาพแวดล้อม และประสบการณ์ชีวิต โดยเฉพาะประสบการณ์ในวัยเด็กมีผลอย่างมากต่อการพัฒนาพฤติกรรมนี้
การศึกษาทางจิตวิทยาพบว่า บางคนอาจพัฒนาพฤติกรรมมาโซคิสม์เพื่อจัดการกับความเครียดหรือความวิตกกังวล โดยการแปลงความเจ็บปวดให้เป็นความพึงพอใจเป็นกลไกการป้องกันตัวอย่างหนึ่ง
ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมก็มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะในสังคมที่มีความกดดันสูง บางคนอาจพัฒนาพฤติกรรมมาโซคิสม์เพื่อหาทางออกจากความกดดันเหล่านั้น
ความแตกต่างระหว่างมาโซคิสม์กับซาดิสม์
- ซาดิสม์ (Sadism) คือการที่บุคคลได้รับความพึงพอใจเมื่อได้เห็นผู้อื่นเจ็บปวดหรือต้องทนทุกข์ ไม่ว่าจะทางกายหรือใจ
- มาโซคิสม์ (Masochism) คือการที่บุคคลได้รับความพึงพอใจเมื่อ “ตนเอง” เป็นผู้ได้รับความเจ็บปวดหรือถูกลดทอน
แม้ว่าทั้งสองจะดูตรงข้ามกัน แต่ก็มีความเชื่อมโยงกันอยู่มากในบริบทความสัมพันธ์ BDSM (Bondage-Discipline, Dominance-Submission, Sadism-Masochism) ซึ่งฝ่ายหนึ่งจะอยู่บทบาท “ผู้กระทำ” ส่วนอีกฝ่ายอยู่บทบาท “ผู้ถูกกระทำ” ความสัมพันธ์เช่นนี้อาจเกิดอย่างสมดุลเมื่อทั้งสองฝ่ายยินยอม พร้อมมีการสื่อสารที่ดี และตั้งพื้นฐานบนความเชื่อใจ
มาโซคิสม์ในบริบท BDSM
BDSM เป็นตัวย่อสำหรับกิจกรรมทางเพศที่เกี่ยวข้องกับ Bondage-Discipline (พันธนาการและวินัย), Dominance-Submission (การควบคุมและการยอมรับคำสั่ง), และ Sadism-Masochism (ความสุขที่ได้รับจากการกระทำให้ผู้อื่นหรือรับความเจ็บปวด) หากมองแต่ภายนอก หลายคนอาจคิดว่า BDSM เป็นพฤติกรรมรุนแรงหรือวิตถาร แต่ในทางปฏิบัติ BDSM แทบทุกประเภทจะต้องตั้งอยู่บนหลัก “Safe, Sane, and Consensual” (ปลอดภัย มีสติ และยินยอมพร้อมใจ)
- Safe (ปลอดภัย): ตรวจสอบอุปกรณ์ พื้นที่ และตกลงขอบเขตก่อนเริ่มกิจกรรม
- Sane (มีสติ): ต้องตระหนักรู้ถึงผลกระทบทางกายและใจต่อกันอย่างถ่องแท้
- Consensual (ยินยอมพร้อมใจ): ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายที่เป็น “ผู้กระทำ” กับ “ผู้ถูกกระทำ” ต้องเปิดใจกันอย่างตรงไปตรงมา และมีสิทธิ์ที่จะหยุดกิจกรรมได้ทันทีผ่าน “Safe Word” หรือการส่งสัญญาณที่ตกลงกัน
ในกรณีของมาโซคิสม์ที่เป็นส่วนหนึ่งของ BDSM เราจะเห็นว่า ฝ่ายมาโซคิสม์มักจะวางใจและเคารพในกติกา ขณะที่ฝ่ายซาดิสม์ที่ร่วมกิจกรรมก็ต้องมีความรับผิดชอบอย่างสูง และไม่ใช่คนที่มี “ความรุนแรง” เป็นพื้นฐานทั้งหมดเสมอไป สิ่งสำคัญคือ การเคารพซึ่งกันและกัน
ผลกระทบต่อชีวิต
ผลกระทบของมาโซคิสม์ต่อชีวิตมีได้หลายระดับ ตั้งแต่ไม่ส่งผลกระทบเลยไปจนถึงส่งผลกระทบรุนแรงต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น
ในด้านความสัมพันธ์ มาโซคิสม์อาจส่งผลต่อการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยเฉพาะความสัมพันธ์ใกล้ชิด ซึ่งต้องการความเข้าใจและการสื่อสารที่ดีระหว่างคู่ความสัมพันธ์
การทำความเข้าใจและยอมรับตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องระวังไม่ให้พฤติกรรมนี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาว
การรักษาและการดูแลตัวเอง
การรักษามาโซคิสม์ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและผลกระทบต่อชีวิต ในกรณีที่ไม่ส่งผลกระทบรุนแรง การเรียนรู้ที่จะเข้าใจและจัดการกับความรู้สึกอย่างเหมาะสมอาจเพียงพอ
การปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการจัดการกับพฤติกรรมมาโซคิสม์ โดยเฉพาะเมื่อเริ่มส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
การสร้างเครือข่ายสนับสนุนและการหากิจกรรมทดแทนที่สร้างสรรค์เป็นวิธีที่ช่วยให้จัดการกับความรู้สึกได้ดีขึ้น
ทิ้งท้าย
มาโซคิสม์ (Masochism) ไม่ได้เป็นเพียงรสนิยมทางเพศที่แปลกแยกจากสังคม หากแต่สะท้อนถึงความหลากหลายของธรรมชาติมนุษย์ในมิติที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างร่างกาย จิตใจ และปัจจัยทางสังคม การเข้าใจมาโซคิสม์จึงไม่ใช่การตัดสิน หากแต่เป็นการเรียนรู้ผ่านข้อมูลที่ถูกต้อง และตระหนักถึงผลกระทบต่าง ๆ ตั้งแต่ความเสี่ยงในทางกาย ไปจนถึงแง่มุมทางสุขภาพจิต
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีรสนิยมมาโซคิสม์ สิ่งสำคัญคือการสื่อสารอย่างเปิดเผย กำหนดขอบเขตหรือ Safe Word เพื่อป้องกันอันตราย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากพบว่าพฤติกรรมเริ่มก่อให้เกิดผลเสีย การรู้จักตัวเองและใส่ใจคนรอบข้างจะทำให้ความสัมพันธ์ไม่สูญเสียความเป็นอิสระและไม่ก้าวล้ำไปสู่ความรุนแรงที่ควบคุมไม่ได้
ขอให้ผู้อ่านทุกคนมองมาโซคิสม์ด้วยความเข้าใจ เปิดใจกว้าง และรับรู้ว่ารสนิยมทุกแบบล้วนมีขอบเขตและข้อควรระวังอยู่เสมอ การดูแลตัวเองให้ปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจเป็นหัวใจหลัก หากบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์ต่อหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในช่องทางที่สะดวก เพื่อสร้างสังคมที่เคารพในความแตกต่างและพร้อมจะซัพพอร์ตกันอย่างแท้จริง