พระราชประวัติและบทสวดรัชกาลที่ 5 เรื่องราวที่อาจไม่เคยรู้

เคยสงสัยกันไหมว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีบทบาทอย่างไรในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่ความทันสมัย? หรือเคยได้ยินบทสวดที่เกี่ยวข้องกับพระองค์หรือไม่? วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับพระองค์ ที่อาจทำให้คุณมองเห็นประเทศไทยในมุมมองใหม่

ไม่เพียงแต่พระราชประวัติที่ยิ่งใหญ่ พระองค์ยังทรงมีบทบาทในการปฏิรูปประเทศในหลายด้าน ทั้งการศึกษา การคมนาคม และการปกครอง แต่ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้พระองค์เป็นที่รักของประชาชน ซึ่งบางครั้งเราอาจมองข้ามไป

เตรียมพร้อมที่จะเดินทางสู่ประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเข้าใจใหม่ๆ กับบทความนี้ที่จะเปิดเผยทุกมิติของรัชกาลที่ 5 ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวคือใคร?

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ห้าของราชวงศ์จักรี ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 พระนามเดิมของพระองค์คือ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี

พระราชประวัติที่น่าสนใจ

การขึ้นครองราชย์

พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 ขณะมีพระชนมพรรษาเพียง 15 พรรษา ทำให้มีการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในระยะแรก ซึ่งพระองค์ได้ใช้เวลานี้ในการศึกษาและเตรียมความพร้อมในการปกครองประเทศ

การปฏิรูปประเทศ

รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นนักปฏิรูปที่ยิ่งใหญ่ ทรงนำพาประเทศไทยสู่ความทันสมัยในหลายด้าน เช่น

• การเลิกทาส: ทรงประกาศเลิกทาสอย่างเป็นทางการ ทำให้ประชาชนมีเสรีภาพมากขึ้น
• การศึกษา: ทรงก่อตั้งโรงเรียนและส่งเสริมการศึกษาในทุกระดับ
• การคมนาคม: ทรงริเริ่มการสร้างทางรถไฟและระบบไปรษณีย์
• การปกครอง: ทรงปรับปรุงระบบการปกครองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

คาถาบทสวดรัชกาลที่ 5

หลายคนอาจไม่ทราบว่ามีบทสวดที่เกี่ยวข้องกับรัชกาลที่ 5 ที่ประชาชนนิยมใช้ในการขอพรและรำลึกถึงพระองค์ บทสวดนี้เน้นไปที่การขอความเมตตาและความเจริญรุ่งเรือง สามารถหาฟังได้จากสื่อออนไลน์หรือในพิธีการต่างๆ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ ปิยะ มะมะ นะโม พุทธายะ
พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ ปิยะ มะมะ นะโม พุทธายะ
พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ ปิยะ มะมะ นะโม พุทธายะ

พระองค์มีพระภรรยากี่คน?

รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระภรรยาทั้งหมด 92 พระองค์ ซึ่งเป็นทั้งพระราชธิดาและธิดาของขุนนางต่างๆ การมีพระภรรยาหลายพระองค์ในสมัยนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความมั่นคงในราชสำนัก

พระราชโอรสและพระราชธิดา

พระองค์ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมทั้งหมด 77 พระองค์ แต่มีเพียงบางพระองค์ที่มีพระชนม์ยืนยาวและมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย เช่น

• สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม: พระราชบิดาของรัชกาลที่ 9
• สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี: พระราชมารดาของรัชกาลที่ 9

ผลงานและมรดกที่ทิ้งไว้

รัชกาลที่ 5 ทรงทิ้งมรดกที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทย ทั้งในด้านวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และการปกครอง ตัวอย่างเช่น

• พระที่นั่งอนันตสมาคม: สถาปัตยกรรมที่งดงามที่ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสำคัญ
• การเลิกทาส: การเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญ
• การสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ: ทรงเดินทางเยือนต่างประเทศเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต

การรำลึกถึงรัชกาลที่ 5

วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น วันปิยมหาราช เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ประชาชนจะร่วมกันทำบุญและวางพวงมาลาเพื่อแสดงความเคารพ

สรุป

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงคุณค่าและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย พระราชประวัติ บทสวด และเรื่องราวของพระองค์เต็มไปด้วยความน่าสนใจที่ควรค่าแก่การศึกษา หวังว่าบทความนี้จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ และสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพระองค์

ถ้าคุณชื่นชอบบทความนี้ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ