แก้วเก็บความเย็น Stanley ที่มาแรงจนกลายเป็นไอเท็มสุดฮิตบนโซเชียล โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นและเหล่า TikToker แต่กระแสความนิยมที่พุ่งสูงก็มักมีเสียงวิจารณ์ตามมา ล่าสุดหลายคนอาจเห็นโพสต์ที่พูดถึงข่าวลือ (ที่ยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริง) เกี่ยวกับสารตะกั่วในแก้ว Stanley แล้วแบบนี้เรายังควรใช้แก้วเหล่านี้ต่ออยู่ไหม?
ทำไมต้องระวังสารตะกั่ว
สารตะกั่วเป็นโลหะหนักที่อันตรายต่อสมองและระบบประสาท โดยเฉพาะในเด็กเล็ก นี่คือเหตุผลที่องค์กรอนามัยโลกจำกัดการใช้สารนี้ในสีทาบ้านตั้งแต่ปี 1978 และเป็นสาเหตุที่คุณหมอจะถามถึงอายุบ้านเวลาตรวจสุขภาพเด็กๆ เพราะนอกจากสีทาบ้านแล้ว ตะกั่วยังอาจปนเปื้อนมาในน้ำดื่ม ดิน หรือสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ได้ด้วย
เพื่อความปลอดภัย เราจึงควรตรวจวัดระดับตะกั่วในเลือดเด็กเป็นระยะๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารตะกั่วให้มากที่สุด เช่น หากบ้านเก่ามีสีทาบ้านที่มีตะกั่ว ก็ต้องทาทับด้วยสีสูตรปลอดสารตะกั่วเพื่อปิดทับ
สารตะกั่วในแก้ว Stanley อยู่ตรงไหน?
ทางบริษัท Stanley ชี้แจงบนเว็บไซต์ว่ามีการใช้ตะกั่วในชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ใช้เพื่อช่วยปิดผนึกบริเวณฐานของแก้ว หากสังเกตตรงก้นด้านนอกของแก้ว Stanley คุณจะเห็นวงกลมเล็กๆ สีเดียวกับฐานของแก้ว นั่นคือส่วนที่ปิดทับชิ้นส่วนที่มีตะกั่วอยู่
หมายความว่า
- ตะกั่วไม่ได้สัมผัสกับเครื่องดื่มภายในแก้ว
- ตะกั่วไม่ได้อยู่ภายนอกตัวแก้วที่เราสัมผัสเวลาใช้งาน
ดังนั้น หากกังวลว่าตะกั่วจะไหลลงมาในกาแฟของคุณ สบายใจได้เลยเพราะไม่ใช่เรื่องที่ควรต้องกังวล อย่างไรก็ตาม หากตัวแก้วบุบหรือเสียหายจนรอยปิดผนึกตรงก้นแก้วเผยอออก ก็มีความเสี่ยงที่ชิ้นส่วนตะกั่วจะหลุดได้
ถ้ารอยปิดผนึกหลุดควรทำอย่างไร?
ปัญหานี้ไม่ควรเกิดขึ้น หากเกิดถือเป็นความชำรุดที่สามารถเคลมกับทางบริษัทได้ตามเงื่อนไขการรับประกัน ปัจจุบันทาง Stanley ระบุว่าอาจใช้เวลาในการดำเนินการเคลมมากกว่าปกติ เนื่องจากมีผู้ส่งเรื่องเข้ามาตรวจสอบเป็นจำนวนมาก
จะตรวจสอบตะกั่วในแก้ว Stanley ได้อย่างไร?
มีชุดตรวจสอบตะกั่วจำหน่ายทั่วไป รวมถึงมีคลิปทดสอบแก้ว Stanley มากมายบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่ที่ควรระวังคือชุดตรวจเหล่านั้นมักออกแบบมาเพื่อตรวจตะกั่วบนสีทาผนัง จึงไม่รับประกันความแม่นยำเมื่อนำมาใช้กับโลหะอย่างแก้วเก็บความเย็น
ที่สำคัญกว่าคือ ชุดตรวจตะกั่วส่วนใหญ่มีอัตราการแสดงผลบวกลวงสูงมาก (คือแจ้งว่ามีตะกั่วทั้งที่ความจริงไม่มี) เพราะฉะนั้นแม้จะเห็นคลิปที่แก้ว Stanley ไม่ผ่านการทดสอบ ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อผลนั้นเสมอไป หากระแวงจนไม่กล้าใช้แก้วจากผู้ผลิตที่มีการยืนยันส่วนประกอบเช่นนี้ ทางเลือกอื่นๆ อย่างแก้วหรือกระติกพลาสติกก็ปลอดภัยหายห่วง
สรุป
แม้เรื่องสารตะกั่วในแก้ว Stanley จะเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลให้ต้องโยนแก้วใบโปรดทิ้งหากยังอยู่ในสภาพดี หากคุณยังเชื่อมั่นในแบรนด์และสินค้า การใช้งานอย่างเหมาะสมและรักษาแก้วให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็ช่วยลดความเสี่ยงลงได้ แต่หากยังคงกังวล การเลือกใช้ภาชนะประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช้โลหะเป็นส่วนประกอบเลยก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้สบายใจได้เต็มร้อยค่ะ