กัญชา คือ หรือในภาษาไทยเรียกว่า ปุ๊น หรือ เนื้อ เป็นชื่อของพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ในวงศ์ Cannabidaceae ใบมนแฉกลึกเข้าไปทางก้านหลายแฉก ดอกสีเขียว ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ใบและช่อดอกเพศเมียที่แห้งใช้สูบมีสรรพคุณทำให้มึนเมา เปลือกลำต้นใช้ทำเชือกป่านและทอผ้า
กัญชา
กัญชา (Cannabis indica (Cannabis sativa forma indica)) หรือในภาษาไทยเรียกว่า ปุ๊น หรือ เนื้อ เป็นชื่อของพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ในวงศ์ Cannabidaceae ใบมนแฉกลึกเข้าไปทางก้านหลายแฉก ดอกสีเขียว ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ใบและช่อดอกเพศเมียที่แห้งใช้สูบมีสรรพคุณทำให้มึนเมา เปลือกลำต้นใช้ทำเชือกป่านและทอผ้า
กัญชาไม่ถือเป็นสารเสพติดเพราะเป็นเพียงพืชล้มลุกจำพวกหญ้า เป็นสารไม่เสพติด ไม่มีผลข้างเคียง แม้จะเลิกเสพกะทันหัน ไม่มีผลต่อความสามารถต่างๆของผู้เสพ เมื่อเทียบกันแล้ว สุราและบุหรี่มีผลกระทบมากกว่ากัญชา ด้วยเหตุที่กัญชาเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทั้งยังเป็นสารไม่เสพติดนี้เองทำให้หลายประเทศในโลกพยายามผลักดันให้กัญชาไม่ผิดกฎหมาย แต่ให้อยู่ภายใต้การควบคุม อีกทั้งหากใช้ในปริมาณไม่มากนัก กัญชายังมีสรรพคุณในทางบวกอีกด้วย
แต่กระนั้นกัญชาก็ยังมีฤทธิ์ที่ทำให้ผู้เสพมีความคิดเลื่อนลอยสับสน ความคุมตัวเองไม่ได้ ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ความจำเสื่อม กล้ามเนื้อลีบ หัวใจเต้นเร็ว หูแว่ว ดังนั้นหากใช้ในทางที่ถูก ปริมาณพอเหมาะแล้ว กัญชาถือเป็นสารไม่เสพติดที่มีประโยชน์ต่อวงการแพทย์อย่างล้นเหลือ ดังนั้นหากใช้ให้ถูกทางก็จะกลายเป็นประโยชน์ยิ่ง
กัญชา รักษาโรคมะเร็ง
ในทางการแพทย์ กัญชามีประโยชน์ในการรักษาโรคและบรรเทาอาการได้หลากหลาย แก้อาการไอ อ่อนล้า โรคข้อ กัญชาใช้บรรเทาหอบหืด เพราะขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม แก้อาการสั่นเพ้อ ปวดหัวไมเกรน และปวดประจำเดือน แม้การใช้จะลดลงเมื่อมีการสังเคราะห์ยากล่อมประสาท และยาแก้ปวดอื่น
กระทั่งโรคมะเร็ง กัญชาก็ยังถูกนำมาใช้เพื่อรักษาผลข้างเคียง ป้องกันการคลื่นไส้อาเจียนจากการทำเคมีบำบัด ใช้เป็นสารกระตุ้นความ อยากอาหาร กัญชาจะช่วยชะลอน้ำหนักลดในโรคมะเร็ง และโรคเอดส์ หรือการใช้รักษาโรคต้อหิน ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงสรรพคุณส่วนหนึ่งของกัญชาเท่านั้น
น้ำมันกัญชา
น้ำมันกัญชา ที่มีการใช้กันแบบลับ ๆ กันอยู่ในตอนนี้ คือการใช้กัญชาอัดแท่ง เอามาแช่กับเอทิลแอลกอฮอล์ 2 วัน แล้วกรองกากกัญชาออกไป จากนั้นก็ต้มแอลกอฮอล์ที่ละลายสารสำคัญของกัญชาออกมาด้วยหลอดแก้วทดลอง เพื่อใช้ความร้อนเพื่อไล่แอลกออฮอล์ออกไปจนเกือบหมดจนเหลือเพียงน้ำมันสีดำ
หลังจากนั้นของเหลวน้ำมันที่เหลืออยู่พอจะเทออกได้ ก็มีนำไปใส่ถ้วยเล็ก ๆ เพื่อไปไล่แอลกอฮอล์ขั้นสุดท้าย จนเหลือแต่น้ำมันเหนียวข้นคล้ายยางมะตอยในอุณหภูมิปกติ เมื่อจะนำมาใช้งานก็ต้องนำมาอุ่นอีกครั้งให้พอเหลวตัว และบางคนก็ผสมกับน้ำมันชนิดอื่น เช่นน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกเพื่อให้เหลวตัวสะดวกในการใช้งาน
กัญชาด้ายแดง
กัญชาเคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยในอดีต เป็นทั้งส่วนผสมในการประกอบอาหาร ใช้ในการรักษาโรค และมันเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลาย จากความเครียดในการทำงาน ในช่วงปี 1960-1970 หรือยุคสงครามเวียดนาม กัญชาไทยเป็นพืชยอดนิยมของกลุ่มทหารที่มาร่วมสงคราม โดยเฉพาะทหารที่มาจากสหรัฐฯ โดย “กัญชาด้ายแดง” หรือ ไทยสติ๊ก (Thai Stick)
Thai Stick คือ วิธีการทำกัญชาแบบโบราณของไทย ทางอเมริกาได้หยิบคอนเซ็ปต์ในการทำ ไทยสติ๊กของเรามาทำ ซิก้ากัญชา ด้วยกัญชาสายพันธุ์ Afgoo ที่ไม่ใช่ ไทยสติ๊กโดยใช้วิธีการเสียบไม้ใผ่และใช้เชือกที่ทำจากใยกัญชามัด บางครั้งมีการราดด้วย Dabs (ซึ่งคล้ายคลึงกับด้ายแดงไทยสมัยก่อนที่ใช้การจุ่ม Cannabis Oil) และพันด้วยใบกัญชาอีกรอบ
ข้อดีของการทำไทยสติ๊ก คือ ได้กัญชาคุณภาพและเก็บรักษาให้อยู่ในคุณภาพที่ดีได้นาน กระบวนการผลิตไม่ได้ลดคุณภาพของกัญชาเหมือนการอัดแท่ง และยังได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีในอเมริกา ส่วนวิธีการสูบนั้น ใช้ได้ทั้งการสูบแบบซิก้า และ การหั่นแล้วสูบผ่านบ้อง
ถึงแม้จะไม่มีเอกสารยืนยันอย่างแน่ชัด และมีข้อมูลจากหลายแหล่งที่แตกต่าง แต่เราก็พอทราบได้ว่า กัญชาด้ายแดงนั่น จุดเด่นที่วิธีการผลิตจากภูมิปัญญาที่ถูกยกย่องไปทั่วโลก เป็นการนำกัญชามาเสียบไม้ไผ่ พร้อมพันด้วยด้ายสีแดง จนกลายเป็นที่มาของชื่อ กัญชาด้ายแดง โดยการผลิตวิธีนี้จะทำให้กัญชามีคุณภาพ รักษาง่ายกว่าการอัดแท่งแบบปกติ
หลังจากสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง เส้นทางกัญชาไทยก็สิ้นสุดลงไปด้วย มีการปราบปรามอย่างหนัก กัญชาไทยก็กลายเป็นของหายาก
กฎหมายกัญชาในประเทศไทย
- กัญชายังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเถท 5 การในการเสพเพื่อความบัญเทิง หรือ สันทนาการยังเป็นความผิดตามกฎหมาย
- การผลิต นำเข้า หรือส่งออก ยังคงผิดกฎหมาย เว้นแต่ ได้รับอนุญาติเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
- การจำหน่ายหรือมีไว้ครอบครอง ยังคงผิดกฎหมาย เว้นแต่ได้รับใบอนุญาต (มีไว้ครอบครอง 10 กก. ขึ้นไปให้สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย)
- ผู้มีสิทธิ์ขออนุญาต จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง กระทรวง, ทบวง, กรม ,องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ,กรุงเทพมหานคร ,สภากาชาดไทย ,องค์การเภสัชกรรม ,ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ,เภสัชกรรม ,ทันตกรรม ,สัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง ,แพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมไทย ,แพทย์แผนไทยประยุกต์ ,ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ
- แพทย์ที่ได้รับอนุญาต สั่งให้ผู้ป่วยใช้เพื่อการวิจัยและการบำบัดรักษาโรคได้ โดยไม่เป็นความผิด
- ผู้ป่วยที่แพทย์สั่งให้ใช้ สามารถครอบครองใช้รักษาโรค ตามที่แพทย์กำหนด โดยไม่เป็นความผิด
วิธีปลูกกัญชา
- นำเมล็ดแช่น้ำสะอาดน้ำดืมที่เป็นขวด ๆ ที่เราดืมกัน 24 ชั่วโมง จะดีกว่าน้ำประปา ในภาชนะที่สะอาดหรือไว้ในถุงซีบล็อคหรือกล่องพลาสติกหรือถาดเพาะเมล็ด วางเก็บไว้ในที่มืดสนิทและอุ่น ๆ ประมาณ 25 องศาเซลเซียสขึ้นไปกำลังดี
- แนะนำให้ไว้ในห้องน้ำ ประมาณ 12 ชั่วโมง เมล็ดจะมีรอยแตกและบางเมล็ดมีรากงอกออกมาเล็กน้อยไม่ต้องตกใจ
- เมื่อได้เวลาครบ 24 ชม. ก็ให้นำกระดาษทิชชู่วางบนจานหรือภาชนะที่สะอาด พรมน้ำที่กระดาษทิชชู่ให้เปียก แบบหมาด ๆ ให้ทั่ว และนำเมล็ดมาวาง แล้วนำทิชชู่มาวาง ด้านบนทับและพรมน้ำอีกครั้งให้ทั่ว นำจานอีกใบมาครอบทำให้มืดและอากาศไม่เข้า และรอดูรากงอกต่อไปอีก 24 ชั่วโมง พร้อมเปิดให้อากาศถ่ายเททุก ๆ 8-10 ชั่วโมง
- เมื่อรากงอกออกมาประมาณ 1-2 เซนติเมตร นำส่วนรากปักลงดินได้ทันที โดยใช้นิ้วจิ้มลงดิน 2-4 เซนติเมตร พร้อมกลบดินเบา ๆ แล้วรดนํ้าให้ชุ่ม (แนะนำให้ใช้ป๊อกกี้ฉีดน้ำ) แล้วนำไว้ใต้แสงอ่อนแดดอ่อน ๆ ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือจะใช้พัดลมเป่าก็ได้แต่อย่าแรง ควรดูแลดินไม่ให้แห้งแตก
วิธีการเพาะเมล็ด
- นำเมล็ดแช่น้ำเปล่าประมาณ 12-24 ช.ม
- เมื่อได้เวลาครบ 24 ชม. ให้นำทิชชู่มาพรมน้ำให้หมาด ๆ ให้ทั่วและนำเมล็ดมาวางบนกระดาษ นำทิชชู่มาวางด้านบนทับและพรมน้ำอีกครั้งให้ทั่ว นำเข้าที่มืด และรอดูรากงอกต่อไปอีก 24 ชม.
- เมื่อรากงอกออกมาประมาณ 1-2 ซ.ม. ให้นำส่วนรากปักลงดินได้ทันทีพร้อมกลบดินเบา ๆ แล้วรดนํ้าให้ชุ่มทั่วไปแล้วนำ ไว้บริเวณแสงอ่อนแดดอ่อน ๆ รอการเจริญเติบโตต่อไป
10 เมืองที่เหมาะแกการสูบกัญชา
เว็บไซต์ TheRichest ได้มีการจัดอันดับ 10 สุดยอดเมืองที่เหมาะแกการสูบกัญชาเอาไว้
- KINGSTON, JAMAICA
- AMSTERDAM, NETHERLANDS
- NIMBIN, AUSTRALIA
- BARCELONA, SPAIN
- PRAGUE, CZECH REPUBLIC
- COLORADO, U.S.A
- PHNOM PENH, CAMBODIA
- VANCOUVER, CANADA
- PARADISE ISLAND, BAHAMAS
- TORTUGUERO, COSTA RICA
วิธีแก้เมาเนื้อ
สงบนิ่งไว้
จำคำนี้เอาไว้ “สงบนิ่งไว้ คุณจะไม่เป็นไร เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีเอง” อาการเมากัญชาจนหลุดโลก จะค่อย ๆ บรรเทาลงไปได้เองภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ที่สำคัญยังไม่เคยมีใครตายเพราะเสพกัญชาเกินขนาดมาก่อน
รู้ลิมิตตัวเอง
ตั้งลิมิตไว้ว่าเราอยากลอยสูงแค่ไหนแล้วไปแค่นั้นก่อน ที่สำคัญควรเลือกเพื่อนที่จะมาร่วมวงให้ดี ต้องเป็นเพื่อนที่ดี และไว้ใจได้ คุณคงไม่อยากอยู่ในสภาพที่เมาจนไม่รู้สึกถึงกายเนื้อของตัวเองโดยมีคนแปลกหน้านั่งมองอยู่ข้าง ๆ แน่นอน
น้ำ
เครื่องดื่มเย็น ๆ เช่น น้ำและน้ำผลไม้ ช่วยบรรเทาอาการคอแห้งปากแห้ง และเพิ่มสมาธิได้ดี แต่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
พริกไทยดำช่วยได้
ใครจะเชื่อว่าพริกไทยดำสามารถช่วยบรรเทาเมากัญชาหลุดโลกได้ แค่เอามาดมหรือเคี้ยวในปริมาณเล็กน้อยก็ช่วยได้เยอะแล้ว
ผ่อนคลายร่างกาย
หาที่เงียบ ๆ นุ่ม ๆ สบาย ๆ ทิ้งตัวลงนอน สูดหายใจเข้าออกลึก ๆ ถ้าสามารถงีบได้ช่วงสั้น ๆ ก็จะดีมาก ๆ
ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง
ถ้าเดินไหว ลองลุกออกไปเดินเล่นข้างนอก สูดอากาศสดชื่น ๆ บ้าง จะช่วยเติมพลังให้ร่างกายได้อย่างดี แต่ถ้ารู้สึกว่าเดินไม่ไหวอย่าฝืน
อาบน้ำให้สบายใจ
ถ้าอยู่ในสถานที่ที่สะดวกและปลอดภัย แนะนำให้ไปอาบน้ำให้ชื่นใจจะช่วยให้ผ่อนคลายจากอาการเมากัญชาได้อย่างดี
หาอะไรทำ
การหาอะไรซักอย่างทำ โดยเป็นกิจกรรมที่เราชอบหรือรู้สึกอบอุ่นหัวใจ เช่น ดูการ์ตูนที่ชอบ ฟังเพลงโปรด เล่นเกมส์ หาของอร่อย ๆ กิน จะทำให้เรารู้สึกดีและรู้สึกปลอดภัยในตอนที่สมองเรากำลังสู้กับอาการเมากัญชาแบบสุด ๆ อยู่
กัญชาแมว
หญ้าแมว หรือ กัญชาแมว หรือในภาษอังกฤษ คือ Catnip (Nepeta cataria) เป็นพืชในตระกูลมิ้นต์ เมื่อโตแล้วขนาดความสูงของต้นจะประมาณ 3 ฟุต ในใบและก้านของ Catnip จะมีสารเคมีที่ออกฤทธิ์ ที่เรียกว่า Nepetalactone
สรรพคุณกัญชาแมว
ใบ Catnip จะทำให้มีอาการเคลิบเคลิ้ม สดชื่น มีความสุข กลิ้งตัวไปมาที่พื้น ตีลังกาไปมา ร่าเริงสุดขีด หรือ คลุ้มคลั่งไปเลย เช่นเดียวกับที่กัญชามีผลต่อมนุษย์ ผลของ Catnip เมื่อสูดดมจะมีฤทธิ์นานเพียง 10 นาทีเท่านั้น เมื่อหมดฤทธิ์เจ้าเหมียวก็จะกลับไปเป็นปกติ ประมาณ 50% ของเจ้าเหมียว เมื่อสูดดม Catnip จะมีการตอบสนอง ส่วนอาการที่ปรากฏก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละตัว แต่ไม่แนะนำให้ลูกแมวสูดดม เพราะน้องแมวอาจจะไม่ตอบสนองต่อสารใน Catnip เลย เมื่อเจ้าเหมียวกัดแทะใบและก้านของ Catnip สาร Nepetalactone จะถูกปล่อยออกมามากกว่าปกติ และจะเปลี่ยนจากอาการเคลิบเคลิ้ม เป็นง่วงนอนแทน หรือ ทำให้สลบได้ ซึ่งในมนุษย์เรานำเอาสรรพคุณด้านนี้มาใช้ในการทำให้สลบ นอกจากนี้ตัว Catnip ยังมีสรรพคุณเหมือน คาโมมาย ซึ่งนำมาใช้ไล่ยุง