เกมเศรษฐี หรือ มอนอพอลี (ภาษาอังกฤษ: Monopoly) เป็นเกมกระดาน คิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกโดย Elizabeth J. Magie และจดสิทธิบัตรไว้เมื่อ ค.ศ. 1904 ต่อมามีการปรับปรุงให้รูปแบบการเล่นง่ายขึ้น เหมือนในปัจจุบันโดยพี่น้องพาร์คเกอร์ (Parker Brothers) เมื่อ ค.ศ. 1935 และถือสิทธิบัตรโดย แฮสโบร บริษัทผลิตเกมจากสหรัฐอเมริกา
เกมเศรษฐี คืออะไร?
เกมเศรษฐี (ภาษาอังกฤษ: Monopoly) เป็นเกมกระดาน เกมสุดฮอตฮิตที่ครองใจคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน แผนที่ในเกมต้นฉบับ มีอยู่ 40 ช่องโดยเป็นชื่อสถานที่จริงในเมือง แอตแลนติกซิตี ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของเกม มีชื่อเฉพาะว่า Rich Uncle Pennybags หรือ Mr. Monopoly ในประเทศไทยใช้ชื่อว่า “เกมเศรษฐี” โดยแผนที่ในเกมเปลี่ยนเป็นจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทย ยกเว้นสองช่องสุดท้าย คือ พัฒน์พงษ์ และ สะพานหัน ผู้ผลิตบางรายก็ใช้ สำเพ็ง
ประวัติเกมเศรษฐี
เกมเศรษฐีเกิดขึ้นจากหญิงสาวอเมริกกันคนหนึ่งคือ อลิวาเบ็ธ แม็กกี ฟิลลิปส์ (Ellizabeth Magie Phillips) ขณะนั้นเธอต้องการแบบจำลองเพื่อให้คนทั่วไปเห็นว่า คนที่เป็นเจ้าของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ร่ำรวยจากค่าเช่าได้อย่างไรและค่าเช่าทำให้ผู้เช่าจนลงได้อย่างไร ซึ่งการเล่นเกมจำลองสถานการณ์แบบนี้ทำให้เข้าใจง่าย อลิวาเบ็ธ ได้ตั้งชื่อเกมของเธอว่า แลนด์ลอร์ด (The Landlord’s Game) และนำไปจดสิทธิบัตรไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904
แม้ว่าตัวเกมจะมีความสนุกแต่ก็นิยมเล่นกันในวงแคบ ๆ ยังไม่มีการผลิตออกมาอย่างจริงจัง จนถึงปี ค.ศ. 1910 บริษัทผลิตเกมชื่อ Economic Game จึงได้ผลิตเกมนี้ออกมา ความนิยมในตัวเกมเกิดจากการบอกต่อกันของผู้ที่เคยเล่น และเกิดการดัดแปลงเกม เช่นเปลี่ยนแปลงกฎติกาบางอย่างเพื่อทำให้เกมสั้นลงและใช้ชื่อว่า อ็อกชั่นโมโนโพลี (Auction Monopaly) เปลี่ยนแปลงชื่อสถานที่เพื่อให้สอดคล้องกับบริเวณที่ผู้เล่นอาศัยอยู่จริง เป็นต้น จนในช่วงปลายของทศวรรษที่ 1920 ผู้คนก็รู้จักเกมในชื่อโมโนโพลีเกม (Monopoly game)
ความแพร่หลายของเกมทำให้เกิดปมประวัติศาสตร์ของเกมขึ้น โดยในปี ค. ศ. 1933 ชาร์ลส บี.ดาร์โรว (Charles B. Darrow) ได้ทำเกมเศรษฐีไว้เล่นเองในบ้านเนื้อหาของเกมมีทั้งการซื้อ การขาย การเช่าอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ไม่นานนักเพื่อน ๆ ก็ขอลอกแบบเกมเพื่อนำกลับไปเล่นที่บ้านตัวเอง ทำให้ชาร์ลสเริ่มผลิตเกมนี้ออกจำหน่ายในราคาชุดละ 4 เหรียญสหรัฐ โดยเขานำไปฝากขายที่ห้างสรรพสินค้าในเมือง ฟิลาเดลเฟีย ความสนุกของเกมทำให้ยอดการสั่งซื้อเกมเพิ่มมากขึ้นจนชาร์ลสคิดว่า เขาต้องนำเกมนี้ไปเสนอขายกับบริษัทผลิตเกมของจะเหมาะสมกว่าการผลิตเอง
ชาร์ลสนำเสนอของเขาต่อบริษัท พาร์คเกอร์ บราเธอร์ (Parker Brother) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตของเล่น แต่ทางบริษัทได้ปฏิเสธเกมของชาร์ลสโดยบอกว่าเกมของเขามีจุดบกพร่องถึง 52 จุด เช่น เกมใช้เวลาเล่นนานเกินไปกติกาซับซ้อนเกินไป เป้าหมายการเป็นผู้ชนะไม่ชัดเจน ชาร์ลสจึงกลับมาจ้างเพื่อนเขาผลิตเกมออกมาจำหน่ายเองจำนวน 5,000 ชุด อีกครั้งที่ความสนุกของเกมส่งผลด้วยการบอกกันปากต่อปาก
จากเพื่อนลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัทพาร์คเกอร์ เรื่อยมาจนถึงหูภรรยาของประธานบริษัท โรเบิร์ต บี.เอ็ม.บาร์ตัน (Robert B.M. Barton) ทำให้ประธานฯ ต้องซื้อเกมนี้มาทดลองเล่น และไม่รอช้าเขาเปิดการเจรจาธุรกิจกับชาร์ลสอีกครั้งโดยเสนอขอซื้อสิทธิ์การผลิตและจำหน่ายเกมอีกทั้งเสนอค่าสวนแบ่งลิขสิทธิ์เกม (royalty) ตามยอดขายออกไปให้ แน่นอนว่าชาร์ลสตอบรับทุกข้อเสนอด้วยความยินดี แถมสัญญาว่าจะพัฒนาเกมเศรษฐีที่เล่นจบในเวลาสั้นกว่าเดิมให้ทางบริษัทด้วย ซึ่งข้อเสนอเรื่องส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์เกมนี้เองทำให้ชาร์ลสกลายเป็นเศรษฐีจริงขึ้นมา เนื่องจากเกมนี้กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของบริษัทพาร์คเกอร์ฯ
บริษัทพาร์คเกอร์ฯ ผลิตเกม เกมเศรษฐี ออกมาจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1935 และโฆษณาว่า ชาร์ลส บี. ดาร์โรวเป็นผู้คิดประดิษฐ์เกมขึ้น แต่ภายหลังบริษัทพบว่ามีเกมที่มีรูปแบบลักษณะการเล่นเดียวกันนี้วางจำหน่าย บริษัทจึงไล่ซื้อลิขสิทธิ์เกมอื่น ๆ เพื่อปกป้องเกมโมโนโพลีไว้
กติกาเกมเศรษฐี กระดาน
1.เตรียมผู้เล่นอย่างน้อย 3 คน มากที่สุด 7 คน โดยในผู้เล่นคนหนึ่งจะต้องเป็นนายธนาคาร
2.นายธนาคารจะต้องแจกสิ่งต่อไปนี้ (1 คน ต่อ 1 ชุด)
- ธนบัตร 5,000 บาท 2 ฉบับ
- ธนบัตร 1,000 บาท 4 ฉบับ
- ธนบัตร 500 บาท 1 ฉบับ
- ธนบัตร 100 บาท 4 ฉบับ
- ธนบัตร 50 บาท 1 ฉบับ
- ธนบัตร 10 บาท 5 ฉบับ
- โฉนดที่ดิน 3 ใบ (ไม่มีการเลือก)
- ตัวเดิน 1 ตัว
3.เมื่อเริ่มเล่น ผู้เล่นสามารถซื้อ จำนอง และประมูลที่ดินได้ก็ต่อเมื่อตอบคำถามถูก โดยคำถามนั้นนายธนาคารจะเป็นผู้สุ่มเลือกให้เกี่ยวข้องกับประเทศนั้น ๆ
4.เมื่อผู้เล่นเดินทางไปยังสถานที่ที่เป็นของผู้เล่นคนอื่น ผู้เล่นคนนั้นต้องจ่ายค่าเช่าให้กับผู้เล่นที่เป็นเจ้าของสถานที่นั้น ๆ ตามที่ระบุไว้ในโฉนด
5.ผู้เล่นคนใด ที่เดินทางไปยังช่องดวงนำโชคหรือเสี่ยงดวง ผู้เล่นคนนั้นต้องเปิดบัตรดวงนำโชคหรือเสี่ยงโชค แล้วทำตามคำสั่งนั้น
6.ผู้เล่นคนใดเดินทางผ่านจุดเริ่มต้น ผู้เล่นคนนั้นจะได้รับเงินจำนวน 2,000 บาท
7.ผู้เล่นใดที่เดินทางไปยังช่อง ไปเข้าคุก ผู้เล่นคนนั้นจะต้องไปที่ช่อง เข้าคุก และหยุดพัก 1 ตา และเมื่อถึงตาที่จะเดิน จะต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 500 บาทให้นายธนาคาร จึงจะได้เดิน
8.ผู้เล่นคนใดที่หยิบได้บัตร’ล้มละลาย’หรือไม่เหลือที่ดิน หรือไม่เหลือเงิน ผู้เล่นคนนั้นจะต้องแพ้ และถ้าเหลือผู้เล่นที่ไม่แพ้เพียง 1 คน ผู้เล่นคนนั้นเป็นผู้ชนะ
หมายเหตุ: ระยะเวลาในการเล่นไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อหมดเวลาขณะเกมยังไม่จบผู้เล่นที่ครอบบครองที่ดินมากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ
ที่มา – wikipedia.org , aseanlearnfun