ปลาโรนิน (Bowmouth guitarfish, Mud skate, Shark ray) ปลากระดูกอ่อนชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhina ancylostoma
มีรูปร่างแตกต่างไปคล้ายกับปลาโรนัน (Rhinobatidae) แต่มีลักษณะที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อป้องกันตัว โดยมีส่วนหัวขนาดใหญ่ รูปทรงแบนกลมและโค้งมน ปากกลม ครีบอกแผ่กว้าง ครีบหลังตั้งสูง เป็น 2 ตอน บริเวณเหนือตามีสันเป็นหนาม ตรงกลางหลังด้านหน้าของครีบหลังมีหนามเรียงตัวกันเป็นแถวชัดเจน พื้นผิวลำตัวด้านบนมีสีเทาอมน้ำตาล มีแต้มเป็นจุดสีขาวจาง ๆ กระจายอยู่ทั่วตัว ด้านท้องมีสีขาว ยิ่งโดยเฉพาะปลาวัยอ่อนจะมีลวดลายที่มากกว่าปลาตัวโต
ขนาดโตเต็มที่มีความยาวได้ถึง 3 เมตร หนักได้ถึง 135 กิโลกรัม พบอาศัยอยู่ตามบริเวณพื้นทะเลที่เป็นดินทรายปนโคลน จัดเป็นปลาที่พบเห็นได้ยากมากในปัจจุบัน พบได้ในทะเลแดง, แอฟริกาตะวันออก, ญี่ปุ่นตอนใต้, ปาปัวนิวกินี, ในน่านน้ำไทยพบที่ฝั่งอันดามัน โดยมีชื่อที่ชาวประมงเรียกว่า “ปลากระเบนพื้นน้ำ” และมีความเชื่อว่าหนามบนหลังนั้นใช้เป็นเครื่องรางของขลังในทางไสยศาสตร์ได้ โดยนิยมนำมาทำเป็นหัวแหวน หรือนำมาห้อยคอ ซ้ำยังมีราคาซื้อขายที่ไม่แพง
เป็นปลาที่นิยมเลี้ยงในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยมีอยู่ที่อันเดอร์วอเตอร์เวิลด์ พัทยา จังหวัดชลบุรี และ SEA LIFE Bangkok Ocean World ที่ห้าง Siam Paragon โดยมีราคาซื้อขายที่แพงมากนับล้านบาท ซึ่งปลาในที่เลี้ยงมีพฤติกรรมที่เชื่องต่อผู้เลี้ยงและกินเก่งมาก
ปลาโรนินเอาไปทำไรอะไร
ด้วยความที่เนื้อปลาโรนิน ขายได้ แม้จะไม่นิยม แต่ส่วนที่มีราคาคือครีบ และหนามบนหลัง ที่มักถูกนำใช้เป็นเครื่องรางของขลังหรือหัวแหวน ทำให้เมือปลาโรนินถูกจับได้มักจะไม่ได้รับการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
พบปลาโรนินในไทย
ในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558 มีการพบปลาโรนินตัวหนึ่งเป็นเพศเมีย ที่บริเวณปากแม่น้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง น้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม ความยาวตลอดตั้งแต่หัวจรดหางประมาณ 2 เมตร อายุประมาณ 10 ปี โดยปลามีบาดแผลถลอกตลอดทั้งตัว เนื่องจากติดอวนประมง ทางศูนย์ประมงศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออกได้นำมาพักฟื้น โดยปลายังมีสุขภาพแข็งแรงและว่ายน้ำเล่นอย่างร่าเริง การพบปลาโรนินในครั้งนี้นับว่าเป็นที่ฮือฮา เนื่องจากในทะเลด้านอ่าวไทยแถบจังหวัดระยอง ไม่ได้พบปลาโรนินเป็นเวลานานกว่า 30 ปีแล้ว
ปลาโรนินเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
ปัจจุบันปลาโรนิน หรือกระเบนท้องน้ำ ถูกประกาศให้เป็นสัตว์คุ้มครองแล้ว โดยหลังวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ใครที่ไม่มีหนังสือการครอบครอง จะถูกจับปรับ 40,000 บาท