เรื่องน่าสนใจ

ประวัติวอลเลย์บอล กฏกติกา ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

วอลเลย์บอล (Volleyball) เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมทั่วโลก หลายคนก็คงอยากรู้จักกับประวัติวอลเลย์บอลและกฏกติกาวอลเลย์บอล ให้มากขึ้นเพื่อความสนุกในการชมและเชียร์เวลามีการแข่งขัน

ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล
ภาพโดย Tania Van den Berghen จาก Pixabay

ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล

วอลเลย์บอลเป็นกีฬายอดนิยมในประเทศไทย ที่มีการแข่งขันระดับชาติ และนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย จนถูกรวมเข้ากับหลักสูตรการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาในหลายโรงเรียน หลายคนก็คงอยากรู้จักกับประวัติวอลเลย์บอลและกฏกติกาวอลเลย์บอล ให้มากขึ้นเพื่อความสนุกในการชมและเชียร์เวลามีการแข่งขัน

ประวัติวอลเลย์บอลในประเทศไทย

วอลเลย์บอลได้แพร่หลายเข้ามาในไทย ตั้งแต่เมื่อใดไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด เพียงแต่ทราบกันว่าในระยะแรก ๆ เป็นที่นิยมเล่นกันในหมู่ชาวจีนและชาวญวนมาก จนกระทั่งมีการแข่งขันระหว่างคณะ ชุมชน สโมสร และสมาคมขึ้น บางครั้งติดต่อแข่งขันกันไปในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีการแข่งขันชิงถ้วยทองคำทางภาคใต้

ปี พ.ศ. 2477 กรมพลศึกษาได้จัดพิมพ์กติกาวอลเลย์บอลขึ้น โดยอาจารย์นพคุณ พงษ์สุวรรณ เป็นผู้แปล และท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในกีฬาวอลเลย์บอลเป็นอย่างยิ่ง จึงได้รับเชิญเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับเทคนิควิธีการเล่น ตลอดจนกติกาการแข่งขันวอลเลย์บอล แก่บรรดาครูพลศึกษาทั่วประเทศในโอกาสที่กระทรวงศึกษาได้เปิดอบรมขึ้น
ใน ปีนี้เองกรมพลศึกษาได้จัดให้มีการแข่งขันกีฬาประจำปีขึ้น และบรรจุกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเข้าไว้ในรายการแข่งขันเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งในหลักสูตรของโรงเรียนพลศึกษากลางได้กำหนดวิชาบังคับให้นักเรียน หญิงเรียนวิชาวอลเลย์บอลและเนตบอล สมัยนั้นมี น.อ.หลวงสุภชลาศัย ร.น. ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา

Advertisement

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2500 ได้มีการจัดตั้ง “สมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย” (Amature Volleyball Association of Thailand) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและเผยแพร่กีฬาวอลเลย์บอลให้เจริญรุดหน้า และดำเนินการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลในระบบ 6 คน มีหน่วยราชการอื่น ๆ จัดการแข่งขันประจำปี เช่น กรมพลศึกษา กรมการคณะกรรมการกีฬามหาวิทยาลัย เทศบาลนครกรุงเทพฯ สภากีฬาทหาร ตลอดจนการแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดแข่งขันทั้งประเภททีมชายและทีมหญิงประจำปีทุกปี

ประวัติวอลเลย์บอลต่างประเทศ

กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) นั้น ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1895 (พ.ศ. 2438) โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน (William G. Morgan) ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men’s Christian Association) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการมีกีฬาสำหรับเล่นในช่วงฤดูหนาวแทนกีฬากลางแจ้ง เพื่อออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจยามหิมะตก

โดย นายวิลเลียม จี. มอร์แกน เกิดไอเดียในการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลขึ้น ขณะที่เขากำลังนั่งดูเทนนิส และเลือกนำเอาตาข่ายกลางสนามของกีฬาเทนนิส มาเป็นส่วนประกอบในกีฬาที่เขาคิดค้น และเลือกใช้ยางในของลูกบาสเก็ตบอล มาเป็นลูกบอลที่ใช้ตีโต้ตอบกันไปมา แต่ยางในของลูกบาสเก็ตบอลกลับให้น้ำหนักเบาจนเกินไป จึงเปลี่ยนไปใช้ลูกบาสเก็ตบอลแทน ซึ่งลูกบาสเก็ตบอลก็มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากจนเกินไปอีก เขาจึงสั่งทำลูกบอลขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ ในขนาดเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว และกำหนดน้ำหนักไว้ที่ 8-12 ออนซ์ จากนั้นจึงตั้งชื่อกีฬาชนิดนี้ว่า มินโทเนตต์ (Mintonette)

ต่อมา ชื่อของ มินโทเนตต์ (Mintonette) ถูกเปลี่ยนเป็น วอลเลย์บอล (Volleyball) หลังได้รับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Professor Alfred T. Helstead) ในงานประชุมสัมมนาผู้นำทางพลศึกษาที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ (Spring-field College) เมื่อปี ค.ศ. 1896 (พ.ศ. 2439) และกลายเป็นกีฬายอดนิยมในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน จนแพร่หลายออกไปทั่วโลก รวมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เป็นระยะ

กติกาวอลเลย์บอล

การชมกีฬาวอลเลย์บอล หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจกติกาวอลเลย์บอลมากนักการวนหน้าที่ของนักกีฬาในสนาม การเสิร์ฟ การเล่นจังหวะในแต่ละแดน เป็นต้น เราจึงมีกฎกติกาการแข่งขันวอลเลย์บอลมาฝากกัน เพื่อการชมกีฬาวอลเลย์บอลให้สนุกและได้อรรถรสในการชมมากยิ่งขึ้น

ขนาดสนามวอลเลย์บอล
ภาพจาก freesportparks.hu

ขนาดสนามวอลเลย์บอล

  • จะต้องเป็นพื้นไม้หรือพื้นปูนที่มีลักษณะเรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวาง
  • เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตร ความสูงจากพื้นประมาณ 7 เมตร มีบริเวณโดยรอบห่างจากสนามประมาณ 3 เมตร
  • แต่หากเป็นสนามมาตรฐานในระดับนานาชาติ กำหนดให้รอบสนามห่างจากสนามประมาณ 5 เมตร ด้านหลังห่าง 8 เมตร และมีความสูง 12.5 เมตร
  • เส้นรอบสนาม (Boundary lines) ทุกเส้นจะต้องกว้าง 5 เซนติเมตร เป็นสีอ่อนตัดกับพื้นสนาม มองเห็นได้ชัดเจน
  • เส้นแบ่งเขตแดน (Center line) ที่อยู่ตรงกลางสนาม จะต้องอยู่ใต้ตาข่าย หรือตรงกับเสาตาข่ายพอดี

ตาข่าย

  • จะต้องมีความสูงจากพื้น 2.43 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 9.5 – 10 เมตร
  • ตารางในตาข่ายกว้าง 10 เซนติเมตร ผู้ติดไว้กับเสากลางสนาม
  • ตาข่ายสำหรับทีมหญิงสูง 2.24 เมตร

ลูกวอลเลย์บอล

  • เป็นทรงกลมมีเส้นรอบวงประมาณ 65-67 เซนติเมตร น้ำหนัก 260-280 กรัม
  • ทำจากหนังสังเคราะห์ที่ยืดหยุ่นได้
  • ซึ่งในการแข่งขันระดับโลกจะใช้ลูกบอล 3 ลูกต่อการแข่งขัน เพื่อความต่อเนื่องหากบอลออกนอกสนาม

ผู้เล่น

  • ในทีมจะต้องมีผู้เล่นไม่เกิน 12 คน ผู้ฝึกสอน 1 คน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน 1 คน เทรนเนอร์ 1 คน และแพทย์ 1 คน
  • ผู้เล่นจะลงเล่นในสนามได้ครั้งละ 6 คน โดยแบ่งออกเป็นหน้าตาข่าย 3 คน และด้านหลังอีก 3 คน
    • ตัวรับบอลหลัก: รับบอลแรกจากฝ่ายตรงข้าม
    • ตัวเซ็ต: เซ็ตบอลให้เพื่อนร่วมทีมตี
    • ตัวตีด้านนอก: ตีลูกบอลจากริมสนาม
    • ตัวตีตรงกลาง: ตีลูกบอลจากหน้าตาข่าย
    • ตัวรับอิสระ: เชี่ยวชาญด้านรับบอล ไม่สามารถตีบอลได้
  • สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นครั้งละกี่คนก็ได้ โดยผู้เล่นเดิมที่ถูกเปลี่ยนออก สามารถเปลี่ยนกลับมาเล่นในสนามได้อีก
  • การแต่งกายในชุดแข่งขัน ต้องแต่งกายเหมือนกันทั้งทีม ประกอบไปด้วย เสื้อสวมคอ กางเกงขาสั้น ถุงเท้า และรองเท้าผ้าใบพื้นยางที่ไม่มีส้น โดยผู้เล่นแต่ละคนจะต้องติดหมายเลขกำกับไว้ที่เสื้อ กำหนดให้ใช้เลข 1-18 เท่านั้น สำหรับหัวหน้าทีมจะต้องมีแถบผ้าขนาด 8×2 เซนติเมตร ติดอยู่ใต้หมายเลขบริเวณอกเสื้อด้วย

การคิดคะแนนกีฬาวอลเลย์บอล

  • ทีมจะได้คะแนนเมื่อลูกบอลตกลงในเขตสนามของฝ่ายตรงข้าม โดยนับเป็นลูกละ 1 คะแนน และหากมีการเสียคะแนน จะต้องเปลี่ยนให้ทีมที่ได้คะแนนเป็นผู้เสิร์ฟ
  • หากทีมไหนได้คะแนนครบ 25 คะแนนก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้นไป แต่หากคะแนนเสมอกันที่ 24-24 จะต้องมีการดิวซ์ (Deuce) หมายถึงต้องทำคะแนนให้มากกว่าอีกฝ่าย 2 คะแนน ถึงจะเป็นผู้ชนะ เช่น 26-24 หรือ 27-25 เป็นต้น
  • ต้องแข่งขันกันให้ชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น
วิธีการเล่นวอลเลย์บอล
ภาพโดย David Mark จาก Pixabay

วิธีการเล่นวอลเลย์บอล

วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เล่นโดยทีมสองทีม แต่ละทีมมีผู้เล่น 6 คน แข่งขันกันโดยตีลูกบอลให้ข้ามตาข่ายไปตกในแดนของฝ่ายตรงข้าม วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่สนุก ท้าทาย และช่วยพัฒนาทักษะหลายอย่าง เช่น การทำงานเป็นทีม การประสานงาน และความคล่องแคล่ว

  • ทีมที่ได้เสิร์ฟ จะต้องให้ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งขวาหลัง เป็นผู้เสิร์ฟเพื่อเปิดเกม จากนั้นผู้เล่นทุกตำแหน่งจะขยับตำแหน่งวนไปตามเข็มนาฬิกา
  • การเสิร์ฟจะต้องรอฟังสัญญาณนกหวีดก่อน และให้เริ่มเสิร์ฟลูกบอลภายใน 5 วินาที
  • ทีมที่ได้คะแนนจะเป็นผู้ได้เสิร์ฟ จนกว่าจะเสียคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามจึงจะเปลี่ยนเสิร์ฟ
  • เมื่อลูกเข้ามาในเขตแดนของทีม จะสามารถเล่นบอลได้มากที่สุด 3 ครั้งเท่านั้น
  • สามารถบล็อคลูกบอลจากฝ่ายตรงข้ามที่หน้าตาข่ายได้ แต่หากผู้เล่นล้ำเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามจะถือว่าฟาวล์
  • สามารถขอเวลานอกได้ 2 ครั้งต่อ 1 เซต ให้เวลาครั้งละ 30 วินาที
  • ทุกครั้งที่แข่งขันจบ 1 เซต จะต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง

เทคนิคการเล่นวอลเลย์บอล

  • การเสิร์ฟ: มีหลายรูปแบบ เช่น เสิร์ฟลอย เสิร์ฟตัด เสิร์ฟลูกโด่ง
  • การรับบอล: ต้องรับบอลให้มั่นคง เพื่อส่งต่อไปยังตัวเซ็ต
  • การเซ็ต: ต้องเซ็ตบอลให้แม่นยำ เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมตีได้สะดวก
  • การตี: มีหลายรูปแบบ เช่น ตีสั้น ตีตัด ตีตบ
  • การบล็อก: ป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามตีลูกบอลข้ามตาข่าย

ประโยชน์ของวอลเลย์บอล

วอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่เพียงแต่ความสนุกสนานในการเล่น ยังมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายและจิตใจของผู้เล่น ดังนี้

ด้านร่างกาย

  • เสริมสร้างกล้ามเนื้อ: วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย การเล่นวอลเลย์บอลเป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแขน ขา หน้าท้อง และลำตัว
  • พัฒนาความคล่องตัว: วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว การเล่นวอลเลย์บอลเป็นประจำ จะช่วยพัฒนาความคล่องตัว ความว่องไว และการทรงตัว
  • เพิ่มความแข็งแรงของหัวใจและปอด: วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้พลังงานสูง การเล่นวอลเลย์บอลเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจและปอด ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น
  • เผาผลาญแคลอรี่: วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่เผาผลาญแคลอรี่ได้ดี การเล่นวอลเลย์บอลเป็นประจำ จะช่วยควบคุมน้ำหนักและลดความอ้วน

ด้านจิตใจ

  • ฝึกสมาธิ: วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับเกม การเล่นวอลเลย์บอลเป็นประจำ จะช่วยฝึกสมาธิให้ดีขึ้น
  • ฝึกการตัดสินใจ: วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว การเล่นวอลเลย์บอลเป็นประจำ จะช่วยฝึกการตัดสินใจให้เฉียบคม
  • ฝึกการทำงานเป็นทีม: วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม การเล่นวอลเลย์บอลเป็นประจำ จะช่วยฝึกการทำงานเป็นทีม การรู้จักแบ่งปัน และการช่วยเหลือผู้อื่น
  • ฝึกการรู้แพ้รู้ชนะ: วอลเลย์บอลเป็นกีฬามีแพ้มีชนะ การเล่นวอลเลย์บอลเป็นประจำ จะช่วยฝึกการรู้แพ้รู้ชนะ ยอมรับผลแพ้ชนะ และการมีน้ำใจนักกีฬา
  • วอลเลย์บอล จึงเป็นกีฬาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย สามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย

ทิ้งท้าย

ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ของกีฬาวอลเลย์บอล หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจกฏกติกา และประวัติวอลเลย์บอลกันมากขึ้น

Advertisement

Source
nachuakpit.ac.thcmu.ac.th
กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button