เรื่องน่าสนใจ

New Normal (ความปกติใหม่) คืออะไร ?

New Normal คือ ความปกติใหม่, ฐานวิถีชีวิตใหม่ หมายถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีตอันเนื่องจากมีบางสิ่งมากระทบ จนแบบแผนและแนวทางปฏิบัติที่คนในสังคมคุ้นเคยอย่างเป็นปกติและเคยคาดหมายล่วงหน้าได้ต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่ภายใต้หลักมาตรฐานใหม่ที่ไม่คุ้นเคย

รูปแบบวิถีชีวิตใหม่นี้ ประกอบด้วยวิธีคิด วิธีเรียนรู้ วิธีสื่อสาร วิธีปฏิบัติและการจัดการ การใช้ชีวิตแบบใหม่เกิดขึ้นหลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงและรุนแรงอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้มนุษย์ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่าจะธำรงรักษาวิถีดั้งเดิมหรือหวนหาถึงอดีต

ที่มาของ New Normal
Bill Gross

New Normal คือ

New Normal เป็นคำศัพท์ทางธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 2551 ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินของสหรัฐฯ ที่เรารู้จักกันในชื่อ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งทำให้เกิด ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในปี 2551-2555

โดยปกติแล้ว วิกฤตเศรษฐกิจจะมีรูปแบบค่อนข้างชัดเจน คือ เมื่อเติบโตไปได้ระยะหนึ่งจะมีปัจจัยทำให้เกิดฟองสบู่ พอวิกฤตผ่านพ้นไปเศรษฐกิจก็จะเริ่มฟื้นตัว และกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในเวลาไม่นาน

Advertisement

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ คือ เศรษฐกิจโลกไม่สามารถกลับไปเติบโตได้ดีแบบเดิมอีก เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไปทั้งที่บางประเทศมีหนี้สาธารณะสูงมาก

Bill Gross นักลงทุนในตราสารหนี้ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Pacific Investment Management (PIMCO) ก็เลยให้นิยามถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลง และไม่สามารถกลับไปเติบโตได้ในระดับเดิมอีกแล้ว

ตัวอย่าง

ซึ่งตัวอย่าง New Normal เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ เศรษฐกิจของจีน เศรษฐกิจจีนขยายตัวมากกว่า 10% มาโดยตลอด แต่หลังจากมีวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ การเติบโตก็ลดลงต่อเนื่องจนถึงปี 2557 และเศรษฐกิจจีนก็ไม่เคยเติบโตเกิน 7% อีกเลย ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงก็เลยออกมาชี้แจงกับชาวจีนว่า ที่เศรษฐกิจจีนเติบโตเหลือแค่ 7% ไม่ได้เป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เป็นความปกติใหม่ทางเศรษฐกิจของจีนในอนาคต

หลังจากนั้น คำนี้ก็ถูกนำมาใช้ในบริบทที่กว้างขึ้น ทั้งในแง่ของวัฒนธรรม วิถีชีวิต และพฤติกรรมของคนในสังคม

การใช้ชีวิตแบบ New Normal

จากการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แนวคิดของการใช้ชีวิตแบบความปกติใหม่ได้กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ที่เปลี่ยนแปลง และสร้างนิยามใหม่ให้กับวิธีการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ในขณะที่เราสำรวจโลกที่ถูกกำหนดโดยโรคระบาด การเปิดรับความปกติใหม่นี้ไม่ได้เป็นเพียงการปรับตัวเท่านั้น เป็นคำเชิญให้จินตนาการถึงกิจวัตร ความสัมพันธ์ และลำดับความสำคัญของเราใหม่

แก่นแท้ของความปกติใหม่อยู่ที่การปรับตัวและนวัตกรรม ตั้งแต่การทำงานจากระยะไกลกลายเป็นเรื่องปกติไปจนถึงการเชื่อมต่อเสมือนจริงที่เชื่อมระยะทางทางกายภาพ เราได้เห็นการผสมผสานที่น่าทึ่งของเทคโนโลยีและความเฉลียวฉลาดของมนุษย์ ความปกติใหม่นี้กระตุ้นให้เราสำรวจดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก ผลักดันขอบเขตเพื่อค้นหาลู่ทางใหม่สำหรับการเติบโตและการเติมเต็ม

ท่ามกลางความท้าทายการใช้ชีวิตแบบความปกติใหม่ช่วยให้เราค้นพบสิ่งที่ดีและสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับสิ่งรอบตัวเรา มันกระตุ้นเตือนให้เราประเมินสิ่งที่สำคัญจริงๆ อีกครั้ง หล่อเลี้ยงความรู้สึกขอบคุณและความยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นใหม่ ในขณะที่เรายังคงโอบรับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ เราเริ่มต้นการเดินทางของการค้นพบตนเอง อ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง และสร้างอนาคตที่ความสามารถในการปรับตัวไม่ได้เป็นเพียงการตอบสนอง แต่เป็นวิถีชีวิต

New Normal มีอะไรบ้าง

New Normal มีอะไรบ้าง

  • การ Work from Home อาจจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นจากหลายกิจการ จนทำให้ผู้ให้บริการเช่าออฟฟิศ ไม่มีรายได้ดีเหมือนเดิม
  • เมื่อคนทำงานที่บ้านมากขึ้น บริษัทสร้างคอนโด-บ้าน ก็อาจจะต้องเน้นการนำเสนอ “ห้องทำงาน” มากขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยเน้นขายแต่ความสะดวกสบายของห้องนั่งเล่น ครัว หรือห้องนอน
  • กลายเป็นว่า ถ้าทำงานที่บ้านได้ การอยู่ในเมืองอาจจะไม่จำเป็นงั้นหรือ? เทรนด์คอนโดห้องเล็ก ๆ ใจกลางเมืองนั้น กำลังถูกท้าทายหรือไม่!? เราน่าจะได้คำตอบชัดเจนขึ้นหลังจากนี้
  • ความสำคัญของ “หน้าร้าน” อาจจะลดน้อยลง เมื่อคนสามารถเลือกวิธีซื้อออนไลน์ หรือกระทั่งสั่งอาหารผ่านบริการเดลิเวอรี่ได้มากยิ่งขึ้น
  • เราอาจจะเห็น ธุรกิจเพลงและดนตรี มีการจัดแสดงในรูปแบบอื่นมาเพื่อสร้างรายได้ เช่น การให้ศิลปินแสดงคอนเสิร์ตผ่านระบบไลฟ์สด แล้วให้คนจ่ายเงินเพื่อเข้ามาชม
  • โรงแรมและที่พัก ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต พฤติกรรมการกินข้าวเช้าแทนที่จะต้องไปกินรวมกันในห้องอาหาร ก็อาจจะเปลี่ยนมาเป็นการเสิร์ฟถึงห้อง ที่กลายเป็นมาตรฐานใหม่
พฤติกรรมของ New Normal ที่อาจเปลี่ยนไป

พฤติกรรมที่อาจเปลี่ยนไป

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พฤติกรรมของคนไทยต้องปรับเปลี่ยนไปซึ่งบางอย่างกลายเป็นความปกติใหม่สวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ

อันดับ 1การท่องเที่ยว
เลือกเที่ยวเฉพาะสถานที่ที่มั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรค การเลือกพาหนะเดินทาง ฯลฯ
71.05%
อันดับ 2ช้อปปิ้ง เดินห้างสรรพสินค้า
ต้องระมัดระวังตัว ไปเมื่อจำเป็น ลดจำนวนครั้งที่ไป มีสิ่งป้องกัน พกเจลล้างมือ ฯลฯ
61.18%
อันดับ 3การเดินทาง
ป้องกันตัวเองเมื่อใช้รถสาธารณะ ตื่นเช้ากว่าเดิม พกเจลแอลกอฮอล์ เดินทางเมื่อจำเป็น ฯลฯ
59.68%
อันดับ 4ปาร์ตี้ สังสรรค์
ลดการปาร์ตี้ สังสรรค์ ไปเฉพาะเท่าที่จำเป็น ระมัดระวังตัวมากขึ้น ฯลฯ
59.40%
อันดับ 5การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโควิด-19
ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ไปในที่แออัด สุ่มเสี่ยง ฯลฯ
56.39%
อันดับ 6การซื้อของกินของใช้
เน้นเรื่องความสะอาด ปลอดภัย เลือกของที่มีประโยชน์ราคาไม่แพง ฯลฯ
47.27%
อันดับ 7การทำบุญ บริจาค
เลือกสถานที่ที่สะอาด ไม่แออัด ไปในวาระสำคัญหรือโอกาสพิเศษเท่านั้น ใช้วิธีการโอนเงิน ฯลฯ
46.43%
อันดับ 8การดูแลสุขภาพตัวเอง
เอาใจใส่สุขภาพ ออกกำลังกาย กินอาหารเสริม วิตามิน ปรึกษาแพทย์ ฯลฯ
45.39%
อันดับ 9การเลือกอาหารการกิน
เลือกอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ๆ มีประโยชน์ต่อร่างกาย ภาชนะปิดมิดชิด ทำทานเอง ฯลฯ
45.11%
อันดับ 10การประกอบอาชีพ/การหารายได้
สู้งาน ขยัน อดทน ไม่เลือกงาน เน้นความปลอดภัย ไม่เสี่ยงโรค ฯลฯ
42.39%

ในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของโลกสมัยใหม่ แนวคิดของความปกติใหม่ได้กลายเป็นมากกว่าแค่คำพูดติดปาก เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ที่กระตุ้นให้เราปรับตัว สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และเติบโต ขณะที่เราสำรวจน่านน้ำที่ไม่มีใครรู้จักในยุคนี้ การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งความปกติใหม่ท้าทายให้เราคิดทบทวนกลยุทธ์ กำหนดลำดับความสำคัญใหม่ และก้าวไปข้างหน้าด้วยความยืดหยุ่น เป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้ในความไม่แน่นอน ยังมีที่ว่างสำหรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น เรามาสำรวจภูมิประเทศใหม่นี้ด้วยเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นและความคิดสร้างสรรค์ ยอมรับความปกติใหม่ไม่ใช่แค่ในฐานะความจำเป็น แต่เป็นโอกาสในการกำหนดอนาคตที่ไม่เพียงแตกต่าง แต่ยังมีแนวโน้มที่น่าทึ่งอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง

Advertisement

กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
Advertisement

NaniTalk S.

เป็นนักเขียนที่ขยันขันแข็งและมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพ เรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอ เชื่อว่าเนื้อหาที่ดีสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button