วันตรุษจีนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวจีน ตรุษจีนถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะต้องกลับมาบ้าน ใครที่อยากรู้จักวันตรุษจีนมากขึ้นลองมาดู 10 เรื่องน่ารู้วันตรุษจีน 2567 กันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
10 เรื่องน่ารู้วันตรุษจีน
เทศกาลฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองตรุษจีน ต้องต้อนรับปีใหม่ด้วยรอยยิ้ม ให้โชคลาภ ความสุขสบายเข้ามาหาเราตลอดทั้งปี
1. วันตรุษจีนทำไมต้องใส่สีแดง
สีแดง ตามความเชื่อของชาวจีนถือเป็นสีแห่งความมงคล สีแห่งความสุข ความโชคดี เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งยังเป็นสีที่ช่วยขับไล่ความชั่วร้าย ความอัปมงคล
ในตำนานของต้นกำเนิดของเทศกาลตรุษจีน เหนียน เป็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่มักจะอาละวาดออกมาจับผู้คนกินเป็นอาหาร ในคืนวันก่อนวันตรุษจีน เหนียนเป็นสัตว์ที่ร้ายกาจมากขนาดที่สัตว์ร้ายอย่าง หมี, เสือ, สิงโต หรืองูพิษ ไม่อาจทำอะไรได้ ทุกครั้งที่เหนียนอาละวาด ผู้คนจะหวาดกลัวมาก
แต่ก็มีผู้เฒ่าผู้หนึ่ง ที่ไม่กลัวเหนียนและอาสาที่จะปราบเหนียน เมื่อเผชิญหน้ากับเหนียน ผู้เฒ่าผู้นี้ได้เปลื้องเสื้อผ้าออก เหลือแต่ชุดชั้นในสีแดง ปรากฏว่าเหนียนหวาดกลัวมาก และผู้เฒ่าก็สามารถปราบเหนียนให้สงบเชื่องได้ และพาเหนียนไปสู่สวรรค์ ผู้คนจึงสรรเสริญว่าผู้เฒ่าผู้นี้คงจะเป็นเซียนหรือเทพเจ้าเป็นแน่
จากความเชื่อตรงนี้ เป็นที่มาของการประดับบ้านเรือนหรือสถานที่ต่าง ๆ ด้วยสีแดงของชาวจีนในโอกาสต่าง ๆ และกลายเป็นสีที่เชื่อว่า เป็นสีมงคล ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ตามคตินิยมของชาวจีน
2. วันฉลองตรุษจีนมากที่สุด 15 วัน
- วันที่ 1 ของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุและนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้กับตน
- วันที่ 2 ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าวอาบ น้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่า วันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด
- วันที่ 3 และ 4 เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน
- วันที่ 5 เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย
- วันที่ 6 ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข
- วันที่ 7 ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ
- วันที่ 8 ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์
- วันที่ 9 จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้
- วันที่ 10 ถึงวันที่ 12 เป็นวันของเพื่อนและญาติ ๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน วันที่สิบสามถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย
- วันที่ 13 ถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย
- วันที่ 14 ควรเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการฉลองตรุษจีน
- วันที่ 15 งานฉลองโคมไฟ
3. วันตรุษจีนนับยังไง
ตามปฏิทินจันทรคติของจีน วันตรุษจีนหรือวันปีใหม่จะนับตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้าย หรืออยู่ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งแต่ละปีก็อาจคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไป เนื่องจากจำนวนวันในเดือนของปฏิทินจีน บางเดือนจะมี 29 วัน บางเดือนจะมี 30 วันเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกับปฏิทิสากลที่เราคุ้นเคย เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้วันขึ้นปีใหม่ของจีนในทุก ๆ ปีไม่ตรงกันเลย โดยจะถือว่าคืนวันที่ 30 เดือน 12 จะเป็นวันส่งท้ายปีเก่า และวันที่ 1 เดือน 1 คือวัน “ชิวอิก” หมายถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ
4. ข้อห้ามวันตรุษจีน
ค้นพบรายการข้อห้ามในช่วงตรุษจีน เรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีและประเพณีของวันหยุดสำคัญนี้
- ห้ามทำงานในวันตรุษจีน : ความเชื่อเรื่องห้ามทำงานในวันตรุษจีนมีสาเหตุมาจาก ชาวจีนเชื่อว่า วันตรุษจีนเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ ถ้าทำงานตั้งแต่ต้นปี ก็จะต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานไปตลอดทั้งปี จึงถือให้วันนี้เป็นวันเที่ยว เป็นวันพักผ่อนสบาย ๆ จะได้สบายไปตลอดทั้งปี
- ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีน :เชื่อว่าจะเป็นการปัดกวาด หรือชะล้างความโชคดีออกไป ชาวจีนจึงไม่ปัด กวาด เช็ด ถู หรือซัก ล้างทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีนเด็ดขาด
- ห้ามสระผมหรือตัดผม : ชาวจีนจะไม่นิยมสระผมหรือตัดผมกันในวันตรุษจีน หรือบางคนก็จะไม่สระผม 3 วันหลังจากวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า ผม เป็นคำพ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า มั่งคั่ง ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน จึงเหมือนกับการนำความมั่งคั่งออกไป
- ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะเบาะแว้ง : ในวันตรุษจีน คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมไปถึงการพูดถึงความตายหรือผี เนื่องจากเชื่อว่า การพูดสิ่งที่ไม่ดีในวันนี้ จะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี รวมไปถึงการที่ไม่พูดถึงเลข 4 เนื่องจากเลข 4 ในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ตาย ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงพยายามไม่ใช้หรือไม่พูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับเลข 4
- ห้ามใส่ชุดขาวดำ : เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้น การสวมเสื้อผ้าสีขาว-ดำในวันนี้จึงหมายถึงลางร้าย คนจีนจึงมักสวมเสื้อผ้าสีแดงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่า สีแดง คือ สีที่จะนำความโชคดีมาให้
- ห้ามให้ยืมเงิน : คนจีนบางคนอาจจะหมายรวมการที่ไม่ให้ยืมสิ่งของต่าง ๆ นอกเหนือไปจากเงินแล้ว ซึ่งมีความเชื่อที่ว่า การให้ยืมเงินในวันนี้จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด รวมไปถึง หากใครที่ติดเงินใครไว้ ก็ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่า หากติดเงินใครในวันตรุษจีนแล้ว คนคนนั้นก็จะมีหนี้สินตลอดปีไม่จบไม่สิ้น
- ห้ามร้องไห้ : คนจีนเชื่อกันว่า หากร้องไห้ในวันขึ้นปีใหม่ จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจไปตลอดทั้งปี ดังนั้น แม้ในวันนี้เด็กเล็กจะดื้อขนาดไหน อากง อาม่า ก็อาจจะปล่อยให้วันหนึ่ง เพราะไม่อยากตีให้เด็กต้องร้องไห้ในวันนี้
5. ความหมายอาหารไหว้ตรุษจีน
ค้นพบอาหารตรุษจีนแบบดั้งเดิมด้วยอาหารเลิศรสของเรา ดื่มด่ำกับรสชาติอันเข้มข้นและความสำคัญทางวัฒนธรรมของงานฉลองเทศกาลนี้
- ไก่ หมายถึง ความสง่างาม ยศ และความขยันขันแข็ง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องเป็นไก่เต็มตัว หมายถึง มีหัว ตัว ขา ปีก มีความหมายถึง ความสมบูรณ์
- เป็ด หมายถึง สิ่งบริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย
- ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์
- หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้
- ปลาหมึก หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ (เหมือนปลา)
- บะหมี่ยาวหรือหมี่ซั่ว หรือฉางโซ่วเมี่ยน หมายถึง อายุยืนยาว
- เม็ดบัว หมายถึง การมีบุตรชายจำนวนมาก
- ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน
- สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่งร่ำรวย
- หน่อไม้ หมายถึง การอวยพรให้ร่ำรวยผาสุก
- กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา และขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
- แอปเปิล หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ
- สาลี่ หมายถึง โชคลาภมาถึง (ควรระวังไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ)
- ส้มสีทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
- องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน
- สับปะรด คำจีนเรียกว่า “อั่งไล้” แปลว่า มีโชคมาหา
- ขนมเข่ง คือ ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต ขนมเข่งที่ใส่ในชะลอม หมายถึง ความหวานชื่นอันสมบูรณ์
- ขนมเทียน คือ ความหวานชื่น ราบรื่น รูปลักษณ์เป็นกรวยแหลมมีลักษณะเป็นมงคลเหมือนเจดีย์
- ขนมไข่ คือ ความเจริญเติบโต
- ขนมถ้วยฟู คือ ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง เฟื่องฟู
- ขนมสาลี่ คือ รุ่งเรือง เฟื่องฟู
- ซาลาเปา หรือ หมั่นโถว คือ ห่อโชค โชคดี
- จันอับ (จั๋งอั๊บ) คือ มีความสุขตลอดไป
6. ติดตุ๊ยเลี้ยงหรือคำอวยพรปีใหม่ (จีน)
ติดตุ๊ยเลี้ยงหรือคำอวยพรปีใหม่ (จีน)
เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน “ตุ๊ยเลี้ยง” เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ถ้าไม่มีความรู้ก็จะไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ ซึ่งแหล่งใหญ่ก็คือที่เยาวราช
คำอวยพรที่เขียนจะประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ทำมาค้าขึ้น ให้มั่งมีเงินทอง ติดตามสองข้างประตูบ้าน และมีอีกแผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก เขียนคำว่า “ชุก ยิบ เผ่ง อัง” แปลว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย รวมทั้งติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า “หนี่อ่วย” ซึ่งเป็นภาพมงคลของจีน ถือเป็นงานศิลปะที่สำคัญอีกอย่างนอกเหนือจากการตัดกระดาษ มักติดที่ประตูหน้าบ้าน
เราสามารถพบเห็นตุ้ยเหลียนได้ทั่วไป ในเหตุการณ์ต่างๆตามช่วงชีวิต ตั้งแต่เกิด สอบเข้า แต่งงาน ย้ายบ้าน เลื่อนตำแหน่ง จนถึงงานศพ ตุ้ยเหลียนจึงมีความเกี่ยวพันฝังลึกลงไปในวิถีชีวิตของคนจีนมาตั้งแต่โบราณ
การใช้ตุ้ยเหลียนในเมืองไทยมีมาพร้อมกับคนจีนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน จะเห็นได้ตามบ้านจีนโบราณ อย่างบ้านโซวเฮงไถ่แห่งย่านตลาดน้อย ที่สร้างมาตั้งแต่ยุคต้นรัตนโกสินทร์ หรือในงานศพที่จัดขึ้นในย่านเยาวราช ตามรูปถ่ายเก่าจะเห็นว่ามีตุ้ยเหลียนเขียนไว้อาลัยแก่ผู้ที่จากไปเต็มไปหมด
ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวไทยนิยมติดตุ้ยเหลียน หรือสมัยใหม่ก็เรียกกันว่าป้ายมงคล เป็นการสร้างบรรยากาศการค้าขายด้วยในอีกทางหนึ่ง
7. การให้และการรับอั่งเปา
อั่งเปา
อั่งเปา คือ เป็นเงินของขวัญที่มีการให้และรับในวัฒนธรรมจีน ชื่ออั่งเป่าภาษาจีนมาความหมายถึง ซองสีแดง ที่มอบให้โดยมีเงินบรรจุอยู่ด้านใน ผู้ใหญ่จะมอบอั่งเปาให้กับเด็ก ๆ ซึ่งจำนวนก็ขึ้นอยู่แต่ละครอบครัวว่าจะมากหรือน้อย บ้านไหนมีเด็กเยอะ
แต๊ะเอีย คือ เหรียญที่มีรูตรงกลาง ในสมัยก่อนเหรียญจะมีรูตรงกลางร้อยเชือกสีแดงเป็นพวงเพื่อนำมามอบให้ลูกหลานบริวารในวันตรุษจีน
8. ของขวัญตรุษจีน
ของขวัญปีใหม่จีนที่สมบูรณ์แบบด้วยตัวเลือกแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ที่เราคัดสรร ช้อปตอนนี้เพื่อเฉลิมฉลองที่น่าจดจำ
- หยก : พลังของหยกตามความเชื่อ หยกมีพลังของความเป็นอมตะทำให้ผู้ที่ครอบครองหยกนั้นมีอายุยืนยาว
- คางคกสามขา : รูปปั่นคางคกสามขาเป็นของมงคลสำหรับผู้ที่ทำมาค้าขาย เหมาะที่จะมอบเป็นของขวัญสำหรับผู้ที่ทำกิจการ
- ผี่อิ่ว : รูปปั้นผี่อิวมีลักษณะเป็นสัตว์ป่ารูปร่างคล้ายหมีมีลักษณะดุดัน มีพลังขจัดสิ่งชั่วร้ายและให้โชคลาภ นิยมวางไว้ตามสถานประกอบการต่างๆ
- รูปปั้นเต่า : หากมอบให้ผู้สูงอายุ ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยเต่าเป็นเครื่องหมายของการมีอายุยืนยาวและ สุขภาพแข็งเเรง แต่หากมอบให้หนุ่มสาว จะนำพาโชคลาภมาให้
- ปี่เซียะ : เครื่องรางยอดนิยมที่คลายคนรู้จักกันดีหัวเป็นมังกร เขาเหมือนกวาง มีหาง อ้าปากกว้าง ให้คุณกับผู้บูชาด้าน โชคลาภ ค้าขาย
9. สิ่งต้องห้ามให้กันวันตรุษจีน
รายการสิ่งของต้องห้ามในช่วงตรุษจีนและรับรองว่าการเฉลิมฉลองจะราบรื่น ติดตามข่าวสารและหลีกเลี่ยงวัฒนธรรมที่ผิดศีลธรรม
- รูปปั้นไฉ่ซิงเอี๊ย : เพราะถือว่าเป็นการมอบโชคลาภให้กับผู้อื่น และอาจทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับมีปัญหาด้านการเงินทั้งคู่
- กระเป๋าสตางค์ : เพราะถือว่าเป็นการส่งทรัพย์สินของตนเองไปให้ผู่อื่น ส่งผลให้เงินทองรั่วไหล
- รองเท้า : เนื่องจากคำว่ารองเท้าในภาษาจีน พ้องเสียงกับคำว่าสิ่งชั่วร้าย จึงนับว่าเป็นของที่ไม่มงคลไม่ควรมอบให้กันในช่วงตรุษจีน
- นาฬิกา : คำพ้องเสียงในภาษาจีนคำว่านาฬิกานั้นตรงกับคำว่าการส่งศพ ดังนั้นจึงไม่ควรมอบให้กันเป็นอย่างยิ่งในช่วงตรุษจีน
10. สถานที่ไหว้ขอพรวันตรุษจีน
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพรในวันตรุษจีน สำรวจความงามและประเพณีของสถานที่อันเป็นที่เคารพแห่งนี้
- วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่ 1)
- วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่)
- วัดมังกรบุปผาราม (วัดเล่งฮัวยี่)
- วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2)
- ศาลเจ้าแม่กวนอิม (มูลนิธิเทียนฟ้า)
- ศาลเจ้าพ่อเสือ (ศาลเจ้าตั่วเล่าเอี้ย)
- ศาลเจ้ากวนอู และเทพเจ้าม้า
- ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
- ศาลเจ้าปุงเถ่ากง
- ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี
โดยสรุป การเจาะลึกรายละเอียดปลีกย่อยของวันตรุษจีนเผยให้เห็นเรื่องอันน่าหลงใหลของประเพณี สัญลักษณ์ และความสำคัญทางวัฒนธรรม ในขณะที่คุณเปิดรับการเฉลิมฉลองอันมีชีวิตชีวา ขอให้ความรู้ที่เพิ่งค้นพบนี้ช่วยเพิ่มความซาบซึ้งให้กับการเฉลิมฉลองอันเก่าแก่นี้ ตั้งแต่การตกแต่งสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงงานเลี้ยงที่หรูหรา และการเชิดมังกรอันน่าตื่นเต้น แต่ละองค์ประกอบสานต่อเรื่องราวแห่งการฟื้นฟู ความสามัคคีในครอบครัว และความหวังสำหรับอนาคต ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้มีส่วนร่วมที่มีประสบการณ์หรือผู้มาใหม่ที่อยากรู้อยากเห็น ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับที่นี่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ตรุษจีนของคุณ ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับมรดกอันลึกซึ้งและจิตวิญญาณอันสนุกสนานที่มันรวบรวมไว้
ภาพจาก – www.freepik.com